At bagon.is you can Buy webshells, phpmailer, Combo list
สรุปการเรียนรู้ งานกลุ่มภาพประกอบสาระธรรม “เพชร” | สถาบันวิชชาราม
Skip to content

สรุปการเรียนรู้ งานกลุ่มภาพประกอบสาระธรรม “เพชร”

สรุปการเรียนรู้ของสมาชิกกลุ่มเพชร

โยธกา รือเซ็นแบร์ก (แจ้งศีล)

จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม สังกัดสวนป่านาบุญ ๖

ข้าพเจ้ามีความยินดีมากที่มีโอกาสได้เข้ามาเรียนทำภาพประกอบห้องสาระธรรมตั้งแต่ต้นจนจบคอร์สกับทีมท่านคุรุกับพี่น้องหมู่กลุ่มนักศึกษาทุกท่านสรุปสาระธรรม ประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน ที่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบคอร์สดังนี้

– ครั้งแรกได้รู้มีห้องสาระธรรม ดีใจมาก คิดว่าได้จะฟังธรรมะมากๆ แต่ถึงแม้จะไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้แต่ก็น่าสนใจ และประทับใจ

– แต่ก็ดีใจที่ได้รู้จักทีมคุรุและพี่น้องหมู่กลุ่ม ที่ได้เรียนสิ่งใหม่ๆที่ ไม่เคยคิดจะได้มาเรียนรู้(ศิลปะ ไอเดียไม่มี)

– แต่เรียนทำโฟโต้ช็อปมากยากเพราะไม่มีพื้นฐานมาก่อนท่านคุรุ สอนวิธีทำและพี่น้องหมู่กลุ่มมาสอนนอกรอบอีกทำเป็นระดับหนึ่ง ในมือถือสนุกมากมีพี่น้องคุ้นเคยทำร่วมกัน

พอทำมาระยะหนึ่ง ท่านคุรุให้แยกกลุ่มเล็กออกไปเรียนรู้ทำงานกลุ่ม ทั้งที่ฝึกฝนกับหมู่กลุ่มมาแต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆ

แต่ก็ได้กล้า ก้าวผ่านความกลัว เปิดตัวเอง จะได้เรียนรู้กับก้าวเดินเดี่ยวที่ไม่มีพี่น้องคุ้นเคยเดินด้วย แรกๆ ยังไม่รู้แนวทางไม่รู้จะออกความเห็นอะไรจึงได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว เรื่องทำ PC ลองเรียนกับลูกชายสมองไม่รับ ฝืดฝืนเกินไป

เรียนรู้ การหาคำคม มีความยินดีทำเพราะได้ฟังธรรมะที่ท่านพูดซ้ำๆ และทำให้รู้ความหมายแท้ของคำนั้นๆ

ประโยชน์ตนที่ได้เห็นกิเลสตัวเองมากขึ้น กล้าพูดออกความคิดเห็น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

มีความซาบซึ้งใจในความอดทน ความตั้งใจและ ความเมตตาของท่านคุรุ มากๆ

ประทับใจพี่น้องหมู่กลุ่มที่เสียสละใจเย็น อดทน รอ ยอมรับตามมติหมู่ ยอมขัดใจตัวเอง

***การเรียนห้องสาระธรรมตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นคอร์สท่านคุรุ สอนให้เห็นกิเลสตัวเองชัดเจนมากขึ้นเป็นการสอนธรรมะในรูปแบบการทำงานเป็นกลุ่มคือความสามัคคี ประสานใจกัน ลดอัตตาคนเก่ง และเติมเต็มความมั่นใจให้กับนักเรียนที่เพิ่งเริ่มต้น (ข้าพเจ้า)แต่จะลดกิเลสออกได้มากน้อยเท่าไหร่ ก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนตัวข้าพเจ้าเองมีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากขึ้น และความกร่างลดลง เข้าใจในการทำงานกลุ่มคือใจถึงกันเคารพกันไว้ใจ เชื่อใจ ซึ่งกันและกัน

ขออนุญาตเอาคำสอนท่านอาจารย์หมอเขียวเทศน์ วันที่ ๑๘เมษายน ๒๕๕๘ลีลากิเลสในอุปกิเลส ๑๖ “เรียนรู้ที่สุดคือ ความสามัคคีกันเรียนรู้การอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข สัจจะให้เรียนรู้ ไม่ใช่ครอบครอง แค่มาแค่เรียนรู้ในงานไม่ใช่มาครอบครองงาน มันจึงจะสร้างความสามัคคีได้ ความสามัคคีจึงจะเกิด งานเลิศแค่ใหนแต่คนทะเลาะกัน ความผาสุกอันเลิศยอดจะเกิดไม่ได้ ถ้าไม่เอาแต่ใจตัวเอง พุทธพจน์จะเกิด ถ้าเอาแต่ใจตัวเอง”

พุทธพจน์ ๗ เกิดไม่ได้

  • ๑. ระลึกถึงกัน
  • ๒. รักกัน
  • ๓. เคารพกัน
  • ๔. เกื้อกูลช่วยเหลือกัน
  • ๕. ไม่วิวาทกัน
  • ๖. พร้อมเพรียงกัน
  • ๗.เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นี้คือความพ้นทุกข์

ขอกราบขอบพระคุณท่านคุรุทุกๆท่านและพี่น้องหมู่มิตรดีทุกๆท่านค่ะ

ข้าพเจ้ากราบขอขอบพระคุณพี่น้องกลุ่มเพชร ที่ได้ร่วมทางธรรม สุ้กับกิเลสไปด้วยกัน ต่อไปกราบสาธุค่ะ


นงลักษณ์ สมศรี (จุก ลายใบไม้)

จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม สังกัดสวนป่านาบุญ ๖

การได้มาเรียนรู้งานศิลปะคำคมจากใจเพชร เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะแท้จริงแล้วเรามาอปริหานิยธรรม ได้ล้างกิเลส ได้ฝึกการฟังเสียงกันผ่านzoom บางครั้งจะเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจ บ้าง สื่อสารผิดบ้าง  แต่หลายๆท่านก็มีความเพียร มีฉันทะ อดทน แน่วแน่ ที่จะมาพบกันทุกวันพฤหัส เป็นเวลานานต่อเนื่องกันหลายเดือน

ทีมเพชร เป็นทีมที่ทำงานกันตามฐานจิต และความสามารถ อย่างพากเพียร ตามเหตุตามปัจจัยที่อำนวย แรกๆเราก็อาจจะไม่ได้จริงจังมาก อาจจะมีความยินดีที่ได้มาเจอกัน และมารอดูผลงานพี่น้องกลุ่มอื่น ฝึกวิพากษ์กันแบบสนุกสนาน และประทับใจกันและกันมากกว่า   พอนานๆไปหลายท่านก็ ก็มีฝีมือการทำภาพคำคมเก่งขึ้น

การได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน ผ่านโซเชี่ยล เป็นการต่อยอดสิ่งดีๆอีกมากมายหลังจากนั้น ทำให้เห็นพฤติกรรมตัวเอง เวลาอยู่กับหมู่ ได้คบคุ้นกับพี่น้องมากยิ่งขึ้น

แต่สุดท้ายเมื่อต้องกลับเมืองไทย การไปอยู่กับหมู่ใหญ่ ได้สัมผัสสภาวะ จริงๆ เจอผัสสะจริง ลงฐานงานตามพลังหมู่ ก็เป็นความก้าวหน้าในการปฎิบัติธรรม อย่างต่อเนื่องและเห็นผลจริง เวลาตั้งอธิศีล  เราจะได้สัมมาทิฐิ ด้วยความยินดี เมตตา จากหลายๆท่าน  ถือเป็นความโชคดี และกราบขอบพระคุณกลุ่มเพชรและ ชาวสาระธรรม เป็นอย่างยิ่งที่ให้โอกาสเรียนรู้ค่ะ

ขออโหสิกรรม คุรุ และพี่น้องทุกท่าน ที่ได้เคยล่วงเกิน ทั้งทางกาย วาจา และใจทั้งเจตนาและไม่ได้เจตนานะคะ ขอ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ


มัณฑนา ชนัวร์ร (ศีลประดับ)

จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม สังกัดสวนป่านาบุญ ๖

เจริญธรรมสำนึกดี ไม่โทษใคร มีใจไร้ทุกข์ค่ะ

สรุป สาระธรรมประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ที่ได้รับโอกาสได้ร่วมบำเพ็ญเรียนทำภาพประกอบสาระธรรมกับพี่น้องกลุ่ม เพชร เป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะจบคอสการเรียน แต่ในช่วงเวลาที่ข้าพเจ้า ได้ร่วมงานกลุ่ม ก็มีความยืนดี รู้ได้ถึงความเมตตา ความเสียสละของพี่น้อง การยอมรับมติหมู่กลุ่ม ส่วนงานกลุ่มก็มีการรวมและร่วมกันทำ และแบ่งหน้าที่กันทำ ร่วมด้วยช่วยกันตามความสามารถ ได้ฝึกที่เสนอดี สลายอัตตา แต่การสนทนาอาจจะน้อยเพราะพี่น้องแต่ละท่านมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบและเวลาก็ไม่ตรงกันสำหรับข้าพเจ้าทุกอย่างที่เราทำเป็นการปราถนาดีแม้บางครั้งจะไม่ได้พูดแต่อยู่ที่เจตนาและจิตวิญญาณของเรา ที่เรามีจุดมุ่งหมายและปราถนาที่สร้างหรือทำอะไร จิตเป็นบุญ งานที่เราทำก็จะเกิดบุญกุศล

บททบทวนธรรมที่ทำให้มืลังใจและเข้าใจถึงแก่นงานทางธรรมแท้ คือ

“ความสำเร็จของงานไม่ใช่ความสำเร็จของงาน ความสำเร็จของใจคือความสำเร็จของงาน”

กราบขอบพระพี่น้องกลุ่มเพชร ในช่วงเวลาที่ได้ร่วมงานที่ทำงานร่วมกันมีแต่ความเบิกบาน ขอบคุณในความเมตตา และความเสียสละของพี่น้องทุกท่านๆ กราบสาธุค่ะ

ขอกราบคารวะท่านคุรุทุกท่านและกราบขอบพระคุณที่ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม สาธุค่ะกราบอนุโทนาสาธุกับพี่น้องทุกๆท่านค่ะสาธุ


มาลิน จุ้ยทรัพย์เปี่ยม (เมฆ ลม ฟ้า)

จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม สังกัดสวนป่านาบุญ ๗

ห้องเรียนสาระธรรมเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ลงตัว มีสถานการณ์โควิดในประเทศไทยที่พี่น้องจิตอาสาไม่สามารถร่วมบำเพ็ญทำค่ายสุขภาพฯได้ตามปกติ จึงเกิดการนัดหมาย เกิดห้องเรียนสาระธรรม ทุกๆวันพฤหัสบดีเพื่อเรียนรู้การทำภาพประกอบสาระธรรมด้วยโปรแกรมแต่งภาพโฟโต้ช้อป

ช่วงอาทิตย์แรกๆที่เป็นการทำงานเดี่ยวและต่อมาได้จับกลุ่มทำงานเป็นกลุ่ม ตอนแรกที่ได้มีโอกาสร่วมเรียนรู้ จิตคิดแต่จะเอา มีจิตละโมบ อยากจะได้เทคนิคการใช้โปรแกรมโฟโต้ช้อป จิตจะเอาแต่วัตถุ จะเอาๆๆๆ แต่พอตอนหลัง รู้ซึ้งถึงความโง่ของตนเองและสิ่งที่กลุ่มเพชรละเลยไม่ได้ทำคือ การคุยสภาวธรรมกัน เหมือนด้วยเพราะบรรยากาศสบายๆระหว่างพี่กับน้อง ทำให้เราพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายและก็ละเลยการพูดคุยเรื่องใจกันไป กลุ่มเพชรเปรียบเหมือน รถกระป้อคันเล็กๆ หรือ อาจจะเป็นรถสิบล้อคันใหญ่ๆที่เหยียบสปีดมาเกียร์8เต็มสตรีม แต่ต้องชะงัก เหยียบเบรค รถเทกระจาด ไม่เป็นท่า และพอดีช่วงนั้นอาจารย์ก็ได้ให้คำคม “ความสำเร็จของงานไม่ใช่ความสำเร็จของงาน ความสำเร็จของใจคือความสำเร็จของงาน”เหมือนคำคมนั้นส่งมาให้เขกกระบาลตัวเอง นั่นไง เราลืมข้อนี้ไปได้ยังไงกิเลสความกลัวโดนตำหนิ ขออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตนเองเป็นพอ ทำให้ตนเองได้รู้ว่าเรายังมีกิเลสตัวนี้อยู่เป็นอสุรกาย กลัวคำตำหนิอยู่ แต่ละอาทิตย์ๆที่ได้ร่วมทำงาน จากที่มุ่งแต่ตัวงานนอกหรือรูปนอก จนลืมดูจิตวิญญาณตัวเองไป พออาทิตย์หลัง เริ่มยอมรับได้ นั่งคิดพิจารณา เอาประโยชน์จากคำติ ยอมรับความคิดต่างที่ไม่เหมือนเรารู้สึกตนเองได้ฝึกฝน จนกระทั่งสุดท้าย ยิ้มกับตัวเองได้

สุดท้ายขอขอบพระคุณครูบาอาจารย์และคุรุที่ทำให้เกิดเหตุปัจจัยที่ลงตัว ช่วยกระเทาะกิเลสของตัวข้าพเจ้าออกมา ทำให้ได้ฝึกอ่านใจตัวเองมากขึ้นและจะพากเพียรไปเรื่อยๆ สาธุ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *