วิชา อริยสัจ 4 ครั้งที่ 15 | ห้องเรียนวิชชาราม

ห้องเรียนออนไลน์ ห้องเรียนวิชชาราม ตรวจการบ้าน วิชา อริยสัจ 4 ครั้งที่ 15 ในวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 ในสัปดาห์นี้เปลี่ยนเวลามาเป็น เวลาประมาณ 12:00 น. – 14:00 น.

ตรวจการบ้านวิชาอริยสัจ 4

เรื่อง ความกังวลใจในการสอบ

นวลนภา ยุคันตพรพงษ์

มีการสอบร่วมกันงานปลุกเสกฯ 2564ในตอนเย็น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการจัดรายการแพทย์วิถีธรรมออนไลน์ ได้ปรึกษาร่วมกับหมู่กลุ่มแล้วว่าจะเข้าสอบหลังจากจบรายการ

ทุกข์ : เกิดความกังวลใจอยากสอบพร้อมเพือนๆส่วนใหญ่

สมุทัย : สุขใจถ้าได้สอบตรงตามเวลา18,00น.ที่ยังไม่เหนื่อยล้าเกินไป ทุกข์ใจที่สอบหลังจากจบรายการที่เป็นเวลา2ทุ่มกว่าที่อ่อนล้าทางกายกลัวทำข้อสอบไม่ไหว

นิโรธ : สุขใจแม้ได้เข้าร่วมการสอบช้าหลังจากเสร็จภารกิจการจัดค่ายออนไลน์ ไม่ทุกข์ว่าผลคะแนนจะออกมาอย่างไร ได้บำเพ็ญเต็มที่แล้วผลออกมาอย่างไรก็ดีที่สุดแล้ว เกิดความยินดีที่ไม่ทอดธุระทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้เต็มกำลังสุดความสามารถก็เกิดพลัง รวมทั้งรับพลังจากหมู่มิตรดีที่ยังมีกำลังและฉันทะในการทำข้อสอบจนเสร็จแม้เป็นเวลา4ทุ่มกว่า จึงสามารถทำข้อสอบเสร็จส่งตามเวลาที่กำหนดอย่างไม่ทุกข์ใจ

มรรค : หนทางดับทุกข์พิจารณาไตรลักษณ์ความไม่เที่ยง วิปลาส4 ที่กิเลสจะมาหลอกให้รีบทำข้อสอบในขณะที่ร่างกายยังไม่อ่อนล้าเกินไป แต่เมื่อคิดแบบพุทธว่าจะไม่สันโดดในการกำจัดกิเลสเมื่อกำจัดกิเลสตนได้แล้ว เมื่อมีโอกาสที่จะสังเกตุกิเลสผู้อื่นและช่วยชี้แนะกำจัดกิเลสด้วยการเข้าร่วมรายการแพทย์วิถีธรรมออนไลน์ร่วมพลังกับหมู่กลุ่มเช่นนี้ จะทอดธุระทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรกลับเป็นการเพิ่มพลังศีล เมื่อรู้ว่ากังวลจะผิดศีลเบียดเบียนตัวเองและเหนี่ยวนำให้ผู้อื่นเป็นตาม จึงปรับความคิดมาเป็นแบบเนกขัมมะ ว่าจะไม่ตามใจตัวเองทำงานที่เป็นกุศลในปัจจุบันให้เต็มที่เกิดพลังปิติที่ได้ช่วยเหลือตอบปัญหาสุขภาพให้กับผู้ป่วยที่มาร่วมรายการจนจบและทำการสอบร่วมกับหมู่กลุ่มที่ร่วมจัดรายการอย่างเบิกบานแจ่มใส แม้กายจะอ่อนล้าแต่ใจสู้เกินร้อย ไม่ยึดมั่นในคะแนนว่าจะเป็นอย่างไรหลับอย่างสบายว่าได้ทำกุศลเพิ่มศีลและปัญญามากขึ้นอีก1วัน

ขอบคุณทุกเหตุการณ์ที่เข้ามาเป็นผัสสะให้สั่งสมการฝึกล้างกิเลสได้ฝึกฝนขัดเกลาที่ตนและช่วยคนที่ศรัทธา นิพพานไม่ได้ไกลเกินเอื้อม ความสงบเกิดชึ้นที่ใจเมื่อเข้าใจเรื่องกรรมและความพร่องอยู่เป็นนิจของทุกสรรพสิ่งรอบตัว ไม่ยึดติดในความอยากได้ตามใจตัวเอง แม้เรื่องดีและประมาณการกระทำให้พอเหมาะก็จะทำประโยชน์ได้สูงสุดต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างอิ่มเอิบเบิกบานแจ่มใสสุขสบายใจไร้กังวล ยินดีในการร่วมเข็นกงล้อพระธรรมจักร

เย็นน้อมพุทธ
640410


เรื่อง ฟังคลิปภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง

จิราภรณ์ ทองคู่

เนื้อเรื่อง วันนี้่ เปิดคลิปภาษาอังกฤษดู ส่วนมากจะฟังไม่รู้เรื่องฟังแล้วฟังเล่าหลายรอบจนปวดหัว ก็ฟังไม่รู้เรื่องและพูดตามไม่ได้ มีเพียงคลิปเดียวที่พอฟังแล้วพูดตามได้บ้างก็คือบททบทวนธรรมภาคภาษาอังกฤษ พยายามฝึกฝนตามที่คุรุเอ๋ให้การบ้านเท่าที่ทำได้ คลิปไหนฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ดูแล้วไม่เข้าใจก็ไม่เบียดเบียนตัวเอง

ทุกข์ ฟังไม่รู้เรื่องและพูดตามไม่ได้

สมุทัย ถ้าฟังแล้วไม่รู้เรื่องและพูดตามไม่ได้จะทุกข์ใจ แต่ถ้าฟังแล้วรู้เรื่องและพูดตามได้จะสุขใจ

นิโรธ จะฟังรู้เรื่องหรือไม่ก็สุขใจ เพราะไม่ใช่ภาษาของเรา เราเลือกฟังเฉพาะที่เราฟังออกและพูดตามได้บ้างก็สุขใจพอใจแล้ว

มรรค เราเชื่อเรื่องกรรมอย่างแจ่มแจ้งว่าในอดีตเราเคยชอบภาษาอังกฤษแต่พอมาเจอครูสอนภาษาอังกฤษที่ใจร้ายดุเก่งและลงโทษนักเรียนรุนแรงจึงทำให้ไม่ชอบและเกลียดภาษาอังกฤษไปเลย เมื่อมาเจอคุรุเอ๋ ยอมรับว่าสอนดีมาก แต่พอฟังคลิปภาษาอังกฤษกลับไม่รู้เรื่อง ถึงคราวที่ต้องมารับวิบากกรรม ที่เคยเกลียดภาษาอังกฤษมาก่อน รับแล้วก็หมดไปแล้วจะโชคดีขึ้นจึงไม่มีอะไรต้องทุกข์ใจ เบิกบานแจ่มใสดีกว่า เหตุการณ์ดีๆจะได้เกิดขึ้น และไม่ผิดศีลเพราะไม่ได้เบียดเบียนตัวเอง


เรื่อง น้องไม่ได้ดั่งใจ

ตรงพุทธ ทองไพบูลย์

จะต้องขนของย้ายออกจากร้านที่เช่า ก็ทยอยเก็บของขนของเท่าที่ทำได้ แต่ก็จะมีของใหญ่ ๆ ที่ต้องใช้คนช่วย ซึ่งก่อนหน้านี้น้องชายอยากให้คืนร้านที่เช่าอยู่แล้วและบอกว่าให้คืนร้านเถอะแล้วจะมาช่วยขนของ แต่พอถึงเวลาที่จะขนย้ายของจริง ๆ น้องก็ไม่ได้ช่วยอย่างเต็มที่ นัดกันว่าจะมาวันศุกร์ ก็มาถึงในช่วงตอนเย็นซึ่งก็ไม่ทันจะทำอะไรมาก และในวันเสาร์ก็จะกลับในช่วงเที่ยง สรุปคือมาได้ทำงานนิดหน่อยแล้วก็กลับ งานก็ยังไม่จบ ไม่เหมือนที่เขาเคยพูดไว้

ทุกข์ : ไม่ชอบใจ หงุดหงิดใจ
สมุทัย : ชอบให้ได้ดั่งใจ ชอบให้น้องมาช่วยอย่างเต็มที่ ชังที่ไม่ได้ดั่งใจที่น้องมาช่วยไม่เต็มที่
นิโรธ : ไม่ไปเอาความได้ดั่งใจเป็นเงื่อนไขให้ใจเป็นทุกข์ จะได้ดั่งใจหรือไม่ได้ดั่งใจก็ได้ น้องเป็นมาช่วยน้อย หรือมาช่วยช้า ก็ไม่ทุกข์ใจ

มรรค : การที่เราไปอยากได้อยากให้คนอื่นเป็นอย่างใจเรา มันผิดศีลนะ ไปเอาในสิ่งที่เขาไม่ให้ ไปเอาดีเกินจริงมันผิดศีลมันโลภ คิดแบบนี้มีแต่สร้างเงื่อนไขให้ใจเป็นทุกข์ สร้างวิบากบาป หากเกิดได้ดั่งใจเราก็จะสะสมความได้ดั่งใจ เป็นกิเลส พอไม่ได้ดั่งใจก็ทุกข์หนัก เปลี่ยนมาทำที่ตัวเองดีกว่า ไม่ไปเอาอะไรจากใครให้ได้ ใครเขาจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญเท่าเราล้างทุกข์ในใจให้ได้ งานก็ทำเท่าที่ทำได้ เพราะจริง ๆ เขาแวะมาก็ดีมาแล้ว เป็นดีที่สังเคราะห์กัน ได้แค่ไหนก็เท่านั้น ไม่ไปโลภเอามากว่านั้น อย่าโง่สิ

จากเหตุการณ์นี้ได้พิจารณาในศีลข้อ 2 ละเอียดมากขึ้น แค่ความอยากจะให้ได้ดั่งใจก็ร้ายมาก เป็นบาปมาก พิจารณาแล้วก็คลายทุกข์ใจได้ เบิกบานดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *