กระดานแบ่งปัน (พฤษภาคม ๒๕๖๕) [2]

กระดานแบ่งปัน สังคมแห่งการเรียนรู้วิชชาราม (vijjaram learning society)

ประจำเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2565 นักศึกษาวิชชารามทุกชั้นปี ทุกหลักสูตร นักศึกษาเก่า นักศึกษาใหม่ สามารถแบ่งปันการเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย โดยพิมพ์ ชื่อ นามสกุล (รหัสนักศึกษา หรือ (ภาคสมทบ) หรือ (นักศึกษาเก่า) หรือ ฯลฯ) หรือจะใช้นามปากกาก็ได้เช่นกัน

โดยสามารถแบ่งปันเรื่องราวได้มากมายหลากหลาย เช่นดังต่อไปนี้…

  • แบ่งปันสภาวธรรม
  • สรุปสาระธรรม
  • เรื่องราวในชีวิต
  • การดูแลสุขภาพ
  • การเรียนรู้สิ่งใหม่
  • การทบทวนเรื่องเก่า
  • ร้องเรียน ร้องทุกข์
  • บันทึกประจำวัน
  • ทบทวนธรรม
  • ฯลฯ

โดยจะเปิดพื้นที่นี้ใหม่ทุกสัปดาห์และจะไม่สามารถย้อนไปบันทึกหรือแบ่งปันในสัปดาห์เก่าได้

2 thoughts on “กระดานแบ่งปัน (พฤษภาคม ๒๕๖๕) [2]”

  1. อรวิภา กริฟฟิธส์

    เรื่อง ทุกข์นั้นเราทำเอง
    ตอนเป็นเด็กจำได้ว่าเราเป็นคนขี้น้อยใจคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก เช่นเวลาทะเลาะกันกับน้อง ผู้ใหญ่มักจะบอกให้เรายอมน้องเราก็ไม่ยอมแต่ก็ฝืนทำตามผู้ใหญ่ บางทีก็งอน ทำประชดไม่กินข้าวเวลาอาหาร ก็จะโดนตี กินข้าวทั้งน้ำตา

    เข้าใจเลยที่อาจารย์สอนว่าเวลาใจไม่สบายจะเกิดกล้ามเนื้อเกร็งค้าง ของดีก็เข้าไม่ได้ของเสียออกไม่ได้ ร่างกายรวนไปหมด ตอนเด็ก ๆ จะมีปัญหาท้องผูกบ่อย ๆ ความทุกข์จากความไม่ชอบใจ ไม่ได้ดังใจ เราทำร้ายเราเองเพราะความไม่รู้

    ตอนเด็ก ๆ เวลาอาหารจะกินข้าวร่วมกันนั่งล้อมวงนั่งกับพื้น แม่ก็จะสอนเสมอว่า กินข้าวให้มีความคิด เป็นพี่น้องกันให้รักกัน ให้สามัคคีกัน ถ้าเราไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน ก็จะโดนคนอื่นที่ไม่หวังดีมาทำลายครอบครัวเราได้ เราเป็นผู้ใหญ่ก็ให้ฝึกเสียสละ

    พอโตมาอายุ 7 ขวบ แม่เริ่มสอนงานบ้านให้ ทั้งตักน้ำใส่ตุ่ม กวาดบ้าน ถูบ้าน นึ่งข้าว(คนอีสานกินข้าวเหนียวเป็นหลัก) ทำอาหารง่าย ๆ ว่าการได้ฝึกทำการงาน ทำให้เราพึ่งตนเองได้ เราไม่ต้องรอให้ผู้อื่นทำให้ มันก็เป็นสิ่งดีนะ แต่ใจของเราที่มันไม่อยากทำ มันเห็นคนอื่นเล่นมันก็อยากไปเล่น อยากฝึกตอนที่มันพร้อมไม่อยากโดนบัง(จิตมันคิดเอาเองเพราะมันไม่ชอบใจ) กิเลสครอบงำเราไม่รู้ พอไม่ได้ดังใจก็ทุกข์เพราะเราโง่กว่ากิเลส มาคิดถึงตอนนี้ท่านก็สอนสิ่งดี ๆ ทั้งนั้น เราไม่อยากโดนผู้ใหญ่ว่าก็ต้องทำดี ไม่ดื้อดึง เราทำหน้าที่เราเรียบร้อยเร็วเราก็ได้ไปเล่น

    ยิ่งตอนนี้ได้มาเรียนรู้ธรรมะที่ถูกต้องถูกตรงแล้ว ก็ชัดเจนเลยว่าอะไรที่เราได้รับเราทำมาทั้งนั้น ไม่มีใครทำดีทำขั่วให้เราได้นอกจากวิบากดีร้ายของเราเอง ดังบททบทวนธรรม ที่ว่า

    “ไม่มีใครทำดีกับเราได้นอกจากตัวเราเอง ไม่มีใครทำร้ายเราได้ นอกจากตัวเราเอง เราเป็นทายาทของกรรม เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้ดีก็ตามชั่วก็ตาม เราจักได้ผลของกรรมน้้นอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรดลบันดาลสิ่งดีสิ่งร้ายให้เราได้ นอกจากวิบากดีร้ายของเราเท่านั้น ที่ดลบันดาลสิ่งดีสิ่งร้ายให้เราได้ เราทำดีก็ได้รับผลดี เราทำชั่วก็ได้รับผลชั่ว”

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกข์เกิดจากความอยากได้สุขสมใจอยาก พอเราดับความอยากได้เป็นสุข เพราะเข้าใจเรื่องกรรมอย่างแจ่มแจ้ง หมดอยาก หมดทุกข์ ผาสุกยั่งยืน

    ขอบคุณคุณพ่อคุญแม่ที่ไม่ตามใจลูก ตอนที่ลูกยังเด็ก เพราะความไม่ได้ดังใจหมาย ทำให้ลูกเข็มแข็งและเจริญในธรรมในทุกวันนี้ เย่ ๆ ดีใจจังไม่ได้ดังใจ วิบากหมด กิเลสตาย ได้กุศล

  2. อรวิภา กริฟฟิธส์

    วันที่ 18 พฤษภาคม 2565
    ทำดีเต็มที่ทุกวันก็สุขใจเต็มที่ได้ทุกวัน
    วันนี้ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมา ทำภาวระกิจส่วนตัวก็เริ่มต้นวันดี ๆ ด้วยการฟังธรรมะในห้องซุม และหลังจากนั้นก็ออกกำลังกายโยคะ ฝึกลมหายใจ เสร็จแล้วทำอาหาร กินอาหารไปพร้อมกับฟังพี่น้องแบ่งปันรายการ พุทธะชนะทุกข์ แล้วเข้าอปริหานิยธรรมกับพี่น้องต่างประเทศ เสร็จจากประชุมได้ทำการถนอมอาหาร ทำน้ำพริกผลไม้ เพื่อแบ่งปัน ขณะที่ทำน้ำพริก ก็ได้ชิมดู เห็นจิตมีความกลัวกังวลเล็กน้อย เรื่องรสชาต กลัวว่าพี่น้องที่ได้รับแบ่งปันจะกินได้หรือเปล่า ก็ไ้ด้ล้างกิเลสว่า เมื่อเราทำเต็มที่ก็ไม่มีอะไรคาใจ เพราะเรื่องรสชาตดีไม่ดีเป็นเรื่องของแต่ละคน เราไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ ใครเขาจะชอบหรือไม่ ใจเราก็ไม่ทุกข์ ดังบททบทวนธรรม “ทำดีเต็มที่ทุกวัน ก็สุขใจเต็มที่ได้ทุกวัน”

Comments are closed.