กสิกรรมไร้สารพิษบารายคัลเจอร์(ภูเขาน้อยในล้อยาง) : นางวันยา เรียนจันทร์ (วันแสงพุทธ : อี๊ด)
อาชีพเปิดร้านขายเครื่องนอนจังหวัดอยุธยา
วิธีทำ
- ถ้าสามารถขุดดินใต้ล้อยางได้ก็ยิ่งดีเก็บน้ำได้มากขึ้น
- ตัดขอบล้อยางเพิ่มพื้นที่ในการปลูก
- ใส่หินลงในล้อยางไม่ต้องปิดก้นล้อยาง
- วางขวดน้ำขนาด 5 ลิตรบนหิน ตรงกลาง ตัดก้นเจาะรูรอบข้าง ตัดส่วนบนให้เปิดปิดได้สำหรับใส่เศษอาหารและจุลินทรีย์พลังศีลได้
- ใส่อินทรีย์วัตถุแห้งเช่น กิ่งไม้ ใบไม้ เล็กใหญ่ กาบมะพร้าว ฯลฯ
- ใช้เศษผ้าเก่าแทนมุ้งสีฟ้า
- ใส่ดินหมัก จากจุลินทรีย์พลังศีลและเศษอาหาร ในครัวเรือน
- ปลูกพืช
- คลุมดิน ด้วยอินทรีย์วัตถุแห้ง
ประโยชน์
- ได้แก้ปัญหาพื้นที่แฉะ น้ำขัง หน้าฝน ช่วยรักษาความชื้นในหน้าแล้ง
- ได้แก้ปัญหาขยะสดในครัวเรือนตนเอง
- ได้แก้ปัญหาขยะแห้งในครัวเรือนตนเองและชุมชนที่อาศัย
- ได้ลงมือปลูกผักและสมุนไพรไร้สารพิษ
- ได้ฝึกปฏิบัติธรรมอ่านความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิต ในขณะนั้น ในเรื่องนั้นๆ
เทคนิค ถ้ามีเศษอาหารสามารถใส่ในล้อยางได้เลย
สภาวะธรรม
ขากลับจากส่งลูกไปโรงเรียน แวะเก็บหินข้างทางเพื่อทำบารายคัลเจอร์(ภูเขาน้อยในล้อยาง)ขณะนั่งเก็บหินข้างทางใส่ถุงปุ๋ยเกิดผัสสะทางตา ระหว่างสายตาของผู้สัญจรไปมาซึ่ง เป็นช่วงเวลาและเส้นทางที่ต้องส่งเด็กๆไปโรงเรียนก็เห็นว่าแวะเก็บช่วงจังหวะนี้ประหยัดน้ำมันรถดีเมื่อเกิดผัสสะก็เห็นกายในกายคือ มันมีอาการ คนมองครั้งที่1 ไม่มีอาการ คนมองครั้งที่2 มองอะไรคนมองครั้งที่3 มองว่าทำอะไรอาการหันหลังให้ทางที่คนสัญจรเพื่อหลบเลี่ยงผัสสะทางตาเห็นเวทนาในเวทนาว่ามันรู้สึกมีความอายเกิดขึ้นเล็กน้อยในใจเห็นความอึดอัดว่าจะเก็บต่อหรือไม่เก็บต่อดีเห็นจิตในจิตว่าจิตหนึ่งบอกว่าเก็บต่อจิตหนึ่งบอกว่ารีบเก็บเร็วๆจะได้ไปเห็นธรรมในธรรมว่ายังมีจิตของกิเลสตัวอายอยู่(กิเลสแม้น้อยก็เหม็นมาก หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน)แม้มีความอายพียงเล็กน้อยก็จะเสียโอกาสในการได้บำเพ็ญมากจึงพิจารณาดู
เห็นความทุกข์ของความอายคือ หลบๆ เลี่ยง ๆ รีบๆ อึดอัด ไม่โล่ง ไม่โปร่ง จิตวุ่นๆ ไม่ว่าง
เหตุแห่งทุกข์คือ ชอบคนไม่มอง ชังคนมอง
สภาพดับทุกข์คือ ไม่ชอบไม่ชัง คนมองก็ได้ คนไม่มองก็ได้
พิจารณาออกจากทุกข์เคยเก็บหินร่วมบำเพ็ญกับอาจารย์หมอเขียวและหมู่มิตรดี สภาวะมีแต่ ยินดี เบิกบาน แจ่มใส (ทำคนเดียวกิเลสจะเอาไปกินเสียแล้ว) ขณะนี้กำลังเก็บหินไป เพื่อ ทำบารายคัลเจอร์ เพื่อสร้างอาหารไร้สารพิษ เพื่อประโยชน์ตนและผองชน(สมาชิกในครอบครัวและผู้เคยเกื้อกูลกัน)และหมู่สัตว์ได้พึ่งอาศัยเพื่อประโยชน์สิ่งแวดล้อมในชุมชนที่อาศัยได้แบ่งปันแรงกายและแรงใจเป็นพลังสนิทานสูตร เมื่อเห็นประโยชน์ดังนี้เป็นกุศุลอย่างนี้ความอายก็สลาย จากจิตวิญญาณที่ตั้งมั่นในการบำเพ็ญกุศลต่อไปจึงหันหน้าออกทางก็ได้ หันหลังออกทางก็ได้ ผู้คนสัญจรจะมองก็ได้ ไม่มองก็ได้ และเก็บหินต่อไปอย่างเบิกบาน และรู้คุณค่าในสิ่งที่ทำ
สรุปสภาวธรรม ทำกุศลเพื่อชำระกิเลส=บุญสำเร็จทำให้เราได้ใช้วิบากกรรมเพราะตอนเรายังไม่รู้จักแพทย์วิถีธรรมเราก็ทำได้แค่ทิ้งเป็นขยะเหมือนกัน รับแล้วก็หมดไป ขอพากเพียร ลด ละ เลิก การสร้างขยะในตน การสร้างขยะให้ผู้อื่น การสร้างขยะให้สิ่งแวดล้อม และการสร้างขยะให้โลก ตามกำลังและเหตุปัจจัยที่ตนทำได้จริง
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
1.ได้ทำบุญ (บุญ=ชำระกิเลส=ล้างกิเลส)เรื่องความอาย
2.ได้แบ่งปัน แรงกายแรงใจ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่อาศัย
3.ได้ทำกุศล คือ เป็นส่วนหนึ่งของพลังสนิทานสูตร ตามกำลังตนและเหตุปัจจัยที่ทำได้จริงมิตรดี สหายดี สังคมและสื่งแวดล้อมดี คือทั้งหมดทั้งมวลของความพ้นทุกข์