At bagon.is you can Buy webshells, phpmailer, Combo list
วิชา อริยสัจ 4 ครั้งที่ 38 l ห้องเรียนวิชชาราม | สถาบันวิชชาราม
Skip to content

วิชา อริยสัจ 4 ครั้งที่ 38 l ห้องเรียนวิชชาราม

ห้องเรียนวิชชาราม ตรวจการบ้าน วิชา อริยสัจ 4  ครั้งที่ 38 ในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 12.00 น. – 14.00 น.

ตรวจการบ้านอริยสัจ 4

1.เรื่อง “มันไม่ใช่ยา”

แพรลายไม้ กล้าจน

เหตุการณ์ : น้องชายส่งข้อมูลมาให้ว่าน้ำสกัดใบกระท่อมมีสรรพคุณอย่างไร ครั้งแรกที่เห็นข้อมูล ก็คิดในใจว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับสารเสพติด ควรจะโทรไปบอกเขาดีไหม ว่าเราไม่สนับสนุนให้ทำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ก็เลยหันไปคุยพี่จิตอาสาที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันว่า มันมีความยึดดีอยากจะให้เขามีความคิดสัมมาทิฏฐิกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ตั้งสติถามตัวเองก่อนว่า เค้าก็พยายามพากเพียรค่อย ๆ ปรับตัวให้มาในสายสุขภาพ โดยพยายามจะทำการแปรรูปสมุนไพรในรูปแบบต่าง ๆ เราก็แนะนำเขาไปหลายอย่าง ซึ่งเขาก็ทำตามมาตลอด แต่อยู่ดี ๆ วันนี้ก็ดันมาถามข้อมูลของใบกระท่อม และส่งสรรพคุณมาให้ดูด้วยว่ามันมีข้อมูลทางด้านสุขภาพในเว็บไซต์เยอะแยะมากมาย สุดท้ายก็ตัดสินใจ LINE ไปบอกเขาว่าถ้าเค้าจะลองทำก็ได้ แต่เราคงไม่สนับสนุน และได้ให้ข้อมูลรายละเอียดตามจริงถึงกฎกติกาว่าสินค้าอะไรที่น่าจะนำไปโพสต์ขายได้และอ้างอิงไปถึงมิจฉาวณิชชาห้า และมิจฉาอาชีวะห้า เขาก็ส่งสติกเกอร์มาว่าขอบคุณสำหรับข้อมูล เราก็แอบฟูใจนิด ๆ ว่าเค้าเชื่อในสิ่งที่เราบอกและเข้าใจถึงเรื่องวิบากว่าถ้าทำแล้วจะเจอแต่เรื่องเมา ๆ แต่พอเห็นที่เขาโพสต์ล่าสุดที่เขาส่งในไลน์ครอบครัว ถึงสรรพคุณตัวนี้อีก ก็อยากจะไลน์ไปบอกทันทีว่าไม่ให้โพสต์ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจ ไม่ทำ เพราะคิดว่าเราให้ข้อมูลไปน่าจะครบทุกด้านแล้วที่เหลือต้องให้เขาไปลองเอง

ทุกข์ : อึดอัดขัดเคืองใจที่เขายังมาโพสต์ถึงผลิตภัณฑ์ตัวนี้ มันมีอาการแปล๊บ ๆ ที่หัวใจอยากจะโทรไปบอกหรือส่ง LINE ทันทีเพื่อให้เขาไม่ต้องโพสต์ข้อมูลเหล่านี้

สมุทัย : ถ้าเค้าไม่ทำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็จะสุขใจแต่ แต่พอไปเห็นข้อมูลล่าสุดที่เขาส่งใน LINE ครอบครัวเค้าก็ส่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้พร้อมสรรพคุณเข้าไปใจมันไม่ชอบอยากให้เขาไม่พูดถึงเรื่องนี้

นิโรธ : เขาจะเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นยามีประโยชน์และจะยังทำต่อไปก็เป็นเรื่องของเขา เราให้ข้อมูลแล้วก็จบเค้าจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ใจก็สบาย

มรรค: ครั้งแรกที่เขาเชื่อฟังและไม่มาหาพูดถึงเรื่องสินค้าตัวนี้ก็คิดว่า เรื่องมันจบแล้ว เราให้ข้อมูลเค้าไปครบแล้วทุกด้าน แต่พอมาเห็นข้อมูลอีกครั้งที่เขายังโพสต์อยู่ก็คิดว่า ไหนเธอยอมรับสุด ๆ แล้วว่าท้ายที่สุดถ้าเขายังคงจะทำอยู่ เราก็แค่ยอมรับความจริงตามความเป็นจริงว่า ฐานเขาได้แค่นี้ แต่เราก็คงไม่ไปสนับสนุนหรือว่าโกรธเกลียดในสิ่งที่เขาคิดว่าดี เพราะเขาได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว จากที่เขาไม่เคยเข้าค่ายไม่เคยสนใจ แต่ในวันนี้เค้าก็ยังยินดีที่จะมาเปลี่ยนสัมมาอาชีพ เริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ และก่อนหน้านี้ก็ยังมาปรึกษา และทดลองทำในสิ่งที่เราแนะนำ ทั้งน้ำสกัดย่านาง ผงถ่านและสมุนไพรที่เขามี เค้าทำเสร็จก็ส่งตัวอย่างมาให้เราดูพร้อมรายละเอียด แล้วเราจะเอาอะไรจากเขา อีกจิตนึกนึกคือ ปรารถนาอยากให้เค้าสมบูรณ์แบบ ตามใจเราว่าเค้าจะต้องทำผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบหมอเขียว 100% ไม่มีสิ่งอื่นมาเจือปน เห็นความชั่วในใจตัวเองที่อยากให้เขาได้ดีเกินฐาน และความโลกมากที่ได้คืบจะเอาศอก แล้วยังนึกหาเหตุผลสารพัดที่จะไปโน้มน้าวให้เขาเลิกคิดเรื่องนี้ แต่ท้ายที่สุดที่มันเห็นกิเลสตัวเล็กกว่านั้นก็คือ มันมีความอายที่น้องเรา ญาติหรือคนรู้จักมาทำในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามกฎกติกาขององค์กร ผิดศีล เพราะเราคิดว่า เราควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น แต่ลืมนึกไปว่าเค้าก็มีฐานอาศัยของเขา เรามีหน้าที่แค่ให้ข้อมูลถูกผิดเท่าที่เราจะสามารถให้ได้ ที่เหลือใครจะทำหรือไม่ทำก็เป็นสิทธิของเขา แต่ถ้าเขาจะมาให้เราช่วยนำเสนอ ก็คงจะบอกเขาไปตรง ๆ ว่าเรื่องนี้เราขอไม่มีส่วนร่วมในวิบาก แต่ถ้าเขายังยืนกรานจะทำก็ต้องบอกเขาไปตรงตรงว่าจะมีวิบากร้ายตามมา ทำให้หลงมัวเมา และยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาก็ได้ เพราะเราคงไม่มีกำลังมากพอที่จะเปลี่ยนความคิดให้เขามาทำแบบ 100% ได้ในตอนนี้ ก็ต้องวางใจ และนึกทบทวนว่าขนาดกิเลสบางตัวของเราก็ยังต้องใช้เวลา เราฟังอาจารย์มาตั้งหลายปี กิเลสบางตัวเราก็ยังขอเก็บเอาไว้ลึกลึกในใจอยู่เลยว่าตัวนี้ขอเป็นตัวสุดท้าย แล้วนี่เค้าไม่เคยเรียนรู้เลย เค้ายอมรับและเชื่อฟังทำตามที่เราแนะนำตั้งหลายเรื่องแล้วยังจะไปเอาอะไรกับเค้าอีก สุดท้ายก็คิดว่าทุกอย่างยุติธรรมเสมอ เพราะเราเคยทำเช่นนั้นมามากกว่านั้น ก่อนจะมาเจอแพทย์วิถีธรรมก็ไปเชียร์ให้คนหลงมัวเมาตั้งหลายเรื่อง ทั้งเรื่องแต่งตัว เรื่องเที่ยว เรื่องกินเรื่องเสพสิ่งต่าง ๆ แค่นี้ก็ถือว่าเราได้ชดใช้วิบากผ่านเหตุการณ์นี้ และตั้งจิตว่าชาติใดภพใด ก็จะพยายามพากเพียรไม่ไปเชียร์หรือสนับสนุนให้ใครหลงมัวเมาหรือเสพกิเลส และยอมรับได้ว่าทุกคนมีที่อาศัยของตัวเอง วันนึงถ้าเขาทุกข์จนถึงที่สุด หรือเค้ามีปัญญาครบพร้อมทั้งกุศลและอกุศลของเรา ± กันแล้ว หรือมีเหตุปัจจัย ก็ค่อยทำความเข้าใจกับเขาใหม่ ตอนนี้ก็ดีมากแล้วที่เขาแค่ส่งข้อมูลในห้องครอบครัว ในเพจที่เราช่วยเขาในการค้าแบบออนไลน์เค้าก็ไม่ได้เอาสินค้าตัวนี้ไปใส่ ก็คิดว่าอย่างน้อยเค้าก็ยังสัมมาทิฏฐิมากกว่าในครั้งก่อน ๆ ยอมรับความจริงข้อนี้ได้ก็สบายใจ ได้แค่นี้ก็ดีนักหนาแล้ว จะเอาอะไรอีกอย่างน้อยเราก็ได้ให้ข้อมูลที่ครบทุกด้านในความคิดของเรา แล้วที่เหลือก็เป็นเรื่องของเขาทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ วางใจได้


2.เรื่อง ฉันเป็นคนแข็งแรงที่สุด

สนทยา กันทะมูล (มั่นศีลขวัญ)

ต้องเป็นเราที่จะเป็นคนดูแลทุกคนในบ้าน
เราต้องเป็นคนดูแลเขา ไม่ใช่ให้เขามาดูแลเรา เพราะเรานี่แหละ ที่เป็นคนที่แข็งแรงที่สุด เข้มแข็ง ฉลาด เก่งที่สุด
ปัญหาทุกอย่างในบ้านต้องเป็นเรา ที่เป็นคนแก้ปัญหา เราไม่ใช่ตัวสร้างปัญหา เราไม่ใช่คนอ่อนแอ
เป็นความคิดที่. ยึดมั่นถือมั่น มาก ๆ
ในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เกิด อุบัติเหตุ กับเรา เหยียบ แผ่นกระดานบันได ที่ยังไม่ได้ยึด สกรู ตกลงมาในระดับความสูงเกือบ 2 เมตรเป็นผลทำให้ ไม่สามารถขยับตัวได้ 2 วันเต็ม ๆ ต้องขับถ่ายและอาบน้ำ ด้วยการช่วยเหลือจากพ่อบ้าน
@ทุกข์ทางใจ.
ขุ่นเคืองที่ต้องถูกคนอื่นดูแล
@ เหตุแห่งทุกข์.
ชอบที่จะเป็นคนช่วยเหลือคนอื่น
ชังที่จะเป็นคนถูกคนอื่นช่วยเหลือ
กลัวที่จะต้องไปตอบแทนเขา
กลัวที่จะเป็นหนี้บุญคุณเขา
@สภาพดับทุกข์
สิ่งที่เราได้รับคือสิ่งที่เราทำมา น้อมรับสิ่งที่เราทำมาอย่างเบิกบาน
@ เส้นทางดับทุกข์
เมื่อเราได้เคยช่วยเหลือใครมา เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือเราก็สมควรได้รับความช่วยเหลือนั้นเป็นการให้โอกาสเขาได้ชดใช้ ให้โอกาสเราได้ชดใช้ด้วยเช่นกัน
ความยึดมั่นถือมั่น
ทำให้ใจเป็นทุกข์
จะมีวิบากร้ายมาทำลาย
ทำให้ไม่สำเร็จหรือสำเร็จช้าหรือสำเร็จเร็ว
แต่มีเรื่องร้าย เป็นบาป
มีวิบากร้ายเจือผลไม่สมบูรณ์
จะสำเร็จความผาสุกทางจิตวิญญาณ
ที่ยอดเยี่ยมยั่งยืนช้าที่สุด
ทำให้เกิดการบาดเจ็บปวดร้าว
ทางจิตวิญญาณได้มากที่สุด
และเป็นพลังที่ทำให้ตนหรือผู้อื่น ทำชั่วได้ทุกเรื่อง
ไม่ยึดมั่นถือมั่น
จะทำให้ใจเป็นสุข จะมีวิบากดีมาช่วย
ทำให้สำเร็จได้เร็ว เป็นบุญที่เต็มที่สุด
ไม่มีวิบากร้ายเจือ จะสำเร็จเร็วที่สุดสมบูรณ์ที่สุด
ไม่เกิดการบาดเจ็บ ปวดร้าวทางจิตวิญญาณ
และเป็นพลังที่ทำให้ตนหรือผู้อื่น
ทำสิ่งดีได้ทุกเรื่อง เมื่อถึงเวลาอันควร
เป็นบุญกุศลสูงสุด


3.เรื่อง อยากหายตาแห้ง

ภูเพียรธรรม กล้าจน

เหตุการณ์ – ช่วงนี้ ตื่นเช้ามา มักจะมีอาการตาแห้ง ปวดเบ้าตา มีขี้ตาแห้งบ้าง ปกติหยอดน้ำปัสสาวะทุกเช้าหลังตื่นนอน แต่ช่วงนี้ เมื่อหยอดตาด้วยน้ำปัสสาวะ ยิ่งจะรู้สึกว่าปวดเบ้าตามากขึ้น บางวันก็ปวดข้อมือซ้ายร่วมมือด้วย ข้อมืออ่อนแรง เมื่อรู้สึกว่ามีพิษร้อนสะสมมากแล้ว จากการทำงานหน้าคอมนานๆ ด้วย พอไปถอนพิษ อาบน้ำ ดีท็อกซ์ กัวซาตรงข้อมือด้วยน้ำปัสสาวะ ที่รู้สึกอ่อนแรง จุดปอดตรงข้อมือซ้าย ก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า พอร่างกายไม่สบาย มีอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็จะรู้สึกไม่ชอบใจ/ชังสภาพแบบนี้ ทันที ชอบสภาพที่รู้สึกว่า เราสบายดีแข็งแรง ๆ ไม่ได้เป็นอะไร เราคิดว่า เราทำสมดุลร้อนเย็นด้านอาหารได้ดี แต่ทำไมยังไม่สบายอยู่

ทุกข์ – ใจไม่สดชื่น ไม่แช่มชื่น ไม่เบิกบาน มีความวิตก กลัวกังวล และสับสนในบางครั้ง

สมุทัย – มีความใจร้อน ไม่ชอบใจที่ไม่ได้ดั่งใจหมาย ชอบอาการไม่ปวดเบ้าตา ชังที่มีอาการเจ็บเบ้าตาและปวดข้อมือ

นิโรธ – เบ้าตาจะปวดหรือไม่ปวด และข้อมือจะอ่อนแรงหรือไม่อ่อนแรง ก็สุขใจได้

มรรค – สิ่งที่เราได้รับคือสิ่งที่เราทำมา ไม่มีสิ่งใดที่เราได้รับโดยที่เราไม่ทำมา รับเต็มๆ หมดเต็มๆ รับแล้วก็หมดไป เราก็จะโชคดีขึ้น ถ้ายังไม่ยอมรับความจริง ไม่ทำดีใหม่ ด้วยความยินดี คิดแต่จะอยากได้สภาพดีเหมือนเดิม หายเร็วๆ โดยไม่ทำความดีใหม่ วิบากร้ายก็จะยิ่งเพิ่ม ความปวดก็จะยิ่งไม่หมดไป ความชังก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ทุกข์ก็จะยิ่งสะสมเพิ่มขึ้น แต่เมื่อยอมรับวิบากและทำความเข้าใจเรื่องกรรมให้แจ่มแจ้ง ว่าไม่มีใครทำร้ายเราได้ นอกจากตัวเราเอง เราทำมาทั้งหมด รับเต็มๆ หมดเต็มๆ รับแล้วหมดไป เราก็จะโชคดีขึ้น ให้รับด้วยความยินดี ยินดีรับวิบากร้ายด้วยความยินดี และตั้งจิตสำนึกผิด ยอมรับผิด ขอโทษ ขออโหสิกรรม ตั้งจิตที่จะทำความดีใหม่ หมั่นระลึกเอาประโยชน์ให้ได้ในทุกสถานการณ์ด้วยความยินดี ตั้งจิตพากเพียรทำสมดุลร้อนเย็นให้ดีขึ้น ยิ่งขึ้น ๆ ความปวดเบ้าตา ข้อมืออ่อนแรง ความไม่สบายทางกายทั้งหลาย จะดีหรือไม่ดีก็ได้ ให้ตรวจใจเราเสมอๆ ให้ยินดีรับด้วยความยินดี พอใจ เต็มใจ ในสิ่งที่เราได้รับที่ไม่ชอบใจ ไม่สุขใจ ให้ได้ เบิกบาน แจ่มใส ดีกว่า

เพราะความชอบให้ทุกอย่างเป็นไปให้ได้ดั่งใจหมาย ทั้งร่างกายและกิจกรรมการงาน แต่ผลไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เมื่อก่อนไม่เคยปวดเบ้าตาปวดข้อมือ ด้วยว่า เราก็กินอาหารสุขภาพ รสดีอยู่นะ แต่ทำไมยังปวดตรงนั้นตรงนี้ได้ มันไม่ชอบใจ มันก็ได้ว่า การกินเกินสมดุลร้อนเย็นนิดเดียว ก็ทำให้ไม่สบายได้ แม้จะกินธรรมชาติมากๆ แล้วก็ตาม แต่ความเอาเกิน กินผลไม้เกิน ความหวานเป็นเหตุจากผลไม้เกิน ซึ่งเขาก็มาเตือนให้เห็น วันนี้ (180964) ก็มาเตือน พอความหวานจากผลไม้เกิน กินแก้วมังกรแดง ริมฝีปากก็บวมนิด ๆ เลย เขาให้วาง ทั้งใจและกาย พักการกินผลไม้ไว้ เปลี่ยนไปกินข้าวกับผักลวก ผัดผักก่อน ความบวมที่ริมฝีปากลดลง ค่อยกลับมาทดลองกินข้าวกับผลไม้ใหม่ ไม่กินผลไม้เพรียว ๆ ก็ดีขึ้นเล็กน้อย

เหตุการณ์ครั้งนี้ รู้แต่ว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้น เราหาสาเหตุได้ไม่ชัดเจน คิดแล้วก็สับสน ด้วยมีหลายเรื่อง ก็พยายามยินดีให้ได้ เอาประโยชน์ให้ได้ทุกสถานการณ์ ยินดีให้ได้ทุกเรื่อง แม้จะไม่สบายตา มีความไม่ปกติ ปวดตา ก็เพราะเราทำมา เราผิดศีล ไปทำไม่ดีมาหาที่ต้นที่สุดไม่ได้ มีความชังหลายๆ เรื่อง ไม่ล้างความชังนี้เอง เหตุการณ์ร่างกายวัตถุนั้น มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นทุกข์ ทุกข์ ๆ ๆ มันก็มีแต่ทุกข์ ๆ เท่านั้น ให้เข้าใจให้ได้ว่า จิตเรามันวิปลาส จิตเรามีความยึดมั่นถือมั่น ยึดว่าร่างกายนั้นเที่ยง ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา ยึดว่าตาเรานั้นจะไม่ปวด จะสบายดี จริงๆ นั้นดีแล้ว ที่ตาปวด เขามาเตือนแล้ว ว่าเราผิดศีลมากแล้ว เราควรจะให้เวลาในการถอนพิษกาย ยินดีที่จะดูแลร่างกายให้ดีขึ้น แต่เขาจะดีหรือไม่ดีดั่งใจหมายก็ได้ ให้เรายินดีว่าเราได้ทำดีหรือยัง ถ้าเราทำดีเต็มที่แล้ว เราก็ไม่ต้องกลัวกังวลเลย ว่าเขาจะเป็นอะไรก็ได้ ยินดี ให้ได้ทุกสถานการณ์ ให้ทำความดีใหม่ ให้เข้าใจว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยง แม้แต่ร่างกายของเรา เขามีความเสื่อมเป็นธรรมดา รับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความยินดี เข้าใจได้ว่า ที่ตาและข้อมือไม่สบาย เพราะการบริโภคอย่างไม่มีประมาณ ชอบ จึงเสพปริมาณเกิน แม้จะคิดว่าเรากินอาหารจืดดี แต่จริงๆ เราก็ยังเสพของทอด แม้ของนั้นจะบริสุทธิ์เพียงใดก็ตาม อย่างข้าวตังทำเอง ติดของสุขภาพดี ว่าพี่น้องทำกันเอง พอกิน มันมีความเค็มนิดๆ ชอบความเค็ม ถ้าให้กินข้าวเหนียวนึ่งจะไม่ชอบ แต่พอกินเป็นข้าวตัง ชอบ มันชอบความกรอบ ติดเคี้ยว จึงทำให้ฟันสึกด้วยนี้เอง ก็พยายามจะลดการเคี้ยวลง หรือเคี้ยวของที่นิ่ม ไม่แข็งมาก เคี้ยวให้ช้าลง กินให้ช้าลง ด้วยประมาท จึงไม่ประมาณ จึงเกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจตามมา

ดังนั้น เมื่อชัดแล้ว ตั้งจิตใหม่ ทำดีให้มาก ๆ ลดความกลัววิตกกังวล กับอาการไม่สบายต่าง ๆ ตามร่างกาย ตามรักษาใจเราให้ไร้ทุกข์ ให้ดีงาม ทำดีด้วยความยินดีดีกว่า ไม่หลงว่า ยินดีแล้วตาจะหายปวด ให้ยินดีเต็มที่ ตาจะปวดก็ได้ ไม่ปวดก็ได้ เรายินดีได้ตลอด เขาจะหายตอนไหนก็ได้ จะหายก็ได้ ไม่หายก็ได้ เรามีความยินดี ได้หมด จะพากเพียรทำไปเรื่อยๆ ด้วยความยินดี


4.เรื่อง : การประมาณการ

จงกช สุทธิโอสถ (ป้าย่านาง)

ทุกข์ : การจัดระเบียบสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันของชีวิต

สมุทัย : ต้องตัดสินใจเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระหว่างสิ่งที่ต้องทำในขณะเดียวกัน

นิโรธ : จะได้ทำสิ่งที่ตัดสิน ณ ขณะนั้นว่าจะทำก็ได้ ไม่ได้ทำ แต่ต้องไปทำอย่างอื่นก็ได้

มรรค : ทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์ และเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่แล้ว ณ เวลานั้น ถ้ายังมีเหตุปัจจัยให้ไม่ได้ทำ ก็เลื่อนไปทำตอนที่พร้อมหรือสะดวกก็ได้ การมีเวลาเตรียมตัว ทำอย่างมีสติ ไม่พะวักพะวง น่าจะทำให้งานทำได้ง่ายกว่า มือทำไป ใจไม่เร่ง งานก็จะออกมาได้พอเหมาะ พลังงานก็ไม่ต้องเสียไปเยอะ เก็บไว้ทำงานอื่นต่อได้อีกค่ะ


5.เรื่อง ชังการฉีดวัคซีน

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์

กลับไปบ้านกรุงเทพฯ เมื่อหลายเดือนก่อน ที่บ้านรบเร้าให้ไปสมัครฉีดวัคซีนอยู่หลายครั้ง จนหลังจากนั้นก็ยอมไปสมัคร แล้วกลับมารอคิวอยู่ที่บ้านสวนต่างจังหวัด พอถึงวันใกล้ฉีดรู้สึกว่ามีความไม่แช่มชื่นอยู่ในใจ เพราะได้ข่าวว่ามีคนแพ้เยอะ และคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องทนทุกข์ถ้าเราเกิดอาการแพ้ขึ้นมา

ทุกข์ : ความไม่แช่มชื่น กังวล ชิงชัง ในความเจ็บป่วยที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้น
สมุทัย : ความชังที่ต้องเสี่ยงต่อการป่วย รู้สึกว่าถ้าป่วยจะเสียเวลาทำงานอื่น ๆ
นิโรธ : จะป่วย จะเพลียกี่วัน ก็ยินดีเต็มใจเรียนรู้การพัก เต็มใจรู้จักความเจ็บป่วย ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต

มรรค : เมื่อจับอาการไม่แช่มชื่นได้ จึงค้นไปในใจว่ากังวลอะไร ถึงไม่อยากป่วย เพราะปีก่อนเคยป่วย แล้วทำได้แต่นอนพักเป็นหลักอยู่เกือบสัปดาห์ ทำงานเบา ๆ อีกหนึ่งสัปดาห์ รู้สึกว่าเสียการเสียงานไปหมด

ความป่วยแบบที่เกิดขึ้นเองนี่ก็พอยอมรับได้ แต่ไปฉีดวัคซีนนี่มันไปหาทางป่วยเอาเอง แต่จะว่ารนหาที่ก็ไม่ใช่ เพราะทางบ้านเขาก็อยากให้เราฉีด เราฉีดเขาก็สบายใจ มันก็ช่วยคลายกังวลเขาได้บ้าง ส่วนถ้าเราจะฉีดมาแล้วป่วยมันก็ต้องยอมรับวิบาก ถึงเวลาต้องป่วยต้องพัก มันก็ต้องพัก ถึงจะไม่อยากให้พัก วิบากกรรมเข้าจะให้พักให้นอนเฉย ๆ ก็ต้องนอน

พอจับอาการยึดดีได้ ก็ได้ล้างความยึดดีในการงานนั้น ๆ ไปตามลำดับ เห็นประโยชน์ของความป่วย เช่น ได้ใช้วิบากบาปที่ทำมา ได้เข้าใจคนที่เขาป่วย ได้ตรวจความยึดในการงาน ซึ่งมันก็มีประโยชน์อยู่ ส่วนไม่ป่วยก็เป็นประโยชน์อยู่แล้ว

ถึงวันไปฉีดวัคซีนก็ไม่ได้กังวลอะไร รับรู้ตามความเป็นจริงว่าถูกฉีด ดูอาการ กลับบ้าน วางใจใช้ชีวิตตามปกติ สรุปว่าอ่อนเพลียเล็กน้อย ก็เลยพักเพิ่มอีกหนึ่งวัน แล้วค่อยเดินทางกลับบ้านสวนต่างจังหวัด

กลับมาถึงพายุเข้าฝนตกติดต่อกันหลายสัปดาห์ งานถากถางก็ไม่ได้ทำ กลายเป็นงานหน้าจอ จึงสรุปได้ว่า แม้จะไม่เจ็บป่วยจนทำงานที่อยากทำไม่ได้ แต่เมื่อวิบากเขาไม่ให้ทำงานที่อยากทำ เขาก็จะสร้างเหตุปัจจัยให้มันทำไม่ได้อยู่ดี


6.เรื่อง ผัดไทย

พรเพียรพุทธ โพธิ์กลาง​

เนื้อเรื่อง​ ผัดไทยออกจากกะทะร้อน​ ๆ​ กิเลสบอกน่ากินมาก​ เดิมเป็นคนชอบกินผัดไทยมาก​ กิเลสบอกเธอต้องตัก​ 2​ รอบนะถึงจะอิ่ม​ เราก็เชื่อกิเลส​ กิเลสบอกกินเร็ว​ ๆ เดี๋ยวหมดก่อน​ เราก็ยอมทำตามกิเลส​ เคี้ยวเร็วเคี้ยวไม่ละเอียดเพราะปวดฟันเหงือกบวมแต่ก็ทำตามที่กิเลสบอก​ พอกินหมดรีบไปตักรอบที่​ 2​ ปรากฏว่าเหลือนิดเดียว​ และมีน้องมาทีหลังยังไม่ได้​ คราวนี้พุทธได้โอกาสเสียสละให้น้องคนนั้น​ ทั้ง​ ๆ​ที่กิเลสยังเสียดายอยู่​ แต่ตอนนี้พลังพุทธมากกว่ากิเลส​ กิเลสก็จ๋อยไปเลย
ทุกข์​ กลัวผัดไทยจะหมด
สมุทัยเหตุแห่งทุกข์​ ยึดว่าถ้าได้กินผัดไทยจนอิ่มจะสุขใจชอบใจ​ แต่ถ้ากินผัดไทยไม่อิ่มก็ทุกข์ใจไม่ชอบใจ
นิโรธ​ กินผัดไทยอิ่มหรือไม่อิ่มเราก็สุขใจได้ตลอดกาล
มรรค​ พิจารณาไตรลักษณ์​ ความอยากมันไม่เที่ยง​ มันเป็นทุกข์​ มันไม่มีตัวตน​ มันเกิดขึ้นได้มันก็ดับได้​ มันเป็นเพียงอุปาทานที่เราเคยยึดไว้มันไม่ใช่สุขมันเป็นทุกข์​ ทุกข์ตั้งแต่กลัวจะไม่ได้มา​ ได้มาก็กลัวจะหมดไป​ ความอยากไม่มีวันหมดสิ้น​ ใจเราต่างหากที่จะกล้าตัดความอยากให้มันหมดไปจากใจเรา​ กล้าที่จะไม่ได้ดั่งใจ​ กล้าที่จะเสียสละ​ สละ​ สละไปไม่พัวพัน​ อยู่เหนือความอยากให้ได้นี่คือสิ่งที่ควรได้ควรมี​ และมีคุณค่าที่สุดในโลกค่ะ​ เราจะไม่เป็นทาสของความอยากอีกต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *