กระดานแบ่งปัน ๕ (๒๕๖๔) [2:2]

กระดานแบ่งปัน สังคมแห่งการเรียนรู้วิชชาราม (vijjaram learning society)

สัปดาห์ที่ 5/2564 ประจำวันที่ 1-7 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 นักศึกษาวิชชารามทุกชั้นปี ทุกหลักสูตร นักศึกษาเก่า นักศึกษาใหม่ สามารถแบ่งปันการเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย โดยพิมพ์ ชื่อ นามสกุล (รหัสนักศึกษา หรือ (ภาคสมทบ) หรือ (นักศึกษาเก่า) หรือ ฯลฯ) หรือจะใช้นามปากกาก็ได้เช่นกัน

โดยสามารถแบ่งปันเรื่องราวได้มากมายหลากหลาย เช่นดังต่อไปนี้…

  • แบ่งปันสภาวธรรม
  • สรุปสาระธรรม
  • เรื่องราวในชีวิต
  • การดูแลสุขภาพ
  • การเรียนรู้สิ่งใหม่
  • การทบทวนเรื่องเก่า
  • ร้องเรียน ร้องทุกข์
  • บันทึกประจำวัน
  • ทบทวนธรรม
  • ฯลฯ

โดยจะเปิดพื้นที่นี้ใหม่ทุกสัปดาห์และจะไม่สามารถย้อนไปบันทึกหรือแบ่งปันในสัปดาห์เก่าได้

2 thoughts on “กระดานแบ่งปัน ๕ (๒๕๖๔) [2:2]”

  1. ชุติวรรณ แสงสำลี

    การเรียนรู้สิ่งใหม่ ชีวิตในการปฏิบัติธรรม เปรียบเหมือนต้นไม้ สูงใหญ่ที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว เมื่อถึงเวลาใบไม้ที่เสื่อมสภาพหลุดร่วงออกจากต้นและก็มีใบใหม่ๆเกิดขึ้นมาแทน ด้วยความเต็มใจ ไม่มีเวทนาความรู้สึกสุข ทุกข์ เจ็บปวด มีแต่รูป สัญญา สังขาร เท่านั้น และถ้าได้องค์ประกอบดีๆ ดิน นำ้ แสง อุณหภูมิ ต้นไม้นั้นก็จะเจริญงอกงามเติบโตได้ดี ซึ่งได้ทำประโยชน์ให้ตนเองและผู้อื่น สัตว์อื่นได้อาศัยมีความสุขร่มเย็น
    ฉะนั้นการยอมรับสภาพการรู้ความจริงตามความเป็นจริงของวิบากที่ได้รับเมื่่อล้างกิเลสตัวติดตัวยึดได้ กิเลสนั้นสลายร่วงไปจากชีวิตได้เองเหมือนใบไม้ผลัดใบที่ร่วงหล่น ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็จะเกิดปัญญาใหม่ ความรู้ใหม่งอกงามออกมาให้เราได้อาศัยได้ใช้ประโยชน์ใช้ฝึกฝนในการมีชีวิตอยู่ในพุทธะได้อย่างผาสุก

  2. จางคลาย

    เหมือนซอมบี้ในหนัง

    อาจารย์หมอเขียวบอกว่า กิเลสนี่มันมีฤทธิ์มีแรงจริง ๆ ข้าพเจ้าเห็นด้วยอย่างมาก กิเลส ถ้ามันยังครอบงำเราอยู่ล่ะก็ เราจะถูกมันควบคุมบังคับให้ทำตามใจมันแบบไม่รู้เรื่องเลย แม้แต่คนที่เก่ง ๆ ดูฉลาด ๆ ถ้าถูกกิเลสครอบงำแล้ว มันจะทำอะไรโง่ ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ทำโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามันน่าอาย มันไม่น่าดูเอาซะเลย อาการของคนที่ถูกกิเลสครอบงำข้าพเจ้าคิดว่ามันคล้าย ๆ กับพวกผีดิบหรือซอมบี้ในหนังนั่นแหละ คือมันจะเดินง่อก ๆ แง่ก ๆ ไปหาคนเพื่อจะกัดให้ได้ มันคิดอะไรอย่างอื่นไม่เป็นเลย ถ้ามันได้กลิ่นคนอยู่ที่ไหน มันจะเดินเข้าไปหาทันที ต่อให้คนที่มันเดินไปหานั้นกำลังถือปืนไรเฟิลพร้อมที่จะระเบิดหัวมันให้เละตรงนั้น มันก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เอะใจแม้แต่น้อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าไป จนโดนยิงหัวแบะล้มลงไปตรงนั้นและตายไปอีกรอบ ยิ่งกว่านั้น แม้เพื่อนผีดิบของมันเพิ่งจะถูกยิงหัวแบะไปต่อหน้าต่อตาแล้ว มันก็ยังไม่หยุดเดินเข้าไปหากระบอกปืนที่เล็งหัวมันอยู่แท้ ๆ นี่แหละกิเลส ถ้ามันได้ครอบงำจิตเราเสียแล้ว เราจะเหมือนผีดิบที่หน้ามืดตามัว ทำตามกิเลสอย่างโง่ ๆ ทั้งหน้าอาย ทั้งน่าทุเรศ แต่ก็ยังทำอยู่

    โชคดีที่เรายังมีสัตบุรุษ มีหมู่มิตรดี เรายังมีโอกาสถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากสภาพผีดิบนั้นได้ ออกจากการครอบงำของกิเลสได้ แต่เราต้องลดละอัตตา มานะของเราลงเสียก่อน ยอมรับฟัง ตั้งใจเงี่ยหูฟังเสียงของสัตบุรุษและหมู่มิตรดีให้ดี ดังนั้น การคบและเคารพมิตรดีจึงสำคัญมาก เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของการพาตัวเองออกจากการครอบงำของกิเลสเลยทีเดียว

Comments are closed.