สรุปข่าวห้องเรียน วิชา อริยสัจ 4 สัปดาห์ที่ 32

สรุปข่าวห้องเรียน วิชา อริยสัจ 4 สัปดาห์ที่ 32

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 เวลา 12.00-15.30 น.

วันนี้มีนักศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมศึกษาเรียนรู้ทั้งหมด 52 ท่าน บรรยากาศในห้องเรียนเต็มไปความเบิกบาน คุณแพรลายไม้ กล้าจน ผู้ดำเนินรายการ เปิดห้องเรียนด้วยสโลแกน พูดคุยภาษาโลกุตระ อริยสัจ 4 จากนั้น ดร. วรางคณา ไตรยสุทธิ์ (คุรุพุทธพรฟ้า) ได้ชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์ การให้คะแนน วิชา อริยสัจ 4 60 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้

    • ควรปรับปรุง     7 คะแนน
    • พอใช้             10 คะแนน
    • ดี                    13 คะแนน
    • ดีมาก             15 คะแนน

จากนั้นคุณปิ่น คำเพียงเพชร ได้แจ้ง หลักการโหวตให้คะแนน สำหรับนักศึกษาที่มาเสนอการบ้านในชั้นเรียน ดังนี้

    1. ความเบิกบานระหว่างการนำเสนอ
    2. การนำเสนอที่กระชับ เข้าใจได้ง่าย
    3. การเขียนถูกต้องตามหัวข้อ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
    4. การบ้านที่นำเสนอ สามารถปฏิบัติสู่ความพ้นทุกข์ได้ตามลำดับ

วันนี้มีนักศึกษานำเสนอการบ้าน เพื่อบำเพ็ญทั้งหมด 5 ท่าน

  1. คุณปุณยนุช ภูมิอมร เรื่อง กลัวญาติถูกหลอก
    ท่านมีความทุกข์ใจเมื่อญาติมาเล่าให้ฟัง เรื่องที่ญาติไปก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในที่ของฝ่ายหญิง แล้วมีแนวคิดในการทำธุรกิจ ค้าขายที่ไม่สัมมาอาชีพ ค้าขายเนื้อสัตว์ ท่านก็ไม่อยากให้ญาติต้องไปเกี่ยวข้อง อยากให้เขาเลิกกัน เพราะกลัวว่าจะเป็นการนำวิบากร้ายมาสู่ญาติของท่าน แต่ท่านก็ได้ใช้หลักอริยสัจ 4 พิจารณาเรื่องกรรม ว่าเราหรือใครได้รับอะไรก็เป็นของคนนั้น ๆ ญาติของท่านจะโดนหลอก หรือไม่ก็เป็นวิบากดีร้ายของญาติ ก็พอทำให้ท่านคลายใจได้บ้าง อาจารย์ดร.ใจเพชร กล้าจนได้ให้สัมมาทิฏฐิว่า ความอยากเป็นทุกข์ เราไปอยากให้ญาติเลิกไปเกี่ยวข้องกับใคร ๆ เพราะกลัวว่าเขาจะโดนหลอก เราไปควบคุมวิบากดีร้ายใครไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุม ความอยากของเราได้ เราทุกข์เพราะความไม่ได้ดังใจหมาย เราต้องล้างความอยากของเรา และปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นของเรา พิจารณาวิบากกรรมเขาวิบากกรรมเรา คุรุบ่าวสุขแสงพุทธได้วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราได้รับเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เราหรือใครได้รับอะไรเพราะเราทำมาส่งเสริมมา สิ่งที่เราได้รับคือกรรมในปัจจุบัน
  2. คุณนฤมล ยังแช่ม เรื่อง เพราะเราเคยเป็นเช่นนั้นมา
    ท่านมีความทุกข์จากการดูแลคุณแม่ ช่วงนี้ท่านมีอาการหงุดหงิดเวลาอาบน้ำ ท่านเห็นอาการใจของท่านที่ชังเวลาแม่มีอาการหงุดหงิดเวลาอาบน้ำ จึงได้พิจารณาล้างกิเลสของท่านว่าอาการที่แม่เป็นอยู่นี้แม่ก็ไม่ได้อยากเป็น แต่เพราะทุกคนมีวิบากร้ายที่ต้องชดใช้ รับแล้วก็หมดไป ท่านพิจารณาเรื่องกรรมว่าท่านก็เคยเป็นเช่นนั้นมา ตอนเราเป็นเด็กแม่ก็ดูแลเรามา แม่เป็นครูสอนเราตั้งแต่เด็ก และในตอนนี้แม่ก็มาเป็นแบบฝึกหัดในการล้างกิเลสของเราด้วย ท่านขอบคุณพี่น้องที่ให้กำลังใจ ท่านจะพรากเพียรล้างกิเลสที่เหลืออยู่ต่อไป
  3. คุณปิ่น คำเพียงเพชร เรื่อง ใครกันแน่ที่มีพฤติกรรมไม่ดี
    ท่านมีทุกข์ที่ท่านได้หลุดพูดไปทิ่มแทงพี่น้องด้วยหอกปาก เมื่อเห็นทุกข์ท่านได้พิจารณาว่า ความชังเป็นทุกข์ ถ้าไม่มีชอบชัง ก็ไม่ต้องทุกข์ใจ พิจารณาดังนี้ ก็รู้สึกสำนึกผิดขอโทษ ขอขมา และตั้งจิตเคารพในส่วนดี เมตตาในส่วนด้อยของพี่น้อง และต่อไปจะพยายามมีสติไม่ให้ไปเพ่งโทษถือสาพี่น้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
  4. คุณนาลี วิไลสัก เรื่อง ผิดศีลแล้วกลัววิบากร้ายซัด
    ท่านรู้สึกเศร้าใจ กลัวจะได้รับวิบากร้าย เพราะตัวเองผิดศีล เพราะท่านยึดว่าได้ตั้งศีลไว้แล้ว ต้องปฏิบัติให้ได้ ชังที่ตัวเองผิดศีลหลายครั้ง เมื่อท่านเห็นทุกข์แล้วท่านจึงได้ พิจารณาว่าโลกนี้พร่องอยู่เป็นนิจ เมื่อผิดพลาดแล้วต้องแก้ไข ไม่มาทำทุกข์ทับถมตน กล้าทำต้องกล้ารับ และได้ใช้บททบทวนธรรมมาพิจารณาว่า จงฝึกอยู่กับความเป็นจริงของชีวิต ที่พร่องอยู่เป็นนิตย์ อย่างผาสุขให้ได้ และท่านได้เพิ่มอธิศีลสู้กิเลสด้วยใจที่เบิกบาน ท่านเล่าว่าการได้เข้ามาเสนอการบ้าน ทำให้ได้ปัญญาเพิ่มในการสู้กับกิเลสต่อไป
  5. คุณศิริพร ไตรยสุทธิ์ เรื่อง ไปถึงภูเก็ตแล้วทำไมไม่พาลูกไปเที่ยวทะเล
    ท่านรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เมื่อถูกญาติต่อว่าไม่พาลูกไปเล่นน้ำทะเล ท่านจึงได้ล้างกิเลสของท่าน โดยท่านได้พิจารณาและเข้าใจเรื่องกรรมว่าแต่ก่อนท่านก็ชอบไปเจ้ากี้เจ้าการชีวิตผู้อื่นมา ก็ยอมรับวิบากที่เกิดขึ้น รับแล้วก็หมดไป ต่อไปเราก็ต้องระมัดระวังการกระทำของตนเองให้มากขึ้น จะได้ไม่สร้างวิบากกรรมใหม่ในครั้งต่อ ๆ ไป

ในช่วงท้ายเราจากลากันด้วย สโลแกน พูดคุยภาษาโลกุตระ อริยสัจ 4

อนุโมทนาสาธุกับพี่น้องนักศึกษาทุกท่าน

เจริญธรรม สำนึกดี มีใจไร้ทุกข์
อรวิภา กริฟฟิธส์ : รายงาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *