กลุ่มงานสาระธรรม : พร้อมพัง
กลุ่มพร้อมพัง ตั้งขึ้นมาตามข้อเสนอของผู้เรียนวิชา ภาพประกอบสาระธรรม ที่ต้องการเห็นทั้งกระบวนการการทำงานของผู้สอน และผลงานของผู้สอนที่อยู่ในบริบทเดียวกัน
ชื่อกลุ่ม พร้อมพัง นั้นก็มาจากสภาพที่ทำดีเต็มที่ และพร้อมที่จะให้มันพังทลายลง แม้ว่าจะเป็นดีที่เต็มที่แล้วก็ตาม ตามคำของอาจารย์หมอเขียวที่ว่า “เมื่อเรามุ่งหมายและพยายามหยุดชั่ว มุ่งหมายให้เกิดดีและพยายามทำดีอย่างเต็มที่แล้ว ยอมหรือกล้าให้เกิดสิ่งเลวร้ายสุด ๆ ทุกเรื่องให้ได้ ชีวิตก็ไม่มีอะไรทุกข์ใจ”
สมาชิก
- ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ : ค้นหาสาระธรรม, ทำภาพประกอบ, ตรวจภาษา, วิจารณ์ผลงาน
- ตรงพุทธ ทองไพบูลย์ : ค้นหาสาระธรรม, ทำภาพประกอบ, ตรวจภาษา, วิจารณ์ผลงาน
สรุปการเรียนรู้ของสมาชิก
ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์
จุดเริ่มต้น
กลุ่มพร้อมพังเกิดขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าเราควรจะทำงานกลุ่มให้เป็นตัวอย่าง ทั้งเรื่องของผลงานงานและเรื่องของกระบวนการทำงาน ตั้งแต่เลือกสาระธรรม (คำคม) เลือกธีมงาน เลือกสไตล์ที่จะใช้ เลือกผู้สร้างผลงาน ส่วนผู้นำเสนอก็เสนอกันไปตามสะดวก เพราะกลุ่มนี้มีคนแค่ 2 คน คือผมและเพื่อน ซึ่งอยู่ในบทบาทคุรุ (ผู้สอน) ทั้งคู่ ดังนั้นหน้าที่ก็อาจจะสลับกันไปกันมา เพราะทำงานแทนกันได้ทุกตำแหน่ง
การทำงานกับกลุ่มพร้อมพัง
การทำงานในกลุ่มพร้อมพังนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะผมกับเพื่อนนั้นร่วมงานกันมาหลายงานและหลายปีแล้ว ดังนั้นประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันจึงมีสูง ขัดแย้งกันน้อย มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน เป็นลำดับ มีความสามารถในการสร้างผลงาน และที่สำคัญคือมีทักษะที่สามารถสร้างผลงานให้สวยงามได้ไม่ยากนัก ดังนั้นอุปสรรคของกลุ่มจึงไม่ใช่การทำงานให้สวย ที่ดูจะลำบากหน่อยก็จะเป็นเรื่องของเวลา เพราะแต่ละคนก็มีงานอย่างอื่นที่ต้องทำ แต่ด้วยการวางแผนงานที่เป็นระบบและความสามารถในการจัดการงาน แม้จะมีเวลาน้อยก็สามารถจบงานได้อย่างไม่ยากนัก ทั้งหมดนี้จะสรุปว่า หากเรามีความ “เป็นงาน” จนกระทั่ง “เก่งงาน” จะลดเวลา หรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ในการงานได้
การนำเสนอผลงาน
การนำเสนอผลงานของกลุ่มพร้อมพังนั้น นำเสนอร่วมกันในห้องเรียนภาพประกอบสาระธรรมออนไลน์ทุกสัปดาห์ หลังจากกลุ่มอื่น ๆ ได้นำเสนอผลงานกันไปแล้ว การนำเสนอผลงานนั้นจะเป็นการเล่าลำดับของการทำงาน แนวคิด ปัญหาที่พบ การแก้ปัญหา ในการนำเสนอผลงานของกลุ่มจะมีเป้าหมายให้นักศึกษาได้เรียนรู้กระบวนการการทำงานของกลุ่มผู้สอน เพื่อให้ได้ปฏิบัติตามกระบวนการการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดผลงานที่มีคุณภาพและมีความขัดแย้งน้อย
สรุปผล
แม้การเกิดของกลุ่มพร้อมพังนั้นจะไม่ได้เป็นไปตามที่คิดตั้งแต่แรก แต่พอสร้างมา ทำไป ให้เป็นตัวอย่างกันไป ก็ดูแล้วว่าให้ผลที่ดีกว่าการที่เรานั่งวิจารณ์นั่งสอนไปเรื่อย ๆ การทำตนเป็นตัวอย่างนั้นมีพลังมาก เสริมพลังในการพูดให้มีน้ำหนักขึ้นไปอีก ผลงานที่ดี สวยงาม ก็อาจจะมีใครหลายคนทำได้ แต่การทำงานร่วมกันอย่างสามัคคี ผาสุก เบิกบาน แจ่มใส ได้ทั้งผลงานและบุญกุศลนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดังนั้นการสร้างกลุ่ม “พร้อมพัง” ก็เป็นการเรียนรู้หนึ่งในบริบทของคุรุ ที่ช่วยให้เพิ่มปัญญาในการทำดีและการช่วยผู้คนให้มากขึ้น
ตรงพุทธ ทองไพบูลย์
ห้องเรียนสาระธรรม เป็นการเรียนรู้ที่ค่อนข้างเกินจากที่คาดหวังไว้มาก แม้จะมีฐานะเป็นคุรุผู้ร่วมสอน แต่ก็ได้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ไปพร้อมพี่น้อง เริ่มจากตอนแรกเป็นการเรียนเทคนิคการใช้ Photoshop เป็นง่าย ๆ พอให้ผลิตผลงานได้ คิดว่าคงเรียนไม่กี่ครั้งก็น่าจะพอ แต่ด้วยความสนใจของพี่น้องทำให้ห้องเรียนสาระธรรมเรียนรู้กันมาร่วม 5 เดือน
ซึ่งตอนแรกก็มองแค่การเรียนรู้งานเป็นหลัก แต่พอพี่น้องสนใจกันมากขึ้น แล้วจากประสบการณ์ในการเรียนรู้เป็นหมู่กลุ่มจะดีกว่า เป็นการทำงานแบบพร้อมปรับพร้อมเปลี่ยนไปตามองค์ประกอบที่เหมาะสม การเรียนรู้แบบหมู่กลุ่มเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างดี ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน และเป็นธรรมดาของการทำงานร่วมกันย่อมมีความเห็นต่าง พี่น้องก็จะได้เรียนรู้เหมือนเป็นภาคปฏิบัติ จากการเรียนธรรมะจาก อ.หมอเขียวมาแล้ว คราวนี้ได้นำมาใช้ เช่น คิดดี พูดดี ทำดี เสนอดี สลายอัตตา สามัคคี นี้ผาสุก เย่! สุดท้ายแล้วก็จะได้มาตรวจใจว่าพอทำงานร่วมกับเพื่อนแล้ว เย่! ออกไหม การเรียนรู้จะเน้นไปที่ทำงานเพื่อมาขัดกิเลส ไม่ได้เน้นผลงาน เน้นที่ใจ มีปัญหาแล้วล้างกิเลสกันได้ไหมเป็นเป้าหมายในการเรียนรู้ ถ้าทำงานแล้วทุกข์ก็ไม่ควรทำ ทำงานแล้วแตกแยกก็ไม่ควรทำ ทำงานไปด้วยปฏิบัติธรรมไปด้วย ได้ล้างกิเลสทุกวินาที
สภาวธรรมส่วนตัว ยอมรับว่าการรับบท “คุรุ” ที่พี่น้องยกให้ในการเรียนห้องสาระธรรม ค่อนข้างหนัก ใจไม่ค่อยอยากรับ รู้สึกว่าเป็นบทบาทที่ต้องรับผิดชอบ จะเล่น ๆ ไม่ได้ ต้องจริงจัง ทั้งในการสอนและปฏิบัติตน เป็นตัวอย่างให้พี่น้อง แต่พอนึกถึงคำ อ.หมอเขียวที่ว่า สอนกันเรียนกันดีแล้ว จะเป็นองค์ประกอบช่วยให้บรรลุธรรมได้เร็ว ทั้งคนเรียนและคนสอน พอมาสอนจริง ๆ ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ สิ่งที่เราสอน พี่น้องบางคนก็เข้าใจเร็ว บางคนก็เข้าใจช้า บางคนสอนอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เราก็ได้ตรวจใจความรีบ ความใจร้อน อยากได้ให้เกิดดีเร็ว ๆ ไหม ก็ได้ฝึกปรับเปลี่ยนหาทางอธิบายใหม่ให้ง่ายขึ้น สอนไปปรับไปนักเรียนเรียนจากคุรุ คุรุก็เรียนจากนักเรียนเหมือนกัน
สุดท้ายได้ตรวจว่ามีความถือตัวถือตนไหม เขายกให้แล้วลอยไหม พร้อมให้พี่น้องวิพากษ์ไหม ตรวจตัวเองแล้วก็ไม่ได้มีอาการนี้ ยินดีให้พี่น้องแนะนำ พร้อมรับคำติ ไม่เอาแต่ใจใช้มติหมู่ตามที่พี่น้องส่วนใหญ่เห็นสมควร เรามีน่าที่แค่เสนอดี แล้วก็วาง ให้ข้อมูลแล้วก็จบ ต่อไปอย่างไรก็แล้วแต่หมู่เห็นสมควร
ห้องเรียนสาระธรรมเป็นกระบวนการเรียนรู้ธรรมะแบบลึกซึ้ง แม้พี่น้องแต่ละคนจะอยู่ต่างที่ก็สามารถมาเรียนรู้ร่วมกันได้ ได้พูดคุยกัน ขัดใจ ขัดกิเลสกันไป เป็นการทำอปริหานิยธรรม พากันเจริญ ลดกิเลสได้ตามลำดับ