รายการ “วิชาสุขภาพองค์รวม” ครั้งที่ 11
วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2564
เวลา 20.08 น.- 21.25 น.
ประเด็นเด่นจากรายการ
-
- วิธีการแก้ไขอาการจากผลข้างเคียงแบบง่าย ๆ
- รับประทานสมุนไพรฤทธิ์ร้อน เกินภาวะร่างกายสามารถรับได้ อาจถึงชีวิต
- หมอที่ดีที่สุด คือ ตัวเราเอง
ครั้งนี้มีนักศึกษาเข้าเรียนผ่านระบบออนไลน์ทั่วโลกมากกว่า 47 ท่าน ดำเนินการสอน โดย ดร.ธนวันต์ ศรีอมรรัตนกุล เรื่อง ประสบการณ์การดูแลรักษาตนเองของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19
บรรยากาศในห้องเรียนออนไลน์ เริ่มต้นด้วยการแบ่งปันเรื่องราวจากจิตอาสา เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19ท่านหนึ่ง ที่ในช่วงเช้ายังมีอาการร่าเริง สดใส ปกติดี แต่พอเข้าช่วงเย็น กลับเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากดื่มน้ำกระชายขาว (ไม่มีเจตนาในการต่อต้านสมุนไพรหรือศาสตร์อื่น แต่ต้องการให้ทราบละเอียดของอาการ อันเนื่องมาจากร่างกายไม่สมดุล เพราะกระชายขาวมีฤทธิ์ร้อน จึงทำให้ร่างกายร้อนเกิน)
จากนั้นเป็นช่วงการแบ่งปันวิธีการดูแลรักษาตนเองของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 7 ท่าน ได้แก่ คุณปัทมา ลีฬหาวงศ์ (หมู) คุณมาลิน จุ้ยทรัพย์เปี่ยม (ต่าย) คุณจาริณี กวีวิวิธชัย (เอ๋) คุณณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) คุณฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์ (ตุุ่ง) คุณประคอง เก็บนาค (คอง) และคุณพรนภา บุรณศิริ (อุ๋ย) ดังนี้
คุณปัทมา ลีฬหาวงศ์ (หมู)
เข็มที่ 1 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีด มีดังนี้
ก่อนคุณหมูได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ได้รับประทานยาโฮมีโอเพื่อกระตุ้นภูมิ และใช้ยาเม็ดที่ 1 คือ น้ำสูตร 4 พลัง (น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น หรือ น้ำสกัดสมุนไพรฤทธิ์เย็น x ผงถ่าน x น้ำมันเขียว x น้ำปัสสาวะ) ปริมาณ 350 มิลลิลิตร พกไปดื่มด้วย
เมื่อถึงบ้าน มีอาการผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน คือ มีอาการถ่าย ปวดหัว มีไข้สูง หนาวสั่นมากจนถึงกระดูก (จนต้องใส่เสื้อหนาวตัวหนา) ลักษณะเหมือนร้อนเย็นพันกัน
แก้อาการโดย ยาเม็ดที่ 3 คือ สวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำอุ่น และใช้ยาเม็ดที่ 1 คือ ดื่มน้ำ 3 พลัง (ผงถ่าน x น้ำสกัดสมุนไพรฤทธิ์เย็น x น้ำมันเขียว) และน้ำปัสสาวะมาทำวิธีการนาโน ใช้ 1 ฝาขวดผสมน้ำขวดเล็ก และนำขวดมากระแทกกับฝ่ามือ และดื่ม
สังเกตร่างกาย ใช้วิธีปรับสมดุล ช่วงแรกด้วยยาเม็ดที่ 2 คือ กัวซาด้วยน้ำมันเขียว (ฤทธิ์เย็น) แต่มีอาการหนาวสั่นมาก จึงเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะรุม (ฤทธิ์ร้อน) มาทาตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายแทน โดยขูดที่แผ่นหลัง สะบัก แขน ข้อต่าง ๆ ทำให้รู้สึกสบาย เบา โล่ง จนอาการไข้ลด สามารถแก้ไขอาการได้ภายใน 1 คืน จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ออกไปตากแดด
คุณมาลิน จุ้ยทรัพย์เปี่ยม (ต่าย) อายุ 46 ปี
เข็มที่ 1 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา
รู้สึกถูกกัน ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เลย
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน [คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด]
คุณจาริณี กวีวิวิธชัย (เอ๋) อายุ 63 ปี
เข็มที่ 1 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา
รู้สึกถูกกัน ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เลย
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ดังนี้
ใช้หลักตามศาสตร์แพทย์วิธีธรรมด้วยยา 9 เม็ด เป็นประจำอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว
โดยจะใช้ยาเม็ดที่ 3 คือ สวนล้างลำไส้ใหญ่ วันละ 1-2 ครั้ง
ยาเม็ดที่ 1 คือ ดื่มน้ำปัสสาวะ
ยาเม็ดที่ 7 คือ รับประทานอาหารปรับสมดุล
ยาเม็ดที่ 6 คือ กายบริหาร
ยาเม็ดที่ 8 คือ วางใจไม่กังวล
ข้อมูลเปรียบเทียบ คือ ญาติอายุประมาณ 40 ปี ฉีดยี่ห้อแอสตราเซเนกา มีอาการจากผลข้างเคียงเพียงท่านเดียว ในขณะที่สมาชิกในครอบครัวท่านอื่น ไม่มีผลข้างเคียง
คุณณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) อายุ 53 ปี
คุณณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) อายุ 53 ปี
ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 ครั้ง
เข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 คือ ยี่ห้อซิโนแวค
เข็มที่ 3 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ดังนี้
เข็มที่ 1 ใช้ยาเม็ดที่ 8 และ 9 ทำใจในใจไม่กลัว กังวล กับผลแทรกซ้อนใด ๆ ที่จะเกิด มีไข้อยู่สองวันก็หาย ดูแลด้วยการดื่มน้ำสมุนไพรในตัวและสวนล้างลำไส้ใหญ่
เข็มที่ 2 ใช้ยาเม็ดที่ 7 คือ รับประทานอาหารสูตรหนึ่ง จึงไม่มีอาการผลข้างเคียงใด ๆ
เข็มที่ 3 ใช้ยาเม็ดที่ 3 คือ สวนล้างลำไส้ใหญ่ คืนแรกไม่มีอาการ แต่คืนที่สอง มีอาการเหมือนเป็นหวัดแบบผู้ติดเชื้อโควิด หนาวสั่นมาก แต่ใจไม่กังวลไม่หวั่นไหว เพราะใจตั้งมั่นเพื่อที่จะพิสูจน์ด้วยตนเอง และนำข้อมูลไปให้คำปรึกษากับผู้รับการฉีดวัคซีนได้ ยังไปทำงานปกติทุกวัน ดูจิตตลอดคืนจนหลับ
ใช้ยาเม็ดที่ 1 คือ ดื่มน้ำปัสสาวะทุกครั้งที่ขับออกมา ทำให้รู้สึกสบาย
ใช้ยาเม็ดที่ 6 คือ กดจุดโยคะบนเตียง ทำให้โล่ง เบา
ใช้ยาเม็ดที่ 8 คือ วางใจไม่กลัว และเบิกบาน มีความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโควิด-19 หรือโรคอื่น ๆ ก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้
ข้อมูลเปรียบเทียบ คือ รุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า และไม่ได้ใช้ศาสตร์แพทย์วิถีธรรม คือ ยา 9 เม็ด จะมีอาการผลข้างเคียงค่อนข้างหนัก
คุณฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์ (ตุ่ง) อายุ 53 ปี
ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง
เข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 คือ ยี่ห้อซิโนแวค
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ดังนี้
ก่อนฉีดเข็มที่ 1 นอนดึกมาก เพราะทำงานติดพัน (ร่างกายอ่อนแอ) แต่ใช้ยาเม็ดที่ 8 คือ วางใจไม่มีอาการกลัวการฉีดวัคซีนเลย เพราะเคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าตอนเรียนปริญญาโท ซึ่งร่างกายทั้งเหน็ดเหนื่อย เพลียจัดมาก เคยแพ้วัคซีนพิษสุนัขบ้าอย่างหนัก ปวดระบมไปทั้งร่างกายจนถึงกระดูก ต้องนอนร้องครวญคราง รอบนี้ในการฉีดวัคซีนเข็มแรก มีอาการน้อยเจ็บปวดน้อยกว่ามาก แต่มีเพียงอาการปวดหัวมากเป็นไข้ ซึ่งตนเองเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว ดูแลตนเองโดยการปรับพฤติกรรมสุขภาพตามหลักการแพทย์วิถีธรรม
เข็มที่ 2 ไม่มีอาการใด ๆ และได้มีโอกาสใช้ยาเม็ดที่ 9 คือ รู้เพียรรู้พัก ดูแลสุขภาพตนเองด้วยอากาศดี ๆ ที่วังน้ำเขียว และมีการนั่งสมาธิเพื่อได้เพิ่มพลังอย่างดีให้แก่ตนเอง
คุณประคอง เก็บนาค (คอง)
ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง
เข็มที่ 1 คือ ยี่ห้อซิโนแวค
เข็มที่ 2 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา (สูตรผสม)
มีวิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน [คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด]
คุณพรนภา บุรณศิริ (อุ๋ย) อายุ 72 ปี
ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง
เข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 คือ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา
วิธีการดูแลตนเองด้วยวิธียา 9 เม็ด จากอาการผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ดังนี้
ดูแลจิตใจด้วยยาเม็ดที่ 8 คือ วางใจไม่กลัว ไม่กังวล หรือไม่หวั่นไหวใด ๆ ก่อนที่จะไปรับการฉีดวัคซีน
ดูแลร่างกายด้วยยาเม็ดที่ 1 คือ ดื่มน้ำปัสสาวะ และยาเม็ดที่ 5 คือ อาบน้ำด้วยปัสสาวะ
หลังกลับมาจากการฉีดวัคซีน คือ ไม่มีอาการจากผลข้างเคียงใด ๆ เลย
ข้อมูลเพิ่มเติมของวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อต่าง ๆ
ยี่ห้อไฟเซอร์ (mRnA) – เป็นวัคซีนแบบภูมิแพ้ที่ทำร้ายตนเอง ฉีดแล้วอาจมีผลข้างเคียงกลับมา ภายใน 1-2 ปี
ยี่ห้อซิโนแวค– เป็นวัคซีนที่มีลักษณะนุ่มนวลในการออกอาการ มากกว่ายี่ห้ออื่น
ยี่ห้อแอสตราเซเนกา – เป็นวัคซีนที่มีลักษณะเชื้อเป็น มีความดุดัน จะออกอาการผลข้างเคียงเร็ว แต่ก็มีลักษณะอาการที่หายเร็วเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอาการ
เทคนิคเพิ่มเติมในการดูแลตนเองในการเข้ารับฉีดวัคซีน
สามารถแก้อาการด้วยการใช้วิธีการรับประทานเพียงข้าวต้มอย่างเดียว
สรุปเนื้อหาของวันนี้ คือ
การแพทย์ศาสตร์แผนปัจจุบันและแพทย์ศาสตร์พึ่งตน หากนำมาใช้ผสมผสานได้อย่างถูกจุดเหมาะสม ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคภัยและเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งสองศาสตร์ต่างก็ให้ความรู้ไปในทิศทางเดียวกันว่า การที่จะปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ได้นั้น ต้องเกิดมาจากการดูแลร่างกายจากภายในเป็นหลัก ด้วยหลักการพื้นฐาน คือ อารมณ์ อาหาร ออกกำลังกาย และอากาศ ส่วนเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเพียงส่วนเสริมของร่างกายเท่านั้น เมื่อประชาชนคนไทยสามารถเรียนรู้และเข้าใจแก่นหลักของกลไกการดูแลตนเองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยใด ๆ ก็ไร้กังวล เพราะ “หมอที่ดีที่สุด คือ ตัวเราเอง”
รายงานข่าวโดย :
ศิริพร คำวงษ์ศรี (มั่นผ่องพุทธ) / สวนป่านาบุญ ๙ สังกัดภาคกลาง