วิธีหมักดินปลูก ใว้ใช้เอง : นางวันยา เรียนจันทร์ (วันแสงพุทธ : อี๊ด)
อาชีพเปิดร้านขายเครื่องนอนจังหวัดอยุธยา
วัตถุดิบ
- ดิน
- อินทรีย์วัตถุ สดและแห้ง เช่น เศษอาหารสด ใบไม้สด กิ่งไม้สด แกลบดำ แกลบดิบ ใบไม้แห้ง กิ่งไม้แห้ง ฟาง รำ ขุ่ยมะพร้าว เท่าที่ มี ทำให้ดินโปร่ง
- จุลินทรีย์พลังศีล หรือ จุลินทรีย์ อื่นๆ
วิธีทำ
เอาทั้งหมดมาคลุกเคล้ากัน ใส่ไว้ในถุงปุ๋ย มัดปาก หมักบ่ม ไว้ คลุมด้วย ถุงพลาสติก เต็นท์หรือไวนิว
7 วันจะมีราขาวขึ้น จับถุงดูจะมีความร้อน 10 วันขึ้นไปใช้ได้ สังเกตดินจะเย็นลงช้าเร็วอยู่ที่ชนิดของเศษอาหาร
วิธีใช้ ใช้ได้เลยหรือจะผสม อินทรีย์วัตถุแห้งเพิ่มปริมาณก็ได้
วิธีเก็บ เก็บไว้ในถุงปุ๋ยหรือถุงพลาสติกช่วยรักษาความชื้นของดินหมักได้ดี
ประโยชน์สูง ประหยัดสุด
- ได้ดินคุณภาพดี อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่พืชต้องการ
- ได้ปริมาณดินเพิ่มมากขึ้น
- ประหยัดการซื้อดิน
- กำจัดเศษอาหารในครัวเรือนและอินทรีย์วัตถุแห้ง ช่วยลดโลกร้อน ลดเหตุปัจจัยการแพร่เชื้อโควิด 19
- ได้ลงมือปฏิบัติธรรม
สภาวธรรม
หลังเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมจึงรู้วิธีทิ้งเศษอาหารให้มีประโยชน์สุงสุด จึงพากเพียร ฝึกฝน ปฏิบัติตอนทำใหม่ๆเห็นความ”ชิงชังรังเกียจ”ในเศษอาหารเห็นทุกขอริยสัจ อาการ อึดอัดใจ อาการผลักออก ไม่อยากจับ ในขณะ สัมผัสเศษอาหารเคยเรียนจบธุรกิจพยาบาลมา นิสัยส่วนตัวเป็นคนรักสะอาด ชิงชังรังเกียจความสกปรก มีสัญญาเก่า(จำไดั หมายรู้)เห็นจิตที่”หลงผิด”คิดว่าเศษอาหารเป็นของสกปรก ชอบ ความสะอาด
ชัง ความสกปรก เป็นความคิดผิด คิดแล้วทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ คือ หลงผิดมีชอบ มีชังล้างความความหลงผิด ความชอบความชังได้ จะพ้นทุกข์ในเรื่องนี้
วิธีล้างปฎิบัติ มรรค มีองค์ 8
1.เห็นความจริงตามความเป็นจริงพิจารณา ว่า สิ่งนี้จะสกปรกได้อย่างไร เราทำสะอาดทุกขั้นตอน ตอนเตรียมก็สดและสะอาด ตอนปอกก็ล้างวัตถุดิบ ตอนปรุง ตอนทาน ก็สดและสะอาด พอเหลือเป็นเศษ เปลือก เศษอาหาร จะสกปรกตอนไหน
2.เห็นว่าการนำเศษอาหารมาทำประโยชน์ดีกว่าการทำขยะ จึงตั้งใจคิด ตั้งใจพูด ตั้งใจทำ ให้เกิดประโยชน์ทุกวันและเพียรพยายามอดทนต่อความชังและใช้สติล้างความชิงชังรังเกียจด้วยการเห็นประโยชน์ในการงานนี้
3.เห็นความ”ไม่เที่ยง”ของอาหารและอารมณ์ (เวทนา)ว่าตอนมีเปลือกห่อหุ้มเนื้อก็ดูดี มีอารมณ์ชอบ
ตอนแยกเปลือก แยกเนื้อ เกิดชอบเนื้อ ชังเปลือกตอนทานเหลือ เศษอาหาร ลืมคุณค่า ลืมประโยชน์ เกิดความชัง ก่อทุกข์ในจิต”เห็นความทุกข์”เกิดโรคในกาย ทำลายสิ่งแวดล้อมเมื่อพากเพียรและตั้งมั่นทำจึงได้เห็น”ความจริง”ไม่ใช่ความคิดว่าเศษอาหารหายไปกลายเป็นแร่ธาตุในดินเห็นความชิงชังรังเกียจเศษอาหารสดหายไปจากจิตวิญญาณ เห็น”อนัตตา”ความไม่มีตัวตนทั้งรูปและนามเห็นอนิจังความไม่เที่ยง เห็นทุกข์ ความอึดอัดกายใจเห็นอนัตตา ความไม่มีตัวตนเกิด”ปัญญา”รู้ความจริงตามความเป็นจริง”ชัดเจน”เมื่อพิสูจน์แล้วว่า ความ”สกปรกในเศษอาหาร”ไม่มีจริงแต่ความ”สกปรก”มีจริงใน”จิตวิญญาณ” ในความ”หลงผิด”ใน”ความชอบความชัง”เป็นกิเลสเหตุแห่งทุกข์”ปัจจุบัน พ้นทุกข์จากความชิงชังรังเกียจเศษอาหารสดในครัวเรือนแล้ว
เจริญธรรม สำนึกดี มีใจไร้ทุกข์ค่ะ
วันที่ 10เมษายน 2563