วิชา อริยสัจ 4 “ภาคกลางสู้กิเลส” ครั้งที่ 1 l ห้องเรียนวิชชาราม

ห้องเรียนออนไลน์ ห้องเรียนวิชชาราม ตรวจการบ้าน วิชา อริยสัจ 4 “รวมพลัง ภาคกลางสู้กิเลส” ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 28 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. – 21.00 น.

ตรวจการบ้านวิชาอริยสัจ 4

1. เรื่อง : ทุกข์ใจจากปวดเข่า

สมศักดิ์ ทับเนียม (น้อย ทุ่งน้ำไท)

มีอาการปวดเข่าอย่างรุนแรง ปวดตามข้อต่อ ระลึกได้ว่าอดีตเป็นทหารอยู่กับเรือรบ ใช้ร่างกายหนัก ปวดเข่า

ทุกข์ : ทุกข์ใจจากอาการเจ็บป่วย ปวดเข่า มีวิตกกังวล มีจิตตก ฟุ้ง ต่อมาก็มีทุกข์อีกตัวตามมา รู้สึกว่าดูแลพ่อแม่ไม่เต็มที่

สมุทัย : อยากให้ร่างกายหาย ไม่ปวดเข่า อุปาทานยึดสภาพดี ๆ (อาการความอยากหาย คือตัณหา)

ชอบ ถ้าไม่ปวดเข่า ชังถ้าปวดเข่า ชอบอยากจะหาย

นิโรธ : แก้ที่ต้นเหตุ ทำที่ใจ ดับความอยาก ใจหมดความกังวล

มรรค : ทางกายก็ปรับสมดุล ใช้วิธีทั้งทางแพทย์แผนปัจจุบัน กินคอลลาเจน+งาดำ ร่วมกับยา9เม็ด ทำประมาณ 4-5 เดือน อาการเสียวน้อยลง ทำโยคะตอนเช้า เน้นที่ทางใจ เรียนรู้ ดูใจ แก้ที่ต้นเหตุ ยอมรับอดีตที่เคยใช้ร่างกายหนัก ยอมรับผล เวลาปรุง ฟุ้งก็เรียนรู้สัญญา อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น และเรียนรู้-พิจารณารูป-นาม-ขันธ์ 5 พิจารณาประโยชน์ของอาการเจ็บป่วย เร่ง ทำกุศลมากขึ้น เรียนรู้เวทนา ใช้บททบทวนธรรม+ เรื่องวิบากกรรม มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ + มีสุขในปัจจุบันถ้าเราตัดความอยาก


 2.เรื่อง : จะตัดหรือจะต่ออะไรดีกว่ากัน

ชุติวรรณ แสงสำลี (ไหม)

เนื้อเรื่อง ขณะทำงานเห็นหน่วยความจำภายในเครื่องคอมพิวเตอร์เหลือน้อยลง กลัวว่าความจำคอมพิวเตอร์จะเต็ม มีปัญหาในการเก็บข้อมูลไม่ได้ และเครื่องจะพังจึงตรวจสอบดูว่ามีข้อมูลอะไรกินพื้นที่มากก็เห็นว่ามีบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ใช้พื้นที่มากอยู่ จึงคิดตัดข้อมูลบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 บันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ออกจากคอมพิวเตอร์เพื่อจะให้ใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ

ทุกข์ :ไม่สบายใจต้องตัดบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ที่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้มีหน่วยความจำที่เก็บบันทึกข้อมูลเหลือน้อยลง

สมุทัย : เพราะชอบอยากให้ได้ดั่งใจหมายให้เก็บบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ไว้ในคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำที่เก็บข้อมูลเหลือมากคงอยู่ไว้ จะได้ใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายใจ
ชังไม่อยากตัดบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ถ้าไม่มีอยู่ หายไป จะไม่สบายใจ ไม่สุขใจ ทุกข์ใจ

นิโรธ : ชอบอยากให้ได้ดั่งใจหมายให้เก็บบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ไว้ในคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำที่เก็บข้อมูลเหลือน้อยอยู่ ใจก็ยินดีได้อย่างสบายใจ ยินดีได้ถ้าต้องตัดบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกออกครั้งที่ 1-19 ถ้าไม่มีอยู่ หายไปดับไป ก็สบายใจ สุขใจได้

มรรค : เมื่อได้รับฟังธรรมะบรรยายจากอาจารย์หมอเขียว ในขณะที่นั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์
เรื่องอินทริยภาวนาสูตร โดยย่อว่า อินทรีย์ของพุทธะ การไม่ชอบ ไม่ชัง ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่ดูด ไม่ผลัก ไม่รัก ไม่เกลียด ไม่ชอบ ไม่ชัง ได้ทุกผัสสะที่กระทบเข้ามา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทาง ทำใจ เป็นกลางให้ได้ทุกเหตุการณ์ เอาประโยชน์ได้ทุกเหตุการณ์ ทำแต่ดีที่ทำได้ และก็เอาประโยชน์ได้ทุกเหตุการณ์ เข้าสู่อุเบกขาตัดในสิ่งที่ควรตัด ในสิ่งที่เป็นโทษ ต่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเอาประโยชน์ได้ทุกเหตุการณ์

***หัวใจหลักมี 3 ข้อ ***
1.เข้าสู่ความเป็นกลางในทุกสิ่งทุกอย่าง
2.เอาประโยชน์ได้ทุกอย่าง
3.เข้าสู่ความเป็นกลางแล้ว จะตัดอะไรก็ตัดได้ เช่นตัดในสิ่งที่ควรตัด ต่อในสิ่งที่ควรต่อ หรือว่าเอาประโยชน์ได้ทุกเหตุการณ์ จะตัดสิ่งใดก็ได้ เห็นโทษสิ่งใดก็ได้ และจะต่อประโยชน์ได้ทุกเหตุการณ์ก็ได้

ดับด้วยวิราคะ คลายสุขลวง ลวงให้ยึด ลวงให้ทุกข์จริง ไม่มีสุขแล้ว ไม่ได้ดั่งใจหมาย สุขมันก็ดับ ทุกข์ก็ดับ เพราะเราไม่อยากได้ดั่งใจหมายแล้ว เหตุการณ์ปัจจุบัน : เวลาเห็นเครื่องหมายเตือนแถบสีแดง ที่หน่วยความจำบันทึกข้อมูลเครื่องคอมพิวเตอร์เหลือน้อยลงใจเป็นทุกข์ หวั่นไหวเล็กน้อย มีความกลัวว่าความจำคอมพิวเตอร์จะเต็ม มีปัญหาในการเก็บข้อมูลใหม่ไม่ได้ แต่เมื่อได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีบันทึกเสียงค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ใช้พื้นที่มากอยู่ จึงคิดตัดออกจากคอมพิวเตอร์เพื่อจะให้ใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ

กิเลส : บอกให้เก็บข้อมูลเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ไว้ก่อน ไม่อยากตัดออกไป ใจรู้สึกเสียดาย เก็บมา 4 ปีแล้ว กิเลสอยากยึดไว้ บอกว่าเป็นของมีค่า เก็บข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์จะอุ่นใจและ เป็นสิ่งที่หายาก จะตัดออกหลายครั้งแล้วแต่ทำใจตัดออกไม่ได้สักที มั่วแต่เสียเวลายึกยัก ๆ ยอมเสียเวลาลบโฟลเด้อร์อื่นๆออก ที่ละอันๆมันเสียเวลา มันช้า ได้พื้นที่กลับคืนมานิดหน่อย ได้แค่นี้ก็พอแล้ว ยังอยากยึดอาเก็บข้อมูลเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ไว้ต่อได้อีกกิเลสมันสุขใจ ที่ยังไม่ตัดออก มันมากี่ทีก็แพ้ทุกที เลยรู้สึกใจเราก็ยังไม่โล่ง ไม่โปร่ง

พุทธะ:ล้างกิเลสทีละตัวทีละคู่กิเลสตัวนี้คือมีเนื้อที่หน่วยความจำเพิ่มขึ้นทำงานได้ดีกว่ามีเนื้อที่หน่วยความจำน้อยลง อะไรดีกว่า พิจารณาถึงถ้ายังเก็บข้อมูลเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ไว้มันเปลืองเนื้อที่หน่วยความจำนะ มันเป็นโทษมากว่า ทำให้หน่วยความจำมีปัญหาเก็บงานอื่นๆ ไม่ค่อยได้แล้ว เราต้องเลือกเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ได้มากกว่าในการบำเพ็ญ มันมากี่ทีก็แพ้ทุกที เลยรู้สึกใจเราก็ยังไม่โล่ง ไม่โปร่ง แต่ในวันนี้เข้าใจธรรมะที่อาจารย์บรรยายแล้วสิ่งที่ควรทำคือ

ต้องเลือกว่าอะไรดีกว่าอะไร จะต่อกิเลสหรือตัดกิเลส ถ้าตัดเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ออกไป มันไม่ได้หายไปไหนหรอกมันอยู่ในถังขยะ แล้วค่อยกู้คืนบันทึกความจำมาไว้ที่อุปกรณ์เสริมอย่างอื่นก็ได้และปัจจุบันก็สามารถค้นหาได้ในยูทูป เราฟังธรรมะในปัจจุบันและนำมาปฏิบัติจริงได้มากกว่าทีละเล็กทีละน้อย จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการปฏิบัติธรรมแบบลืมตา ได้รับผัสสะตรงๆนั่นแหละ คือสาระธรรมที่ได้เห็นกิเลส ไม่เสพกิเลส ลดกิเลส ล้างกิเลสได้ หงายของที่คว่ำ ณ ปัจจุบันขณะนั่นเอง ทำให้ใจผ่องใส ใจไม่ทุกข์ ดีกว่าเก็บข้อมูลไว้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็เหมือผู้ปฏิบัติธรรมลูบๆคลำๆ แบบหลับตา หลงยึดมั่นถือมั่น แต่ก็ไม่ได้นำมาปฏิบัติและใจก็เป็นทุกข์อยู่ทุกครั้งที่เห็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยความจำบันทึกข้อมูลเหลือน้อยลง ทำให้เสียพื้นที่เก็บข้อมูลหน่วยความจำเปล่าๆ เห็นไหมๆ ข้อมูลมันถูกคว่ำไว้อยู่แบบนั้น ก็เป็นแค่วัตถุ ที่เราเก็บไว้มีประโยชน์น้อยนิดเท่านั้นเอง จึงเลือกที่ตัดบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ด้วยความสบายใจได้ทันที ยินดีที่จะตัดเพื่อต่อประโยชน์ที่ได้อาศัยมากกว่า ยินดีได้ล้างความยึดมั่นถือมั่นว่าสำคัญที่สะสมมานานเป็นวิบากร้าย เป็นตัวขัดขวางความผาสุกของชีวิตทุกชีวิตออกไปได้ ใจเราก็มีสุข ใจก็โปร่ง ก็โล่ง สบายๆ

สรุปพิจารณาตามคำกล่าวอาจารย์หมอเขียวปฏิบัติด้วยปัญญา
พิจารณาเห็นโทษของกิเลส ความไม่มีกลางไม่เป็นอุเบกขา มีอาการสุขปลอมทุกข์จริง ชอบชัง ว่าไม่ใช่สุขมันเป็นทุกข์จริง ยึดสิ่งที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ สะสมมาตั้ง 4 ปี มันเป็นความหลง ยึดดี เสียประโยชน์แล้วยังไม่เห็น เห็นทุกข์แล้วยังยึดอยู่ จะตัดออกหลายครั้งแล้วแต่ก็ตัดใจตัดออกไม่ได้เป็นโทษเป็นภัยต่อการทำงาน ออกอาการหลายครั้งแล้ว ยังยึดเก็บไว้เป็นสุขใจให้ได้ดั่งใจหมายไว้อยู่

เมื่อพิจารณาประโยชน์ต้องตัดรอบได้แล้ว เอาฉันทะประโยชน์ของอนัตตา เวลาไม่มีสุขลวงทุกข์จริง ไม่มีกิเลส มันไม่เที่ยง จะได้รับประโยชน์มากกว่าเลยตัดเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19 ออกได้ทันที ไม่ลังเลอีกเลย เห็นอาการใจมีสุข ผ่องใส ไร้กังวล เบิกบานแจ่มใสทันที เข้าใจชัดความไม่มีสุขลวงทุกข์จริงแทรกอยู่ จะไม่มีวิบากร้าย ทำให้เรามีพฤติกรรมใหม่ทำดีได้มาก เป็นสภาพที่ดีที่ควรยึดอาศัย ทำสิ่งที่เป็นกุศล สิ่งดีไหนอาศัยได้ เกิดผลได้เท่าไหร่ก็พอใจ ยินดีได้ ปล่อยวางสิ่งที่เป็นรูปภพอาสวะที่ยึดข้อมูลเสียงบันทึกค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 1-19  ไว้ในจิต ใจหวั่นไหว เอาลงยากเพราะมันสะสมกิเลสมานานได้ดั่งใจทุกครั้ง ที่ยังยึดไว้ได้เป็นสุขแรง แต่ตอนนี้เอากิเลสลงฉันทะในดีที่มีทุกข์สุขแทรกอยู่ ตัดออกได้สำเร็จแล้ว

ทำให้ใจบริสุทธิ์ผ่องใส โปร่ง โล่ง ทันที เรากำจัดกิเลสได้ อุเบกขาได้ และเห็นวิมุติของการหลุดพ้นที่ไม่มีกิเลส เป็นวิมุตติญาณทัสสนะ เข้าสู่ยินดีอุเบกขาสู่ความพ้นทุกข์ได้ตัดในสิ่งที่ควรตัด ในสิ่งที่เป็นโทษ ณ เวลานั้น ต่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเอาประโยชน์ ณ เวลานั้นได้ทุกเหตุการณ์ เห็นวิบากดีที่ได้รับสภาพที่ดีจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้พื้นที่เก็บข้อมูลหน่วยความจำภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้คืนมา 80 กว่า GB จากที่เคยเหลือไม่ถึง 10 GBทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเป็นสัปปายะในการบำเพ็ญงานได้อย่างราบรื่นต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *