รายการ “รวมพลังภาคกลางสู้กิเลส” ครั้งที่ 19
วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564
เวลา 19.15 – 21.43 น.
ประเด็นเด่นจากรายการ
-
- น้ำมีคุณค่า แต่ใจผาสุกมีคุณค่ามากกว่า
- น้อยใจ เพราะเข้าใจผิด
- ทำดี ใจดี ก็ดีทุกที่
วันนี้มีจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ภาคกลาง เข้าร่วมรายการทั้งหมด 30 ท่าน ดำเนินรายการ โดย คุณจาริณี กวีวิวิธชัย (เอ๋) และคุณมาลิน จุ้ยทรัพย์เปี่ยม (ต่าย) ซึ่งครั้งนี้มีผู้ร่วมแบ่งปันการบ้านอาริยสัจ 4 จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ คุณอรุณรัตน์ ไกรลาศศิริ (หม่วย) คุณเครือแก้ว คุณะวัฒนา (แก้ว) และคุณสำรวย เดชดี (รักศีล)
________________________________________
เริ่มต้นด้วยการแนะนำวิธีการส่งการบ้านอาริยสัจ ๔ ของสถาบันวิชชาราม บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นเช่นเคย พี่น้องทุกท่านช่วยกันวิเคราะห์การบ้านและร่วมกันหากิเลสตัวจริงให้กับผู้แบ่งปันการบ้าน ดังนี้
เรื่อง หงุดหงิดน้องสาว (คุณอรุณรัตน์ ไกรลาศศิริ) :
ทุกข์ คือ อยากให้น้องสาวไม่ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสิ้นเปลือง เช่น หลังจากตนเองล้างจาน ล้างผักไปแล้ว ทำไมน้องสาวไม่ไว้ใจ และจะต้องมาล้างซ้ำอีกครั้ง หรือ หลังจากที่น้องสาวล้างผักแล้ว ทำไมไม่นำน้ำไปรดตันไม้ จะเป็นการใช้ประโยชน์มากกว่า เกิดอาการหงุดหงิดรำคาญใจจนไม่อยากทักทายน้องสาว แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากกว่านี้ เมื่อระลึกถึงวิบากกรรมที่ตนเองก็เคยไม่รู้จักคุณค่าของน้ำ จนอาม่า และคุณพ่อบ่น ทำให้วางใจได้ เพราะรู้ชัดว่าเหตุการณ์นี้เป็นภาพ สะท้อนการกระทำของตนเอง ใจปล่อยวางให้น้องสาวได้เรียนรู้เอง และตั้งใจในการรู้จักประมาณการกระทำของผู้อื่น จะทำความดีได้เท่าใด ก็ให้เป็นไปตามธรรม
สรุปการวิพากย์และสังเคราะห์ โดย หมู่มิตรดี :
-
- การติดดีจนอยากให้ผู้อื่นต้องทำตามดั่งใจเราหมายนั้น สร้างทุกข์ใจจนกลายเป็นความชัง
- หลงโลภเอาดีจากผู้อื่น จะสร้างทุกข์ให้ทั้งตนเองและผู้อื่น
- ความไม่พอใจแม้เล็กน้อยที่คิดไว้ และไม่ยอมพิจารณาและฆ่าในเวลานั้น ๆ จะทำให้กิเลสตัวนั้นค่อย ๆ พอกโต ทำให้ทุกข์ใจมากขึ้นไปอีก และหลงผิด
เรื่อง น้อยใจที่เพื่อนตัดสินเรา (คุณเครือแก้ว คุณะวัฒนา) :
ทุกข์ คือไม่อยากให้เพื่อนซึ่งรู้จักและบำเพ็ญด้วยกันมานานแล้ว มาพูดกับตนองว่า “ทำไมแจกของ เหมือนจะขายเลย” รู้สึกน้อยใจที่ทำความดี แต่เพื่อนเข้าใจว่าจะค้าขาย หลังจากได้แบ่งปันเรื่องราวแล้ว เพื่อนท่านนี้เปิดเผยความในใจว่า ไม่เคยคิดเช่นนั้นกับคุณแก้ว คุณแก้วเข้าใจผิด เพื่อนท่านนี้เพียงแนะนำด้วยความห่วงใย เพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดส่งของแจก คิดแทนคุณแก้วเท่านั้น หลังจากเปิดใจแล้ว ทุกท่านล้วนมีรอยยิ้มเบิกบานหัวเราะ ทำให้คลายใจกันและกัน คุณแก้วมีใจพ้นทุกข์ และผาสุก เพราะได้พูดคุยกับพี่น้อง ทั้งยังยิ่งเชื่อชัดเรื่องกรรมของการผิดศีลข้อ 4 ที่ได้เคยพูดเพ้อเจ้อเสียดสีผู้อื่นไว้ในอดีต
สรุปการวิพากย์และสังเคราะห์ โดย หมู่มิตรดี :
-
- เป็นกำลังใจให้คุณแก้วมุ่งมั่นทำความดีต่อไป โดยไม่แบกความคิดหรือคำพูดของผู้อื่น ใครจะคิดอย่างไรกับเราก็ได้ จงเชื่อมั่นในการทำความดีของตนเอง
- คุณแก้วมีความพัฒนาในการเห็นกิเลสของตนเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- เข้าใจผิดคำพูดของเพื่อน เพราะไม่ได้เปิดใจคุยกัน เมื่อหมดวิบากแล้ว ด้วยการเปิดเผยความจริงต่อหมู่มิตรดี ทำให้คลายการหลงเข้าใจผิดกันและกัน
- วิบากจากการทำให้สามีลำบากใจในการเข้ามาช่วยทำความดี เข้ามาช่วยให้ย้อนดูตนเองให้มากยิ่งขึ้น และประมาณในการทำความดีให้เหมาะสมและไม่เบียดเบีนคนข้างกาย
- พึ่งตนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้จะทำความดี
- การกระทำเดียวกัน มีเหตุผลเป็นล้านเหตุผล จึงไม่ควรเดาใจผู้อื่น
- วิบากในการเผลอตัดสินการกระทำของผู้อื่น ทำให้มีวิบากเศร้าหมอง จนเกิดอาการน้อยใจ เมื่อสำนึกผิดเริ่มต้นการกระทำแบบใหม่ วิบากร้ายก็จะค่อย ๆ ลดลง
เรื่อง รอทำบุญเก้อ (คุณสำรวย เดชดี) :
ทุกข์ คือ เตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูอาหารเพื่อแจกจ่ายพี่น้องท่านที่จะมาบำเพ็ญกุศลร่วมกันที่สวนป่านาบุญ 9 แต่เพราะเหตุการณ์ช่วโควิดระบาดหนัก พี่น้องจึงมีมติให้งดกการรวมมวลทำความดีไปก่อนในระยะนี้ ทำให้วัตถุดิบที่เตรียมไว้ อดได้ทำกุศลกับพี่น้อง ใจอยากบำเพ็ญแบ่งปัน แต่ใจคลายทุกข์ เพราะชัดกับกิเลสที่มาหลอก ด้วยปัญญาว่า “เราจะบำเพ็ญที่ใดก็ได้” น้อมรับมติหมู่และจะเพียรบำเพ็ญเท่าที่ตนเองสามารถทำได้อย่างดีที่สุด
สรุปการวิพากย์และสังเคราะห์ โดย หมู่มิตรดี :
-
- กิเลสในเหตุการณ์นี้มีหลายตัว แนะนำให้พิจารณาทุกตัว แต่ค่อย ๆ ทำทีละตัว เพื่อให้ชัดยิ่งขึ้น
- การไม่ยึดมั่นถือมั่นในการทำความดีแบบล็อกสเปคนั้นทำให้ใจผาสุก จะได้ทำดีในรูปแบบไหน ก็ย่อมเกิดกุศลได้ทั้งนั้น
- การน้อมรับมติหมู่ ในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ จะทำให้ได้ล้างอัตตาของตนเองอย่างดีที่สุด
สรุปเนื้อหาของวันนี้ คือ
-
- วิบากร้ายที่เราเคยพลาดทำไว้ เข้ามาครอบทวารทั้ง 6 จนหลงเข้าใจผิดเพื่อนพี่น้องที่มีความปรารถนาดีต่อเรา แต่การได้นำเรื่องราวมาแบ่งปัน ทำให้ความเข้าใจผิดนั้นกลับกลายเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ฟัง ยิ่งย้ำการเชื่อชัดในเรื่องกรรม
- การเปิดใจของพี่น้องในแต่ละด้านของการกระทำ ทำให้เลิกเดาใจจากการกระทำของผู้อื่น คลายความขัดเคืองหมองใจที่มีต่อกัน นี่คือประโยชน์สูงสุดของการ “อปริหานิยธรรม” ทำให้เกิดความเจริญอย่างเดียว ไม่มีเสื่อม
รายงานข่าวโดย :
ศิริพร คำวงษ์ศรี (มั่นผ่องพุทธ) / สวนป่านาบุญ ๙ สังกัดภาคกลาง