มัดรวมคำถาม
ปัญหาเกี่ยวกับ
“โรคเกาต์”
รายการ “สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย”
โดย กลุ่มแพทย์แผนไทยวิถีธรรม ค้ำจุนโลก
ช่วงถาม-ตอบปัญหาสดในรายการ
ประเด็นเด่นจากรายการ :
(คลิกหัวข้อด้านล่าง เพื่ออ่านเนื้อหา)
วิธีการรักษา “โรคไต โรคเกาต์ โรคหัวใจ หงุดหงิด”
คุณเพ็ญศรี มงคลชาติไทย
คำถาม : รบกวนสอบถามให้เพื่อนบ้าน เนื่องจากคุณแม่ “อายุ 80 ปี” ป่วยเป็น “โรคไต และโรคเกาต์” ตอนนี้มีอาการ “หัวเข่าบวม” อยากให้ช่วยแนะนำเรื่องการใช้สมุนไพร และการรับประทานอาหาร ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
คำแนะนำจากจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม :
-
-
- เบื้องต้นแนะนำเพื่อนบ้านให้ใช้ยาเม็ดที่ 1 คือ “ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น” แบบเจือจางก่อน หากกลัวจะแพ้สมุนไพรชนิดใด โดยทดลองทีละชนิด เช่น เริ่มจากใบย่านาง แล้วค่อยเพิ่มยาสมุนไพรชนิดถัดไป หลังจากที่เริ่มดื่มน้ำสมุนไพรได้แล้ว จึงค่อย “พัฒนาไปสู่สมุนไพรชนิดถัดไป” ควรปฏิบัติอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป”
- ต่อมาลองแนะนำใช้ยาเม็ดที่ 7 คือ “การรับประทานอาหารปรับสมดุล” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะปฏิบัติตามได้ง่าย เช่น “การรับประทานอาหารตามลำดับ” โดยเรียงลำดับการรับประทานจากดื่มน้ำสมุนไพรปรับสมดุล ผลไม้ฤทธิ์เย็น ผักฤทธิ์เย็นสด ผักลวก ข้าว ถั่วฤทธิ์เย็น เป็นต้น คลิกเพื่อรับชมรายละเอียด การรับประทานอาหารตามลำดับ เมื่อผู้ป่วยได้ลองปฏิบัติสิ่งที่ “ทำได้ง่ายและเกิดผล” ก็จะสามารถเพิ่มยาเม็ดอื่นได้ต่อไป
- “อาการเข่าบวม” แนะนำให้ทดลองใช้ยาเม็ดที่ 4 คือ “แช่ด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน” ซึ่งหากปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพราะหากปฏิบัติเพียง 1 วัน ต่อสัปดาห์ อาจไม่ได้ประสิทธิผล
- ใช้ยาเม็ดที่ 3 คือ “สวนล้างลำไส้ใหญ่” หรือ ดีท็อกซ์ เพื่อระบายพิษร้อน แต่หากยังไม่สะดวกใช้ยาเม็ดนี้ก็ได้ ให้เป็นตามความต้องการของแต่ละท่าน เนื่องจากประสบการณ์ของจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ซึ่งได้พาคุณแม่เข้าร่วมอบรมมานานเป็นเวลา 10 ปีแล้ว คุณแม่ก็เพิ่งมีความสบายใจในการสวนล้างลำไส้ใหญ่ หรือ ดีท็อกซ์ ได้เมื่อไม่นานมานี้เอง
- ค่อย ๆ แนะนำยาเม็ดอื่น เนื่องจากหากแนะนำไปทั้งหมดในครั้งเดียว อาจจะเป็น “การให้ข้อมูลที่มากเกินไป จนอาจเกิดเป็นความรู้สึกยาก ในการปฏิบัติ”
- ประสบการณ์จาก “คุณประภัสสร วารี จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม” ในการดูแลคุณพ่อซึ่งไม่ได้มาศึกษาแพทย์วิถีธรรม จึงไม่ค่อยมีความเชื่อและความเข้าใจในศาสตร์ เมื่อก่อนได้เคยนำน้ำสกัดสมุนไพรให้คุณพ่อดื่ม แต่เนื่องจากคุณพ่อไม่ทราบถึงคุณประโยชน์ จึงได้นำไปทิ้งด้วยความไม่เข้าใจ ขณะนั้นคุณพ่อมีโรคประจำตัวคือ “โรคเกาต์” และแพทย์ได้ตรวจสุขภาพ และแจ้งว่าคุณพ่ออาจเป็น “โรคไต” จากอาการปวดหลัง
จิตอาสาจึงแนะนำเช่นเดิม โดยใช้ “น้ำสกัดสมุนไพร ผสมน้ำดื่ม” ไปให้คุณพ่อทดลองดื่ม แนะนำคุณพ่อแล้ว ก็วางใจ “ปล่อยวาง” ไว้ตรงนั้น คุณพ่อจะดื่มหรือไม่ดื่มก็ได้ ผลปรากฏว่า คุณพ่อก็นำมาดื่ม หลังจากนั้นมาคุณพ่อก็มีความสนใจที่จะดื่มน้ำสกัดสมุนไพรนี้ต่อเอง และเข้ามาสอบถามว่า สามารถหาซื้อได้จากสถานที่ใด? แล้วคุณพ่อก็ “ดื่มมาอย่างต่อเนื่อง” จนโรคไตมีอาการ “ดีขึ้น” ตามลำดับ เมื่อได้ไปตรวจสุขภาพ แพทย์ก็แจ้งว่า “อาการไตดีขึ้น”
-
คุณกาญจนา คงภูชงค์
คำถาม : ตั้งแต่ปีที่แล้วไปพบแพทย์เฉพาะทาง พ่อบ้านตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคไต ระยะที่ 3 และโรคเกาต์ ผู้ดูแลไม่เคยบังคับ และให้ผู้ป่วยพิสูจน์ด้วยตนเอง โดยทุกครั้งที่ใช้ยาของโรงพยาบาล ผู้ป่วยจะมีอาการ “ปวดหัวใจ” จนหมดหนทางในการรักษาแล้ว ผู้ป่วยจึงถือโอกาสหยุดยาของโรงพยาบาล หากไปพบแพทย์อีกครั้ง อาจไปรับฟังความเห็น แต่จะ “ไม่รักษา” ด้วยการฟอกหรือล้างไต เนื่องจากพ่อบ้านได้ใช้ยามาเป็นเวลา 1 ปี ทำให้ “โรคไต จากระยะที่ 3 กลายมาเป็นระยะที่ 5” อยากขอคำชี้แนะจากคุรุจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมทุกท่าน
ข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองและอาการของผู้ป่วย มีดังนี้
1. ปัจจุบันพ่อบ้านสามารถเลิกแอลกอฮอล์ได้อย่างเด็ดขาดแล้ว แต่ยังสูบบุหรี่ ยังรับประทานเนื้อสัตว์
2. มักมีอารมณ์หงุดหงิด จนสะเทือนมาถึงคนรอบข้าง
3. ล่าสุดเพิ่งไปซื้อ “ยาบำรุง” ตามโรงพยาบาลแนะนำ แต่ร้านขายยาไม่จำหน่ายให้ เพราะกลัวว่าจะทำให้ “ไตพัง”
4. ช่วงแรกที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ได้ทำ “น้ำสกัดย่านาง” ผสมกับน้ำดื่ม ให้พ่อบ้านดื่ม แต่ภายหลังก็หยุดดื่มไป
5. ปัจจุบันพ่อบ้านยังคงทำงานได้ปกติ พ่อบ้านมีรูปร่างผอม หากยกของหนัก จะมี “อาการจุก” บริเวณหน้าอก จนต้องพักเหนื่อย ได้กดจุดลมปราณหัวใจให้ผู้ป่วย จึง “เรอ” ออกมา ทำให้มีอาการดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้ยา
6. แนะนำให้พ่อบ้านปฏิบัติศาสตร์แพทย์วิถีธรรม แต่ไม่ค่อยรับเท่าที่ควร ก็จะปฏิบัติเท่าที่ทำได้ เพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือ ยาเม็ดที่ 2 “กัวซา”
คำแนะนำจากจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม :
-
-
- ใช้ยาเม็ดที่ 7 คือ “รับประทานอาหารปรับสมดุล” สิ่งที่เราพึงระลึกไว้ คือ “อาหารที่รับประทานนั้นจะเข้าไปทั้งเพิ่มโรค หรือจะรักษาโรคก็ได้” หากเลือกอาหารที่ดี สุขภาพก็จะแข็งแรง หากเลือกอาหารที่เป็นพิษ ก็จะเพิ่มความรุนแรงของโรค และอาจทำให้รักษาได้ยาก จึงแนะนำให้พิจารณาให้ดี เน้นการรับประทานอาหารพืช จืด สบาย ใช้เป็นยา หากต้องการมี “อายุยืน”
- ประสบการณ์จาก “คุณกมลชนก ทุมวงษ์ จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม” ซึ่งดูแลคุณแม่ซึ่งป่วยเป็น “โรคความดัน และโรคหัวใจโต” โดยรับประทานยามาเรื่อย ๆ จนทำให้มีภาวะ “หัวใจรั่ว” และยังมีอาการแสดงถึงการเป็น “โรคเบาหวาน และโรคไต” จึงแนะนำให้คุณแม่เลือกใช้หลัก คือ “รับประทานอาหารเป็นยา” โดยปรับเปลี่ยนมารับประทาน “พืช จืด สบาย” เพราะอาหารนี้เป็นหนึ่ง รักษาโรคได้ทุกโรค “เริ่มต้นแนะนำท่านไปตามลำดับ” ลดทีละขั้น เช่น วันพระก็หยุดรับประทานเนื้อสัตว์ วันธรรมดาก็จะรับประทานแบบเขี่ยเนื้อสัตว์ออกบ้าง เมื่อเริ่มคุ้นชิน จะรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ได้ และเมื่อรับประทานผักไปนาน ๆ อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์จะเหม็นคาวไปเอง
- ใช้ยาเม็ดที่ 8 คือ “วางใจของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก” วางใจให้ผาสุกก่อน หากไม่ผาสุก ก็อาจเหนี่ยวนำให้พ่อบ้านมีทุกข์ไปด้วย แต่หากวางใจไม่ทุกข์ พ่อบ้านก็จะเห็นได้ว่า “เรามีความสุข เบิกบานแจ่มใส” พ่อบ้านก็จะอยากปฏิบัติตามเอง เพราะเมื่อพ่อบ้านมีทุกข์มาก จึงจะทำให้ได้เห็น “ธรรม” วางใจว่าบางครั้งอาจช่วยพ่อบ้านไม่ได้หรอก แต่เราทุกคนสามารถ “ทำตัวเราเองเป็นแรงเหนี่ยวนำ” ให้พ่อบ้านเห็น แล้วปล่อยวางให้เป็นไปตามวิบากดีร้ายของแต่ละชีวิต
- แนะนำเสริมให้ผู้ถามลองสังเกตตนเองว่า เมื่อพ่อบ้านมีอารมณ์หงุดหงิดหรือโมโห “แล้วเราโมโหตอบหรือไม่?” หรือหากผู้ถาม “เหนื่อยจากการทำงาน แล้วพ่อบ้านอารมณ์เสียใส่” แนะนำให้พิจารณาเห็นเป็น “ความโชคดีที่จะได้ปฏิบัติธรรม” หากพ่อบ้านใจร้อนมา แต่สามารถเริ่มต้นที่ตนเอง “เพิ่มศีล” ทำใจให้เย็น และส่งกลับไปด้วย “การใช้ความเมตตา” สร้างความเข้าอกเข้าใจ เพราะอาการร้อนใจที่พ่อบ้านเป็นอาจเกิดจากอาการป่วยได้หรือไม่? หากวางใจแบบนี้ได้ ก็จะเป็น “พลัง” ช่วยพ่อบ้านได้เช่นกัน พูดคุยกันด้วย “ปิยะวาจา” สิ่งที่สามารถทำได้ ก็ทำ พ่อบ้านจะรับได้หรือไม่ ก็ไม่เป็นไร เมื่อไหร่ที่ “วิบากดีเกิด” วันนั้นพ่อบ้านจะเห็นธรรมและจะรับในสิ่งที่ผู้ถามเสนอด้วยความรัก ความปรารถนาดีนี้เอง
- การที่พ่อบ้านยอมรับปฏิบัติ “เพียงการกัวซา” เป็นยาเม็ดเดียว นั่นคือ เป็น “ความโชคดี” มาก ๆ เพราะบางท่านไม่รับสักเม็ดเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ให้วางใจว่า ปรารถนาดีให้พ่อบ้านมีสุขภาพที่ดี แล้วก็ปล่อยวาง
- ท่านอาจารย์หมอเขียวสอนว่า เจอปัญหา ไม่ต้องทำอะไร “เพิ่มศีล จะแก้ได้ทุกปัญหา”
-
บทความฉบับเต็ม ประจำวันพุธ ที่ 27 เมษายน 2565 [คลิกเพื่อรับชม]
📣‼️ถ่ายทอดสดหมอเขียวทีวี 24 ชั่วโมง
ผ่านเว็บไซต์ “หมอเขียวดอทเน็ต“
📌ยูทูบ: [ช่องหมอเขียวทีวี]
🌏 เพจเฟซบุ๊ก: [หมอเขียว แฟนคลับ]
🌏 เพจเฟซบุ๊ก : [กิจกรรมหมอเขียว แพทย์วิถีธรรม]
🌏 รวมลิงก์ สำหรับผู้เข้าอบรม
[ค่ายแพทย์แผนไทยวิถีธรรมค้ำจุนโลก]
เพิ่มไลน์ “แพทย์วิถีธรรม” เป็นเพื่อน
เพื่อรับข้อมูลแพทย์วิถีธรรม
หลักสูตรการเรียนแพทย์แผนไทยวิถีธรรม ค้ำจุนโลก
✅[คลิกสำหรับแอนดรอยด์]
✅[คลิกสำหรับ ios]
🔽 กดติดตาม 📲
ช่อง “สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย”
และทีมจิตอาสาแพย์วิถีธรรม
ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
⭕️ Youtube : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
👁🗨 Tiktok : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
🟦 Facebook : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
🟢 Line : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
⭐️ instagram : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
🔷 twitter : [สายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย]
รวบรวมโดย :
ทีมงานจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม / รายการสายด่วน สุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย