วิชา อริยสัจ 4 “รวมพลัง ภาคกลางสู้กิเลส” ครั้งที่ 10 l ห้องเรียนวิชชาราม

ห้องเรียนวิชชาราม ตรวจการบ้าน วิชา อริยสัจ 4 “รวมพลัง ภาคกลางสู้กิเลส” ครั้งที่ 10 ในวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. – 21.00 น.

ตรวจการบ้าน อริยสัจ 4

1.เรื่อง กังวลใจทำอาหารให้บุคลากรทางการแพทย์ 

ภคมน ถิระธรรมภณ (พิมพ์น้ำคำ)

เนื้อเรื่อง : ทำอาหารหม้อใหญ่ ปรุงอาหารโลก ๆ ให้คนอื่นกิน ไม่มีความรู้เรื่องการทำอาหาร เวลาปรุงรสอาหารให้ถูกใจคนกิน ทุกข์ จะปรุงแบบไหนให้เขากินได้ ส่วนใหญ่เป็นแกงกะทิ + พริกแกง ซีอิ้ว น้ำตาล รสชาติอาหารให้บุคลากรการแพทย์ได้ทาน (มังสวิรัติ) ให้เพื่อนช่วยชิม

ทุกข์ : มีอาการ ลังเล กังวลใจ กล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าปรุงอาหารไม่รู้จะปรุงยังไง

สมุทัย : มีตัวอยากจะให้อาหารออกมารสชาติดีตามคนทั่วไปกินกัน ชอบถ้าอาหารจะออกมารสชาติ ชังถ้าอาหารออกมารสชาติไม่ดี

นิโรธ : ทำอาหารไปแล้ว เขาจะกินได้หรือไม่ก็วางใจ

มรรค : พิจารณาว่าเราทำเต็มที่แล้ว จะออกมายังไง ก็ไม่ทุกข์ใจ เอาใจไปผูกกับอะไรที่ไม่เที่ยงคือ รสชาติหรือความชอบใจของคนกิน เฮ้ย นี่มันโง่นี่หว่า … 555


2. เรื่อง ไม่อยากเก็บเศษแก้วที่พ่อบ้านทำแตก

จิตรา พรหมโคตร (มั่นแก่นพุทธ)

เนื้อเรื่อง : ขณะกำลังฟังคุรุสรุปการจัดค่ายออนไลด์ใกล้จะจบ ก็ได้ยินเสียงแก้วแตกและเสียงพ่อบ้านพูด รู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้ลุกไปดู เพราะเสียงพ่อบ้านเงียบหายไป ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือท่านจะมาเรียกเอง เมื่อจบรายการก็ลงมาเห็นพ่อบ้านกำลังกินข้าวเป็นปรกติ เราก็เดินไปหน้าบ้านเพื่อไปเก็บกวาดสิ่งที่พ่อบ้านทำไว้ ระหว่างนั้นเท้าไปเหยียบก้อนนูน แข็งๆแล้วก้มดูพบว่ามันเป็น รู้สึกโกรธ

ทุกข์: อาการโกรธในใจ โมโห หงุดหงิด

สมุทัย: ชอบ  ถ้าพ่อบ้านทำแก้วแตกแล้วเก็บเอง ชังที่เราต้องมาเก็บให้

นิโรธ: ใจไม่ทุกข์ ถ้าเราต้องมาเก็บงานต่อจากพ่อบ้าน

มรรค : ระลึกวิบากกรรม อดีตว่าทำอะไรแล้วไม่เก็บงานให้เสร็จเรียบร้อย ต้องให้ผู้อื่นมาเก็บตาม เมื่อคิดได้ก็พิจารณาวิบากกรรมปัจจุบันว่า ที่เรามาเจอพ่อบ้านที่ชอบทำแต่ไม่ชอบเก็บ ก็คือตัวเราเองเคยทำมา ต้องขอบคุณเขา เพราะทำให้เราได้บำเพ็ญชดใช้วิบากกรรมทุกครั้ง และได้ลดอัตตาตัวตนของเรา ยอมเป็นผู้รับใช้พ่อบ้านตามที่ได้ตั้งศีลไว้ว่า”จะยอมทำตามพ่อบ้านทุกเรื่องที่ไม่ผิดต่อศีล” ซึ่งก็ทำไม่ได้ง่าย แต่จะพากเพียรปฏิบัติต่อไป สรุป การล้างกิเลสเรื่องไม่อยากมาเก็บกวาดเศษแก้วที่พ่อบ้านทำแตกไว้ จาก 100% ทำได้


3. เรื่อง กังวลอุ้งมือเจ็บเรื้อรัง

นงนุช พาสนาโสภณ (เย็นผ่องพุทธ)

เนื้อเรื่อง : มีอาการเจ็บที่อุ้งมือทั้งสองข้างมาประมาณ 6 ปีแล้ว จากการดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง เจ็บแต่ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ จนเมื่อประมาณ 9 เดือนที่แล้วที่เริ่มมีอาการปวดมากขึ้นตามลักษณะของมือที่ทำงานนั้น ๆ สลับกับดีขึ้นเป็นระยะ ๆ ได้เห็นจิตของตัวเองว่า มีความกังวลเล็กน้อยจากที่เจ็บมือ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้คล่องตัวเหมือนก่อน

ทุกข์ : จิตที่กังวลเรื่องอุ้งมือที่เจ็บเรื้อรัง เป็นความกังวลเล็กน้อยที่จับได้ เพราะจิตที่มีความอยากหายเจ็บ

สมุทัย : จับอาการในจิตได้ว่ามีความอยาก ความยึด หากหายเจ็บจะสุขใจ ถ้ายังเจ็บอยู่จะทุกข์ใจ

นิโรธ : ได้สภาพจิตที่หายเจ็บหรือยังเจ็บอยู่ก็ไม่ทุกข์ใจ โดยตั้งจิตใหม่ทำให้ถึงจิต จะเจ็บหรือหายเจ็บก็ไม่ทุกข์ใจ พุทธะต้องไม่โง่ ไม่ทุกข์ใจ

มรรค : จิตที่มีความอยาก ความยึด ให้มืออยู่ในสภาพดี ๆ ไม่เจ็บ ทำให้กังวลใจ ทุกข์ใจ

แต่จิตที่ไม่มีความอยาก ความยึด ว่ามือจะต้องอยู่ในสภาพดี ๆ ไม่เจ็บ ก็จะไม่ทุกข์ใจ จิตก็ปลอดโปร่ง

โล่งสบาย จิตที่พร้อม ยินดี รับทั้งดีและร้ายด้วยใจที่เป็นสุข ก็สุขใจได้ แล้วจะโง่ให้ใจเป็นทุกข์ทำไม

เราเบียดเบียนตัวเอง ประมาณการรู้เพียรรู้พัก การดูแลตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งเกิดจากการกระทำของเราเองทั้งนั้น ต่อไปเราก็จะประมาณในการรู้เพียรรู้พัก การใช้มือ การตัดรอบให้ดีขึ้น

เมื่อได้ทำเต็มที่แล้วอาการเจ็บมือจะหายหรือไม่หายก็ได้ จะหายเร็วหรือหายช้าก็ได้ หายตอนเป็นก็ได้ หายตอนตายก็ได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *