นักศึกษาวิชชารามและจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ร่วมบันทึกเรื่องราวจากชีวิตจริงของตนเองที่ได้เรียนรู้และปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือคำสอนของครูบาอาจารย์ …อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โจทย์ พุทธะชนะทุกข์
!สำหรับนักศึกษาสังกัดภาคอื่น ๆ คือ
- ภาคเหนือ สวนป่านาบุญ8 ชุมชนภูผาฟ้าน้ำ ฯลฯ
- ภาคอีสาน สวนป่านาบุญ1 สวนป่านาบุญ4
- ต่างประเทศ
- ฯลฯ
นักศึกษาพิมพ์เรื่องราวหรือคัดลอกข้อมูลส่งในส่วนแสดงความคิดเห็นด้านล่าง
พุทธะชนะทุกข์
เรื่อง ทุกข์ที่พ่อบ้านไม่ตั้งใจฟัง
เนื้อเรื่อง พ่อบ้านและผู้เขียนมีความจำเป็นต้องไปติดต่องาน ณ ที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น ณ เมือง Boston, Massachusetts, USA
เราได้เตรียมตัววางแผนการเดินทางเป็นที่เรียบร้อย โดยที่พ่อบ้านเป็นผู้ขับรถส่วนผู้เขียนจะเป็นผู้ช่วยดูทางอีกแรงหนึ่งเนื่องจากการจราจรคับคั่งและเบียดเสียดกันมาก
เมื่อถึงเวลาการเดินทางก็เป็นไปด้วยความราบรื่นดีพอสมควร รถเยอะแต่ก็ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ที่น่ากังวล ผุ้เขียนคิดว่า ก่อนจะถึงที่หมายตั้งใจจะบอกพ่อบ้านแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้มีเวลาในการหาที่จอดรถได้อย่างไม่กีดขวางการจราจรผู้ใช้รถใช้ถนน
อย่างไรก็ดี เมื่อถึงที่ที่ควรจะจอดพ่อบ้านกลับขับเลยไปเป็นครึ่งกิโลเมตร ทำให้เกิดความยุ่งยากในการหาที่จอดรถ ต้องวนกลับมาใหม่ซึ่งก็ทำให้เสียเวลายิ่งขึ้น ช่วงเวลานั้น ผู้เขียนเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพ่งโทษพ่อบ้านว่าไม่ใส่ใจฟังที่เราพูดทำให้เสียเวลาเลยเถิดเกิดความยุ่งยากตามมา แต่สักพักหลังจากที่บ่นพ่อบ้านในใจแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า “เอ๊ะ นี่เราทุกข์นี่นา” พอผู้เขียนฉุกใจได้แบบนั้นก็เริ่มคิดใหม่ทันที “ไม่เป็นไรหรอก ทำเท่าที่ทำได้ เอาเท่าที่วิบากให้เรา อย่าไปอยากได้เกินกว่านั้นมันทุกข์”
ผู้เขียนถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่ความคิดในแบบทุกข์ๆ โง่ๆ ของตัวเองไม่ได้ออกมาเป็นคำพูด ไม่งั้นคงต้องมีวิวาทะกับพ่อบ้านเป็นแน่แท้ ทำให้วันนั้นได้ทำธุระเสร็จสรรพเรียบร้อยโดยไม่ได้สร้างความขุ่นมัวทางคำพูดจากการขับรถเลยเถิดของพ่อบ้านแต่ประการใด
อริยสัจสี่
ทุกข์ หงุดหงิด น้อยใจ เซ็งที่พ่อบ้านไม่ตั้งใจฟัง
สมุทัย อยากให้พ่อบ้านตั้งใจฟัง
นิโรธ พ่อบ้านจะตั้งใจฟังหรือไม่ก็ไม่ทุกข์ใจ
มรรค พิจารณาความสุขของการได้ดั่งใจที่พ่อบ้านจะค้องตั้งใจฟังเราเท่านั้นถึงจะทำให้เราเป็นสุขได้ พิจารณาว่าถึงเราจะได้สุขนั้นมา มันก็อยู่กับเราได้ไมานาน ไม่ยั่งยืนอะไรหรอก มันเป็นอาการของกิเลสมารที่ครอบงำเรามาหาที่ต้นที่สุดไม่ได้ทำให้เราอยากให้พ่อบ้านฟังเราตลอดเวลา แท้จริงแล้วมันคือทุกข์ ถึงจะได้มาแต่มันก็จะหมดไปอยู่ดี สู้ดีเรามามีความสุขกับการที่พ่อบ้านจะตั้งใจฟังหรือไม่เราก็มีสุขได้ดีกว่า เป็นสุขที่ไม่มีทุกข์เจือ ดีที่สุดในโลก อย่าเอาความสุขของเราไปแขวนไว้กับใคร เราต้องสุขได้ด้วยตัวเราเองดีกว่า
จุฑามาศ วรรณา วอล์กเกอร์
ประวัติโดยย่อ
นักศึกษาสถาบันวิชชาราม อริยะปัญญาตรี หลักสูตร 7 ปี ชั้นปีที่ 1 และเป็นผู้สำเร็จการศึกษา/นักศึกษาหลักสูตร 6 เดือน แพทย์แผนไทยวิถีธรรมคำ้จุนโลก
รหัสนักศึกษา 64009
ชื่อทางธรรม กล้าพ้นทุกข์
ชื่อเล่น สา
อายุ 51 ปี
จิตอาสาคบคุ้นสวนป่านาบุญ 6 ประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่อง ถูกกิเลสหลอก
เดือนตุลาคมตั้งใจจะทานอาหารมื้อเดียวทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์เริ่ม1ตุลาคมตั้งแต่เช้าก็ผ่านไปด้วยดีจนถึงช่วงบ่ายก็ปกติหลังทานอาหารก็ทำงานตามปกติรู้สึกเบาตัวพอตอนเย็นกลับเข้าบ้าน กิเลสบอกว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อน ที่สบายๆน่าจะทานอะไรหน่อยไหม
พอดีเหลือบไปเห็นขนมบนโต๊ะอาหารเกิดความอยากจึงหยิบเข่าปากเคี้ยวไปสักพักนึกได้ว่าวันนี้เราทานอาหารมื้อเดียวจึงหยุดทาน
ทุกข์ :อยากทานอาหารมื้อเย็น
สมุทัย :เหตุแห่งทุกข์ทานอาหารเพราะถูกกิเลสหลอกชังที่ทานอาหารทั้งที่กำหนดไว้ว่าจะทานมื้อเดียว
นิโรธ :สภาพดับทุกข์ไม่ชอบไม่ชังแม้จะถูกหลอกให้ทานอาหารนอกมื้อที่กำหนด
มรรค:วิธีปฏิบัติตรวจใจตัวเองขณะที่ทำตามกิเลส ทำความรู้สึกตัวว่าอะไรเป็นประโยชน์อะไรเป็นโทษ ยินดี พอใจ สุขใจให้ได้โดยใช้บททบทวนธรรมข้อที่22″ถ้าใครมีปัญหาหรือความเจ็บป่วยในชีวิตให้ทำความดี4อย่างนี้ด้วยความยินดีจริงใจจะช่วยให้ปัญหาลดลงได้เร็ว
1.สำนึกผิดหรือยอมรับผิด
2.ขอรับโทษเต็มใจรับโทษหรือขออโหสิกรรม
3.ตั้งจิตหยุดสิ่งที่ไม่ดีอันนั้น
4.ตั้งจิตทำความดีให้มากๆคือลดกิเลสให้มากๆเกื้อกูลผองชนและหมู่สัตว์ให้มากๆ” พอพิจารณาบททบทวน
ธรรม และตั้งศีลใหม่ จิตใจเบาสบายไร้ทุกข์ไรกังวล จิตใจเบิกบาน
25 ตุลาคม2565
เรื่อง จับกิเลส
ช่วงเย็นเมื่อวานนี้เดินทางไปพิษณุโลกระหว่างเดินทางกลับบ้านแวะซื้อของเกิดความอยากกินขนมและได้เห็นกิเลสความอยากรู้ทันความอยากตามทันกิเลส
ทุกข์ :อยากกินขนม
สมุทัย :กิเลสบอกให้กินขนมเถอะชอบที่จะได้กินขนมชังที่จะไม่ได้กินขนม
นิโรธ :ไม่ชอบที่จะได้กินขนมไม่ชังชังที่จะไม่ได้กินขนม
มรรค :วิธีดับทุกข์พิจารณาโทษของการกินขนมที่จะเกิดกับร่างกายถ้าเชื่อกิเลสที่บอกให้ทำจะหนักตัวหลังจากกินขนมที่ทั้งหวานมันเค็มจึงสอนกิเลสกลับไปอย่าโง่อีกเลย การกินอาหารไม่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักจะเอาไหม ทำแล้วเสียพลังงานทำให้ทุกข์หนักเมื่อตั้งสติรู้ทันกิเลสจึงหยุดความคิดที่จะกินขนม ทำใจเบิกบาน
ใจไร้ทุกข์
25 ตุลาคม2565
พุทธชนะทุกข์
เรื่อง จับกิเลส
ช่วงเย็นเมื่อวานนี้เดินทางไปพิษณุโลกระหว่างเดินทางกลับบ้านแวะซื้อของเกิดความอยากกินขนมและได้เห็นกิเลสความอยากรู้ทันความอยากตามทันกิเลส
อริยสัจสี่
ทุกข์ :อยากกินขนม
สมุทัย :กิเลสบอกให้กินขนมเถอะชอบที่จะได้กินขนมชังที่จะไม่ได้กินขนม
นิโรธ :ไม่ชอบที่จะได้กินขนมไม่ชังชังที่จะไม่ได้กินขนม
มรรค :วิธีดับทุกข์พิจารณาโทษของการกินขนมที่จะเกิดกับร่างกายถ้าเชื่อกิเลสที่บอกให้ทำจะหนักตัวหลังจากกินขนมที่ทั้งหวานมันเค็มจึงสอนกิเลสกลับไปอย่าโง่อีกเลย การกินอาหารไม่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักจะเอาไหม ทำแล้วเสียพลังงานทำให้ทุกข์หนักเมื่อตั้งสติรู้ทันกิเลสจึงหยุดความคิดที่จะกินขนม ทำใจเบิกบาน
ใจไร้ทุกข์