ข่าวสายด่วนสุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย

ข่าวสายด่วนสุขภาพพึ่งตนวิถีธรรมวิถีไทย

วันอาทิตย์ 10 ตุลาคม 2564 เวลา 14.00-16.30 น.

บรรยากาศในห้องตอบปัญหาสายด่วนวันนี้ มีพี่น้องให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมกว่าร้อยชีวิต เริ่มกิจกรรมด้วยการออกกำลังกายด้วยการมาร์ชชิ่งบริหารหัวใจ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพื่อความสดชื่น จากนั้นพี่น้องร่วมกันบำเพ็ญอ่าน บททบทวนธรรม ข้อที่ 153-165 พี่น้องได้ร่วมแบ่งปันสภาวธรรมจากบททบทวนธรรมที่ตนเองได้รับ ดังนี้

  1. คุณนิลมล(ผ่องธารธรรม)แชร์สภาวธรรมข้อที่ 162 คือ การดำรงชีวิตมันไม่ได้มีอะไรมากมาย อย่าเสียเวลาไปไขว่คว้าหาสิ่งที่เกินความจำเป็นของชีวิต สิ่งจำเป็นในชีวิตคือ ปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษารักษาโรค มิตรดี ความดี คือสมบัติที่แท้จริงสิ่งจำเป็นในชีวิตมีเพียงเท่านี้
  2. คุณดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ แชร์สภาวธรรมข้อที่ 160 คือ การให้หรือการแบ่งปันด้วยใจที่บริสุทธิ์ คือความเจริญงดงามมีคุณค่า และผาสุกที่สุดในโลก
  3. คุณณัฐพร คงประเสริฐแชร์สภาวธรรมข้อที่ 163 คือ อาหารเป็นหนึ่งในโลก สิ่งสำคัญในชีวิตคือ อาหาร ไดแก่สมุนไพร ผลไม้ ผักสด ผักลวก ข้าว เกลือ ถั่วหลากหลายชนิด ธัญพืชรสมันทำให้แข็งแรง เบาท้องสบาย เบากาย มีกำลัง อิ่มนาน อาหารที่จำเป็นสำคัญต่อชีวิต มีเพียงเท่านี้แล้วจะโลภ จะโง่ไปทำไม
  4. คณปิ๋ว แชร์สภาวธรรม ข้อที่ 165 คุณค่าและความผาสุกของชีวิต คือชีวิตที่พอเพียง เรียบง่ายร่างกายแข็งแรงจิตใจดีงามจิตใจที่ดีงาม จิตใจที่เป็นสุข
  5. คุณดาวรุ่ง บัวแก้ว แชร์สภาวธรรมข้อที่ 154 คือ หมอที่ดีที่สุดคือในโลกคือตัวเราเอง ท่านเล่าว่าพอเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วสบายตัวขึ้น จิตอยากกินขนมแต่พอกินแล้วทำให้ ปวดท้อง

พิธีกร ศิริพร ไตรยสุทธิ์ ชักชวนด้วย บททบทวนธรรมข้อ 153 มาเป็นหมอดูแลตัวเองกันเถอะ

คุณประคอง เก็บนาคได้แนะนำวิธีติดตามคลิปย้อนหลัง ว่าสามารถติดตามได้ทางยูทูป หมอเขียวทีวี และเฟสบุค หมอเขียวแฟนคลับ

ช่วงถามตอบ มีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้

  1. คุณวาสนา ท่านมีความเครียดและกลัว ทำให้น้ำในหูไม่เท่ากัน มีแผลในกระเพาะอาหาร หลังจากได้เข้าค่ายอบรม จากที่เคยไปหาหมอก็ไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ใช้การปรับสมดุล ปลูกพืชผักเอง เลิกกินผงชูรส เลิกกินเนื้อสัตว์ มีเหลือไข่นาน ๆ ครั้ง ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า อยากรู้วิธีปรับสมดุลว่าทำอย่างไร
    จิตอาสาท่านที่ 1 ตอบ อาการต่าง ๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย จิตใจมีผลต่อร่างกาย ร่างกายเจ็บป่วยทุกข์ต้องการบีบเอาพิษออก ทำให้เกิดอาการไม่สบาย ควรคลายความกังวลหวั่นไหวแล้วปรับอาหารไปด้วยใจไม่เร่งผลไม่กังวล
    จิตอาสาท่านที่ 2 ตอบ ให้ปรับอาหาร การแช่มือ แช่เท้าเอาพิษออก สวนล้างลำไส้
    จิตอาสาท่านที่ 3 ตอบ ล้างพิษที่ใจก่อน เป็นยาเม็ดเลิศ แล้วปรับอาหารออกกำลังกาย ด้วยยาเม็ดหลัก และเอาพิษออกด้วยยาเม็ดเสริม
    จิตอาสาท่านที่ 4 ตอบ สิ่งที่ชี้วัดว่าเราทำถูกหรือทำผิด คือ สบาย เบากาย มีกำลัง ทำใจไม่กังวลหวั่นไหว ลองผิดลองถูกได้ อันไหนทำแล้วสบายก็ให้ทำ ดับทุกข์ที่เหตุ ตั้งศีลไม่เบียดเบียนตนเอง คนอื่น สัตว์อื่น
    คุณวาสนา แชร์สภาวธรรมว่ารู้สึกสบายใจ กลัวพูดผิดพูดถูก แต่ดีใจที่ตัวเองกล้าพูด
  2. คำถาม เรื่อง การกินเทมเป้ ว่าควรกินหรือไม่
    จิตอาสาท่านที่ 1 ตอบว่า ถ้ากินแล้วสบายแสดงว่าถูกกันมีประโยชน์ แต่ถ้ากินแล้วไม่สบาย ก็ไม่ดี เป็นโทษ อันนี้เป็นขึ้นอยู่กับฐานจิต ตอนแรกละเนื้อสัตว์ ก็อาศัย ถั่วเทมเป้ ถั่วเน่า เพิ่มศีลขึ้นไปจะกินถั่วที่ถูกสมดุล เป็นประโยชน์ไม่เป็นโทษ
    จิตอาสาท่านที่ 2 ตอบว่า ตรวจดูว่ามีความชอบความชังอยู่หรือเปล่า เราสู้กับกิเลสไปด้วย ด้านวัตถุก็ดูว่าถูกสมดุลร้อนเย็น ถ้าร่างกายเราสมดุลจะมีสภาพ เบากาย สบายมีกำลังเป็นอยู่ผาสุก
    จิตอาสาท่านที่ 3 ตอบว่า ทางแพทย์วิถีธรรมดูองค์ประกอบองค์รวม ถ้าสบายเบากาย แล้วก็จะสมดุลยาเก้าเม็ดคือทางออกที่ดีที่สุด
    อาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน ได้ให้ข้อมูลดังนี้ เทมเป้สำหรับคนที่เพิ่งเลิกเนื้อสัตว์ ทุกอย่างมีขั้นตอน จากสัตว์ใหญ่มาเป็นสัตว์เล็ก มากินมังสวิรัติ กินเจอร่อย ลดละของปลอมไปอีก ค่อยก้าวไปสู่ความเรียบง่ายสูงสุดคือกินถั่วหลากหลายชนิดเรียบง่ายที่สุด
    ชีวิตต้องก้าวสู่ความเรียบง่ายที่สุด อาหารที่น้อย หาได้ง่ายและไม่มีโทษ และไม่ทำร้ายชีวิตสัตว์ใด ๆ แกงถั่ว เต้าหู้ ก็ต้องผ่านกระบวนการ มันยังมีวิบากซ้อนอยู่ อะไรที่ยุ่งยากมีวิบาก
    คนโบราณใช้แต่เกลือปรุงอาหาร การรับประทานอาหารธรรมชาติ เกลือคือความเค็มหลักของชีวิต ประหยัดเรียบง่ายดีที่สุด
    อาจารย์กินเรียบง่าย ไม่กินของหมักดอง ไม่ขาดวิตามินบี 12 ถ้าวิตามินบี 12 มีในเนื้อสัตว์และของหมักดอง เขาผลิตวิตามินบี 12 มาขายให้ใคร เพราะคนส่วนใหญ่กินเนื้อสัตว์
  3. ผู้เข้าอบรมถามว่า กระดูกพรุน ควรดูแลอย่างไร และจะรับประทานอาหารอย่างไรให้ได้แคลเซียมพอเท่าที่ร่างกายต้องการ
    จิตอาสาที่ 1 ตอบ ให้กินอาหารพืช จืด สบาย ในผักฤทธิ์เย็นมีแคลเซียมสูง เช่นย่านางมีแคลเซียมฤทธิ์เย็น ทำให้เสริมความแข็งแรงของกระดูก และแคลเซียมมีในผักใบเขียวทุกชนิด นำมากินใช้ให้ถูกสมดุลร้อนเย็น กินแล้วสบาย กินให้ถูกกับสภาวะของร่างกายเราขณะนั้น ร่างกายจะปรับสมดุลของเขาเอง ที่สำคัญกินแล้วสบายใจ และเรียบง่าย หาได้ง่าย
    จิตอาสาท่านที่ 2 ตอบ ก่อนที่ท่านจะมารู้จักแพทย์วิถีธรรมก็กลัวแคลเซียมต่ำโชคดีมาเจอแพทย์วิถีธรรม ได้ปลูกพืชไว้ใกล้บ้าน ใช้สิ่งที่เรียบง่ายใกล้ตัวมาประกอบอาหาร  เราได้ล้างความกลัวกังวลหวั่นไหว ทำให้ร่างกายแข็งแรง
    จิตอาสาท่านที่ 3 ตอบ แคลเซียมที่เขาขายมีฤทธิ์ร้อน แคลเซียมที่ดีคือแคลเซียมเย็นจากพืช เรามีการเพิ่มศีลมาลด ละ เลิก เราจะเห็นความต่าง อย่ากังวลแล้วพากเพียร ขัดเกลาจิตวิญญาณของเรา ใช้สมุนไพรที่ถูกกับเรา ให้ปฏิบัติอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา กำจัดความกลัวกังวลหวั่นไหว
  4. มีคำถามว่า กินแคลเซียมที่หมอให้มาแล้วเกิดอาการท้องผูก และบางทีก็ท้องเสีย
    จิตอาสาตอบ ให้ตรวจสอบสภาวะร่างกายว่าทำแล้วดีมั้ย ทำแล้วสบายแสดงว่าถูกกัน แต่ทำแล้วไม่สบายแสดงว่าไม่ถูกกัน ให้ปรับอาหารให้ถูกสมดุลร่างกายก็จะดีขึ้น
    อาจารย์ ดร.ใจเพชร กล้าจน ให้สัมมาทิฏฐิเรื่อง แคลเซียมว่า ถ้าร่างกายมีภาวะเย็นเกิน ใช้แคลเซียมร้อนจากพืชที่มีฤทธิ์ร้อน แต่ถ้าร่างกายเรามีภาวะร้อนเกิน เราใช้แคลเซียมเย็นจากพืขฤทธิ์เย็นเท่าที่สบาย อาจารย์กินแลเซียมเย็นแล้วถูกกัน แต่ถ้าไปกินงาซึ่งมีแคลเซียมร้อนจะทำให้ไม่สบาย มันดีกับบางคน พออาจารย์กินผักฤทธิ์เย็นเป็นหลักไม่มีฟันผุเลย ที่คนไข้กินแคลเซียมที่หมอจ่ายทำให้ กระดูกผุกระดูกพรุน กินแล้วท้องผูก ท้องเสีย เพราะเกิดภาวะร้อนเกิน และมีพิษตกค้าง พอมากินพืชฤทธิ์เย็น ทำให้หายได้ภายใน 6 เดือน หมอปัจจบันรักษาไม่หาย แต่ให้กินยายิ่งกินยิ่งแย่ อาจารย์เห็นมาเยอะ พอมากินผักสมดุลร้อนเย็นให้พอดีสบาย มวลกระดูกเพิ่มขึ้น

อนุโมทนากับพี่น้องทุกท่าน
อรวิภา กริฟฟิธส์ รายงาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *