การบ้านหัวข้อนี้เกิดขึ้นจากความต้องการของนักศึกษาที่จะเผยแพร่ประสบการณ์และความรู้ที่ได้เข้ามาร่วมงานกับมูลนิธิแพทย์วิถีธรรมในฐานะจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม
เป็นการบ้านตามอัธยาสัย ทำตามความยินดี โดยในแบบฟอร์มจะมีหัวข้อไว้ให้คร่าว ๆ นักศึกษาสามารถ เพิ่มเติมเนื้อหาเองได้ โดยสามารถส่งเนื้อหาทั้งหมดในรูปแบบของไฟล์ word หรือไฟล์เอกสารอื่น ๆ ได้สำหรับการบ้านที่มีเนื้อหายาว
โดยนักศึกษาสามารถส่งการบ้านได้ 2 ช่องทางดังนี้
- google form
- ทีมแอดมิน
ดูผลงานที่เผยแพร่แล้วได้ที่
การบ้านอริยสัจ4
ชื่อ : น.ส.ลักขณา วรพงศ์พัฒน์(เอ๊า)
ชื่อทางธรรม : บุญแพงค่า
จิตอาสา : สวนป่านาบุญ 2
เรื่อง : อยากไปบำเพ็ญที่ภูผาฟ้าน้ำ
เมื่อ 12 กค.64 ได้นัดเดินทางกับพี่น้องจิตอาสา 3 ท่าน ขับรถส่วนตัวจากภาคใต้ไปภูผาฟ้าน้ำ เชียงใหม่ แต่มีมาตรการเข้มจากรัฐบาลด้วยสถานการณ์โควิด ที่เข้มงวดในการเดินทางมากขึ้น ทำให้ต้องยกเลิกการเดินทางฉับพลัน
ทุกข์ : อยากไปบำเพ็ญที่ภูผาฟ้าน้ำ
สมุทัย : ถ้าได้ไปภูผา จะเป็นสุข ถ้าไม่ได้ไปภูผา จะเป็นทุกข์
นิโรธ : จะได้ไปหรือไม่ได้ไปภูผา ก็ไม่ทุกข์ใจ
อยาก เป็นทุกข์ ไม่อยาก ไม่ทุกข์
มรรค : พิจารณาความอยาก เป็นกิเลสร้าย ทำให้ใจเป็นทุกข์
การจะได้ไปภูผาหรือการจะอยู่แห่งหนที่ใด ไม่สำคัญ สำคัญที่สุดคือใจไร้ทุกข์
เราสามารถบำเพ็ญ ทำความดี หรือทำประโยชน์ได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ อยู่บ้านก็ปลูกพืชผัก ทำกสิกรรมไร้สารพิษ ไปดูแลจัดการต้นไม้ที่สวนร่มบุญ ไปบำเพ็ญที่บวรทะเลธรรม ไปรวมพลังพี่น้องทำน้ำพริกเผาที่สวนป่านาบุญ 2 ทำน้ำย่านางแบ่งปัน ฯลฯ
เมื่อได้พิจารณาประโยชน์ซ้ำๆๆๆๆ ถ้ายิ่งอยาก ยิ่งทุกข์ ยิ่งอยาก ยิ่งไม่ได้ จนกิเลสความอยากลดลง ทำใจพิจารณาให้ลึกให้ละเอียด ยิ่งเราอยาก ยิ่งเป็นแรงเหนี่ยวนำให้คนอื่นมีความอยาก มีความทุกข์ เพิ่มขึ้นๆๆๆ ยิ่งเราลดอยาก ทำให้ทุกข์ลดลง ก็เป็นแรงเหนี่ยวนำให้คนอื่นลดอยาก ลดทุกข์ลง ดังนั้น ไม่อยากดีกว่า มีกุศล มีพลังดี มีคุณค่าต่อชีวิตเราและผู้อื่นมหาศาล ทำให้จิตใจเบิกบาน ไม่ทุกข์ที่จะไม่ได้ไปภูผา
พิจารณากรรมและวิบากกรรม ที่เราเคยไปห้ามหรือตัดสินผู้อื่นไม่ให้ไปภูผา หรือเพ่งโทษผู้อื่นที่อยู่บ้านไม่เคลื่อนมาที่ภูผาบ้าง ย้อนระลึกขอรับโทษ ยินดีรับโทษ กราบขออโหสิกรรมที่ คิด พูด ทำ ในสิ่งที่ไม่ดีนั้น
ขอตั้งศีล ไม่วิวาทะกับคนในบ้าน ไม่ซื้อทุเรียนและทานให้น้อยที่สุด
ตั้งศีล เพิ่มศีล ไม่ยึด ไม่อยาก ทำดีเต็มที่ สุขเต็มที่ ใจไร้ทุกข์