นักศึกษาชวนกันทำการบ้าน วิชา อริยสัจ 4 – วิชา ภาษาอังกฤษ

รายการนักศึกษาชวนกันทำการบ้าน
วิชา อริยสัจ 4 – วิชา ภาษาอังกฤษ
วันที่ 28 เมษายน 2564

ในช่วงแรกเป็นช่วงของวิชาอริยสัจ 4

มีพี่น้องนักศึกษาได้นำการบ้านเข้าร่วมบำเพ็ญ ด้วยความเบิกบานและพี่น้องท่านอื่นๆก็ร่วมกันสังเคราะห์ตามภูมิด้วยความเมตตา ปรารถนาดี มี 4 ท่านคือ

1. คุณจิตรา พรหมโคตร เรื่อง ไม่อยากไปงานศพ ท่านเล่าว่าไม่อยากไปงานศพแต่ต้องไปเพราะ พ่อบ้านบังคับ แต่ท่านก็ได้พิจารณาจับจากความไม่ชอบใจพ่อบ้านได้ กลับลำกิเลสเป็นไปงานศพ อย่างเบิกบาน โดยพิจารณาประโยชน์ที่ได้จากเหตุการนี้ ท่านบอกว่าการไปงานศพก็ดีได้เชื่อมร้อยจิตวิญญาณของญาติ เป็นกำลังใจให้กันและกัน เพราะเราเองก็ยังต้องอยู่กับโลกและสังคม และท่านก็พิจารณาว่าไหนๆก็ต้องทำแล้วก็ต้องทำด้วยใจที่เบิกบานดีกว่า เพราะเขาใจเรื่องกรรมอย่างแจ่มแจ้งว่าที่เราโดนบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำก็เพราเราเคยทำเคยส่งเสริมมา สมัยเป็นครูท่านก็บังคับนักเรียนตลอด ท่านว่าที่ท่านได้รับก็สมควรแล้ว
2. น้าหมู เรื่อง ไม่อยากร้องเพลง ภาษาอังกฤษ ท่านเล่าว่าปกติแม้แต่เพลงไทยก็ไม่ค่อยร้องอยู่แล้ว คราวนี้ต้องมาร้องเพลงภาษาอังกฤษเลยทุกข์ แต่ท่านก็ได้พิจารณาว่าควรยินดีพอใจและทำเท่าที่ได้และยอมรับผลจะออกมาอย่างไรก็ยินรับได้ด้วยใจเป็นสุขค่ะ
3. คุณ จิราภรณ์ ทองคู่ เรื่อง กลัวร้องเพลงภาษาอังกฤษแล้วออกเสียงผิด ท่านเล่าว่าท่านมีความกลัวกังวลว่า เวลาร้องเพลงภาษาอังกฤษ แล้วออกเสียงไม่ถูกต้อง คือท่านยึดว่าต้องถูกต้องดีจึงจะสุขใจชอบใจเลยทำให้ท่านทุกข์ แต่ท่านก็ได้พิจารณาว่า ร้องเพลงผิดบ้างก็ได้จะไม่ทุกข์ใจ เมื่อเราตั้งใจทำเต็มที่แล้วได้เท่าไหร่ก็ยินดีเท่านั้นค่ะ
4. คุณพวงผกา โพธิ์กลาง เรื่อง ใจไม่ยินดีรับความปรารถนาดีจากเพื่อน ท่านเล่าว่า ไม่ชอบใจเมื่อมีคนมาเเสนอให้ เพราะใจยังไม่พร้อมรับ สำหรับท่านนี้พี่น้องหลายท่านได้ช่วยกันสังเคราะห์กันไปตามภูมิที่มี จึงมาพบว่า ทุกข์ของท่านคือท่านคืดว่าวิธีการของท่านดีจึงไม่พร้อมที่จะวางดีแบบของท่าน แล้วทำตามที่เพื่อนแนะนำ ท่านบอกว่าตัวกิเลสตัวนี้ของท่านค่อนข้างใหญ่ ท่านก็จะพากเพียรล้างต่อไป

ในช่วงการบ้าน วิชาภาษาอังกฤษ

เป็นช่วงที่สนุกสนาน นักศึกษาปล่อยความเป็นตัวตนอย่างเต็มที่ วันนี้คุณ น้อมพรฟ้า ได้เข้ามาร่วมร้องเพลงภาษาอังกฤษกับเหล่าพี่น้องนักศึกษาด้วย และท่าน ได้ให้สัมมาทิฏฐิกับพี่น้องนักศึกษาบางท่านที่อาจจะกังวลกลัวผิดศีล ว่าการปฏิบัติให้ถูกกาล คือกาลนี้ เวลานี้เราเรียนภาษาอังกฤษจากการร้องเพลง เราก็ทำด้วยความเบิกบานยินดี นี่ก็เป็นการปฏิบัติธรรมเหมือนกันค่ะ

คุรุแพรลายไม้ ได้ให้ ความเห็นกับเราว่าทำด้วยใจเป็นสุข ไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำได้ดีหรือไม่ ขอให้ทำความเบิกบานแบบนี้คุรุก็ให้ผ่านแล้ว

คุณ จิ๋วท่านก็ได้แชร์ประสบการณ์ว่าท่านเองก็เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการร้องเพลงเหมือนกัน และจากเพลงเราก็ได้เรียนรู้สัจธรรมความเป็นไปในสังคมโลก ๆ ด้วยว่าเต็มไปด้วยความทุกข์

คุณเอใจพอ ก็ได้ใช้การร้องเพลงภาษาอังกฤษนี่แหละที่ตนเองเคยชอบเป็นการเช็ควิมุตของตัวเองด้วยบรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริง จนต้องปิดห้องเรียนค่ะ

อนุโมทนาสาธุกับพี่น้องทุกท่านค่ะ

อรวิภา กริฟฟิธส์ (รายงาน)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

1 thought on “นักศึกษาชวนกันทำการบ้าน วิชา อริยสัจ 4 – วิชา ภาษาอังกฤษ”

  1. พวงบุปผา หนูรัก

    พวงบุปผา หนูรัก (ผักบุ้ง – สู่แดนฝัน)
    วันที่ 2 พฤษภาคม 2564
    ทุกข์ใจ เพราะมีอาการคล้ายป่วยโดวิด
    เนื่องจากช่วงนี้กระแสการระบาดของโรคโควิด -19 ค่อนข้างรุนแรงกว่าที่เคยเป็นมา ตัวเองก็มีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่ไม่มาก เช่น ต้องพบลูกค้าบ้าง แต่ได้ถามทามไลน์กันเรียบร้อยแล้วปลอดภัยดี หรือเดินทางไปทำงานโดยรถสาธารณะบ้าง ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที และเป็นรถร้อน คนก็น้อย อันที่จริงก็แทบจะไม่เสียงเลย แต่มีอาการบางอย่างเกิดขึ้นช่วงนี้ เช่น มีอยู่คืนหนึ่งนอนหลับไปได้สักพักแล้วแต่อยู่ ๆ ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะหายใจลำบากแน่นหน้าอก ในใจก็คิดว่าใช่อาการโควิด หรือปล่าว ว่าแล้วก็ ลุกขึ้นไปดื่มน้ำปัสสาวะเลย อาการก็ดีขึ้นแล้วก็นอนหลับต่อถึงเช้า ตื่นมาก็ปกติดี แล้วอีกวันอยู่ที่ทำงาน คนก็น้อยเพราะสลับกันทำงานที่บ้าน และแอร์ต่อนข้างเย็น ก็รู้สึกแน่นหน้าอกอีก และไม่ยอมหาย ในใจก็สงสัยว่าเป็นโควิดอีก แต่ไม่กล้าบอกใคร และกลับบ้านตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เพราะกลัวติดเพื่อนและจะกลับไปดื่มนำปัสสาวะ กลับถึงบ้านก็รีบดื่มเลย อาการป่วยก็หายไปอีก ทุกข์ใจก็ลดลง แต่ก็ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่เจอ และสังเกตตัวเองว่าเมื่อกลับถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดทำงาน เป็นชุดสบาย ๆ อาการก็ลดลงทันที และรูสึกว่าบริเวณลำตัวมีเนื้อหนาขึ้นเพราะไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ก็ยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิม ๆ เสื้อผ้าอาจจะคับเกินไปแล้ว ทำให้ห่ายใจลำบาก สาธุค่ะ
    ทุกช์กาย เพราะอาการแน่นหน้าอกและหายใจลำบาก ทุกข์ใจ อาการที่เป็นคล้ายอาการโควิดเลยกลัวเป็นโควิด
    สมุทัย ถ้าอาการที่เป็นนั้นเป็นอาการโควิด ถ้าเป็นจริง ๆ มันจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องเกี่ยวข้องกับคนที่สำนักงาน คนที่บ้าน และทามไลน์อื่น ๆ อีก มันก็จะยุ่งไปกันใหญ่ ก็เลยทำให้ทุกข์ใจ
    นิโรธ เมื่อรู้ว่าอาการที่เป็นนั้น ไม่ใช่เป็นอาการโควิด ความทุกข์ก็คลายลง
    มรรค อาการที่เป็นคือหายใจลำบาก คงเป็นเพราะ มีน้ำหนักเพิ่ม วิธีแก้คือต้องออกกำลังกาย เพราะเรื่องอาหารก็ทำได้ดีแล้ว และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ มีคำสั่งให้ทำงานที่บ้าน ก็แก้ปัญหาได้โดยการไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ไม่ต้องไปเจอกับเพื่อนที่ทำงาน ไม่ต้องขึ้นรถสาธารณะ ถ้าจะออกกำลังกายก็ต้องไปในที่ที่มีคนน้อย ๆ หรือไม่ก็โยคะที่บ้านตัวเอง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย บททบทวนธรรมข้อที่ 25 เมื่อเกิดทุกข์ใจ ทุกข์กาย เรื่องร้ายเข้ามาในชีวิต เขามาเพื่อให้เราได้ชดใช้ ให้เราไม่ประมาท ให้เราเพิ่มอริยศีล ให้เราได้สำนึก ให้เราได้หมดวิบาก สาธุค่ะ