ต้มกะทิหยวกกล้วย : วรางคณา ไตรยสทธิ์ (พุทธพรฟ้า)
หยวกกล้วยน้ำหว้าได้มาจากจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมที่อยู่ จ.อุบลราชธานี ท่านซื้อมาจากตลาดพื้นบ้านใกล้ ๆ บ้านท่าน ส่วนผักที่จะใส่ในต้มกะทิหยวกกล้วยจะใส่หลายอย่างหรือใส่แค่หยวกกล้วยก็ได้ พอดีช่วงนี้เข้าฤดูหนาวเลยมีผักไร้สารพิษออกมาขายที่ตลาดเขียวหลายชนิดจึงใส่ได้หลากหลายมากขึ้น หยวกกล้วยน้ำว้าเป็นผักฤทธิ์เย็นที่นำมากินสดหรือทำอาหารได้หลายอย่าง ทำให้ได้เรียนรู้การทำอาหารจากผักพื้นบ้าน ที่ไม่ค่อยมีขายในท้องตลาดทั่วไปจะมีแค่ตลาดท้องถิ่นหรือตัดมาทำอาหารเองในแต่ละบ้าน
อาหารฤทธิ์ร้อน – เย็น ผสมพอ ๆ กัน
ใช้เวลาประกอบอาหาร 16 – 30 นาที
วัตถุดิบ
ฤทธิ์เย็น
- 1. หยวกกล้วย 2-3 ท่อน (ท่อนละ 1 คืบ)
- 2. มะละกอห่าม 2-3 ชิ้น
- 3. ฟักแม้ว 1 ลูก
- 4. มะขามเปียก 1 ข้อ
- 5. น้ำเปล่า ประมาณ 500 มิลลิลิตร
ฤทธิ์ร้อน
- 1. หอมแดง 2-3 หัว
- 2. กระเทียม 2-3 กลีบ
- 3. ตะไคร้ 1-2
- 4. พริกหยวก ครึ่งลูก
- 5. แครอท 2-3 หัวเล็ก (เบบี้แครอท)
- 6. ผักชีฝรั่ง 5 ใบ
- 7. หัวกะทิ 1 ถ้วยเล็ก (250 มิลลิลิตร)
- 8. เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- 1. ต้มหัวกะทิด้วยไฟกลาง โดยใส่พริกหยวก ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม มะขามเปียก แครอท จนเดือด ประมาณ 5 นาที แล้วเติมน้ำเปล่าต้มต่อจนเดือดอีกประมาณ 5 นาที
- 2. เติมมะละกอห่าม หยวกกล้วย และฟักแม้ว ลงไปประมาณ 2-3 นาที
- 3. เติมเกลือและผักชีฝรั่ง แล้วปิดไฟ
สภาวธรรม
ก่อนทำเมนูนี้ก็คิดว่า “จะทำอะไรกินดี เพราะช่วงนี้อากาศหนาว แล้วหยวกกล้วยก็มีฤทธิ์เย็นมาก” จึงเลือกทำเมนูที่ได้ใส่ผักฤทธิ์ร้อนและกะทิด้วย เพื่อเพิ่มพลังงานความอบอุ่นให้กับร่างกาย ตอนที่กินก็รู้สึกอุ่นสบาย แต่รสชาติก็คล้ายต้มจืดใส่กะทิเพราะเราปรุ่งรสชาติไม่จัดจ้าน เมนูนี้ทำง่ายเพราะเรามีวัตถุดิบอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องหาวัตถุดิบเองและขูดมะพร้าวมาคั้นกะทิเองก็คงทำกันทั้งวันกว่าจะได้กิน