ทบทวนชีวิต 63 ตั้งศีล 64 : นายประพันธ์ โพธิ์คำ ชื่อเล่น เท่ ชื่อทางธรรม ใจถึงศีล
ทบทวนสภาวธรรม ทบทวนชีวิต ในปี พ.ศ. 2563
นับตั้งแต่เริ่มต้นปี พ.ศ.2563 การดำเนินชีวิตราบรื่นอยูในศีลพอสมควร มิได้มีสิ่งใด เหตุการณ์ที่ทำให้ขัดข้องหมองใจหรือทำให้ไม่ชอบ ไม่ชัง ใดๆทั้งสิ้น
จนกระทั่งเข้าสู่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เริ่มได้รับข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จากหวู่ฮั่น กลางเดือนมีนาคม 2563 ได้รับการแจ้งทางโทรศัพท์จากเจ้าของร้านอาหารที่ทำงานเกี่ยวกับการส่งอาหารตามบ้านว่า ให้หยุดทำงานเนื่องจากมาตรการของมลรัฐเท็กซัสให้ทำการล๊อคดาวน์ทั้งหมด การดำนเนินชีวิตจึงเท่ากับหยุดไม่ได้ทำงานเป็นต้นไป จึงมีโอกาสทบทวนการดำเนินชีวิตว่าต่อไปจะดำเนินการต่อไปอย่างไร หากไม่ได้ทำงานส่งอาหารตามบ้านอีกต่อไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้กลับไปทำงานต่อไปอีกหรือไม่ หรือ ไม่ได้กลับไปทำงานนั้นอีกแล้ว
เมื่อได้มีโอกาสทบทวนการดำเนินชีวิต จึงได้มีโอกาสรื้อฟื้นแนวความคิดในการดูแลตัวเอง พึ่งพาตัวเอง หากต้องล๊อคดวาน์ตัวเองให้อยู่แต่ในบริเวณบ้านที่พพักอาศัยเท่านั้น ซึ่งยังไม่รู้ว่ามาตรการนี้จะต้องดำเนินการต่อไปอีกนานเท่าไร แต่ชีวิตยังต้องหายใจ ยังต้องมีอาหารหล่อเลี้ยงชีวิต จะต้องทำอย่างไร จึงได้รับความคิดจากการติดตาม การบรรยายของท่านอาจารย์หมอเขียวเกี่ยวกับการพึ่งพาคนเองด้วยการทำเกษตรกรรมไร้สารพิษ ชีวิตจึงได้เริ่มมีประกายสดใสขึ้นในแนวทางพึ่งตนเองแบบเศรษฐกิจพอเพียง และยังได้มีโอกาสรื้อฟื้นความรู้ ความสามารถในการปลูก ดูแล รักษา ต้นไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆที่ต้องทำการปลูกในบริเวณสวนหลังบ้าน จนกระทั่งช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2563 มีมารตการคลายล๊อคดาวน์และได้รับข่าวจากเจ้าของร้านอาหารให้กลับไปทำงานได้ แม้จะไม่ได้ทำงานเต็มที่เมื่อเหมือนครั้งที่ยังไม่เกิดวิกฤตโควิด 19 ระบาดก็ตาม ก็ยังได้มีโอกาสทำงานทั้งสองด้านคือในสวนหลังบ้านและทำงานส่งอาหารในบางวัน และในช่วงเวลาต่อๆมา ก็ได้รับโอกาสให้ได้เพิ่มเวลาทำงานก็ตาม แต่ก็ยังมีช่วงเวลาทำงานในสวนหลังบ้าน การดำเนินชีวิตก็เข้าที่ เข้าทาง ดำเนินไปอย่างราบรื่น พอสมควร แม้แต่การใช้จ่ายต่างๆ ก็ได้รับการผ่อนคลาย ไม่เร่งรัดในการชำระหนี้ และเป็นโอกาสให้ได้รับการคลายทุกข์ไปได้พอสมควร ปฏิบัติตัวตามแนวทางของแพทย์วิถีธรรมตามสมควรที่ปฏิบัติตัวได้
เมื่อเวลาล่วงเข้าสู่กลางเดือนพฤศจิกายน 2563 จึงได้รับข่าวที่สร้างความกระทบกระเทือนที่รุนแรงมากๆ จากประเทศไทยว่าได้สูญเสียผู้ที่เป็นมงคลสูงสุดของชีวิต จึงทำให้เกิดความรู้สึกทั้งใจและกายหยุดชงักงันไป แต่ได้ใช้หลักการของแพทย์วิถีธรรม ที่ทำให้คลายความทุกข์นั้นไปได้ในช่วงระยพเวลาอันสั้น แต่ถึงขนาดนั้นก็ตาม ช่วงเวลาที่ผ่ามาเพียงสองอาทิตย์เท่านั้นก็ได้รับข่าวร้ายซ้ำเข้ามาอีกระลอกหนึ่งคือ การจากไปของผู้เป็นที่เคารพนับถือดั่งเป็นพี่สาวด้วยสาเหตุติดเชื้อโควิด 19 และป่วยหนักอยู่ในการดูแลของแพทย์และเครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งเสียชีวิต
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม้ตัวเองก็มีชีวิตที่ทรุดเกือบจะหนักด้วยการติดเชื้อโควิด 19 โดยเริ่มต้นมีอาการตื่นเช้าขึ้นมา หายใจไม่ค่อยสะดวก กลืนน้ำลายค่อนข้างจำม่สะดวก และใช้โทรศัพท์ที่ติดตั้งโปรแกรมวัดอุณหภูมิ ความดันโลหิต เพื่อครวจวัดด้วยตัวเอง แสดงผลมีอาการไข้ขึ้นสูงไม่มีมากนัก เมื่อยล้าร่างกาย มีความรู้สึกอยากจะนอน แต่ก็พยายามลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อดื่มนำนมถัวเหลือง จึงได้รู้ว่า จมูกเริ่มไม่รับรู้กลิ่น จึงได้ทดลองดื่มน้ำนมถั่วเหลือง ก็ได้รับรุ้ว่า ปากก็เริ่มไม่รับรู้รสชาติ กลืนลำบาก จึงได้แจ้งไปยังร้านอาหารที่ทำงาน ขอหยุดงานเพื่อเริมต้นล๊อคตัวเองในการดูแล รักษาด้วยตัวเอง อยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้แพร่เชิ้อออกไปสู่บุคคลอื่นๆที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน จะออกจากห้องก็ต่อเมื่อปลอดจากบุคคลอื่นๆใช้ในบริเวณบ้านในเวลาเดียวกัน อาการดั่งที่กล่าวมานั้น ได้ ดูแล รักษา ตัวเองอยู่ประมาณสามอาทิตย์ อาการต่างๆจึงได้ทุเลาลง ดีขึ้น อาการไข้ตัวร้อน ลดลง แต่ยังมีความอ่อนเพลียบ้างเล็กน้อย จึงได้ฝืนออกไปตรวจเชื้อจากร้านค้าจำหน่ายยา ที่เพื่อนกัลยณมิครได้ให้ความช่วยเหลือในการจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าในการตรวจเชื้อโควิด 19 และต้องรออีก 2 วัน จึงจะรู้ผลที่ตรวจเชื้อ ซึ่งเมื่อถึงเวลารับผลการตรวจที่จะส่งให้ด้วยการฝากข้อความและการ์ดทางโทรศัพท์ว่า “ผลเป็นลบ” จึงทำให้ชิวิตกลับคืนมามีความสดใสอีกคราหนึ่ง และกลับไปทำงานตามปกติ ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านให้เพิ่มเวลาทำงานขึ้นอีกสามวัน
สภาวธรรมของตัวเองที่ได้รับจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านๆมานั้น ทำให้ระลึก นึกคิด น้อมนำบททบทวนธรรมต่างๆของท่านอาจารย์หมอเขียวมาเปรียบเทียบกับตัวเองในระหว่างที่ดูแล รักษา ตัวเองว่า
- 1-หากจะตาย ก็ขอให้ตาย ตั้งใจปฏิบัติต่อๆไป
- 2-ได้ล้างอัตตา ล้างกิเลส ล้างความไม่ชอบไม่ชัง
- 3-ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ รับรู้ ว่า การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไป เป็นเรื่องธรรมดาๆ
- 4- ได้มีโอกาสเรียนรู้ว่า แม้ตัวเองจะมีความเข้มแข็งปานใด รักษาตัว รักษาศีล เพียงใด ก็ตาม แต่เมื่อได้รับข่าวร้ายของชีวิตที่รุนแรงมากๆ ก็สามารถทำให้ทั้ง กายและใจทรุดลงอย่างมากมายยิ่งนัก หากไม่มีศีล ไม่ได้ปฏิบัติศีล ก็อาจจะทำ ให้ทั้งใจและร่างกายทรุดหนักลงไปอีกและอาจจะทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ไม่ สบาย ทำให้มีอาการต่างๆแสดงผลและแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น แต่หากตัวของเรามีศีล รักษาศีล อยู่ในศีลให้ดี ก็สามารถทำให้ตัวเอง ฟื้น กลับ ย้อนระลึกถึงสิ่งดีๆได้ในช่วงเวลาที่รวดเร็วได้ด้วยการระลึกว่า เหตุการณ์ต่างๆที่ เกิดขึ้น อาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น เป็นเพียงฝุ่นเท่าปลายเล็บเท่านั้น แต่อาการที่ใจ นั้นเป็นอาการเกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน เมื่อเปรียบเทียบได้ดั่งนั้นแล้ว ก็ทำให้เหตุการณ์ ต่างๆ อากรเข็บป่วยที่กาย นั้นผ่อนคลายลง สถานการณ์ต่างๆรอบๆตัวตลอดจน ภายในตัวเองก็ดีขึ้น อีกทั้งได้หลักการ วิธีการ ดูแล รักษา ตัวเองด้วยหลักการยา หรือเทคนิค 9 ข้อ ของแพทย์วิถีธรรม โดยเน้นยาเม็ดที่ 8 ใช้ธรรมะตามหลัก ทบทวนธรรม ปรับปรุง ความคิดของตัวเอง ปฏิบัติตัวเอง และ ข้อ 9 ในการรู้พัก รู้ เพียร ในการปฏิบัติตัวตามหลักทบทวนธรรม ส่งนหลักการยาเม็ดอื่นๆนั้นก็ใช้ตาม ลักษณะอาการและโอกาสที่ปฏิบัติได้ แต่ในยาเม็ดที่ 1 นั้น ปรับสภาพให้เป็นพลัง ของยา 5×100 (1.ผงถ่าน 2.น้ำ ปสว.เก่า 3.น้ำสมุนไพร 4.เกลือจิกปลายเล็บ 5. น้ำมันเขียว)
- 5-ดูแลกักตัวเอง พยายามกลั้วคอบ่อยๆไม่ให้เชื้อติดค้างช่องลำคอลงไป สวนล้าง โพรงจมูก ไม่ใช้เชื้อติดค้างเข้าไปในโพรงจมูก ดื่มน้ำ ปสว.(ฉี่ออกมาเป็นดื่มเข้า ไป) ดื่มน้ำข้าวต้มผสมเกลือเพราะกินข้าวไม่ได้ ไม่รับรู้รสชาติ กลืนไม่ลง ไม่รับรู้ กลิ่น โชคดีที่ไม่ถึงกับท้องเสีย ตัวไม่ร้อนมาก
- 6-สวนล้างลำไส้เพื่อลดอาการไข้และระบายความร้อนออกจากร่างกายให้เร็ว
- 7-ทำใจระลึกถึงท่านอาจารย์ หมู่มิตร หากตายก็ตาย หากเป็นก็ปฏิบัติตัวต่อไป ทำดีเรื่อยๆไป ใจเย็นเรื่อยๆไป ไม่โทษใคร มีใจที่ไร้ทุกข์ เบิกบาน แจ่มใส
ความตั้งใจที่จะตั้งศีล เพิ่มศีล ลดกิเลส ตั้งใจทำดี ในปี พ.ศ. 2564
3.1 ขออธิฐานจิตมั่นที่จะปฏิบัติตัวให้อยู่ในศีลและเพิ่มศีลให้สูงขึ้นตามสถานการณ์และ สภาวการต่างๆ และดำรงตนอยู่ในหมุ้มิตรแพทย์วิถีธรรมตลอดไป ไม่เลิกลา
3.2 พยายามลดกิเลสตัวอื่นๆ และยอมรับสถานการณ์ สภาวการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วยใจ ที่ตั้งมั่นอยู่ในศีล
3.3 ตั้งใจปฏิบัติตัวอย่างเรียบง่ายตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเองและ ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ ตามสภาพของแต่ละคนที่จะรับได้
3.4 ตั้งใจทำดีเรื่อยๆไป เพียรพยายาม ค่อยๆปฏิบัติตัวทำใจให้พ้นทุกข์อย่างแท้จริง และพยายามละสุขลวงที่เข้ามาในชีวิตในแต่ช่วงเวลาให้ได้