ในสัปดาห์นี้ ห้องเรียนวิชชาราม วิชา อริยสัจ 4 มีเวลาในการตรวจการบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีรายการเสวนาก่อนหน้านั้น 1 ชั่วโมง เลยทำให้สัปดาห์นี้มีโอกาสได้ตรวจการบ้านนักศึกษาร่วมกันเพียงแค่ 2 ท่าน
การบ้านที่ตรวจเป็นชิ้นแรกในวันนี้เป็นของนักศึกษา อรวิภา กริฟฟิธส์ และชิ้นที่สองคือนักศึกษากานดา ศักดิ์ศรชัย
อรวิภา กริฟฟิธส์
เรื่อง ทุกข์เท่าที่โง่
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากเราต้องทำงานพร้อมกับฝึกพนักงานใหม่ไปพร้อมกัน โดยปกติงานที่ทำกับพนักงานที่รู้หน้าที่ดีแล้วก็ทำแทบไม่ทัน แต่วันนี้เราต้องทำงานกับคนใหม่ที่เราจะต้องมาฝึกงานให้เป็นการเพิ่มงานหนักขึ้นอีก ตอนนั้นเห็นใจที่ไม่แช่มชื่นไม่สบายไม่อยากทำงานกับพนักงานใหม่ เมื่อมีพนักงานใหม่เขาควรเพิ่มพนักงานไม่ใช่ลดพนักงานลง เรารู้สึกไม่ยุติธรรมเลย แล้วเพื่อนที่ทำงานคู่กับเราชิงออกตัวว่าเขาไม่ไหว เราเลยต้องรับเต็มๆ
ทุกข์ รู้สึกไม่แช่มชื่นไม่สบายใจไม่อยากทำงานพร้อมฝึกงานพนักงานใหม่ รู้สึกไม่ยุติธรรม
สมุทัย อยากให้มีพนักงานเพิ่มขึ้นช่วงที่มีการฝึกพนักงานใหม่ ไม่ใช่ลดพนักงานลง
นิโรธ จะมีพนักงานเพิ่มหรือไม่มีพนักงานเพิ่มเราก็ควรสุขใจให้ได้ ยืนดีได้ในทุกสถานการณ์
มรรค เราพิจารณาว่าเมื่อเกิดเรื่องร้ายกับเราไม่มีอะไรบังเอิญทุกอย่างยุติธรรมเสมอ เราควรยินดีเต็มใจรับวิบากดีร้ายของเรา อย่างเหตุการณ์ที่เกืดขึ้นกับเราวันนี้ก็เป็นสิ่งที่เข้ามาเพื่อให้เราได้เรียนรู้ ได้รับแล้วก็หมดไป เราได้เรียนรู้อะไร เราได้เรียนรู้ว่าแม้ในสภาพที่ยุ่งยากเราคิดว่าจะไม่มีวันหมดวันสิ้นสุด แต่แล้วมันก็ผ่านไป เราจึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องได้ดังที่ใจเราหมาย ในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยง ไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้ ไม่มีอะไรที่เรากำหนดได้ ได้นอกจากใจที่ไม่ทุกข์ของเราเท่านั้น ที่เราสามารถกำหนดได้ เพราะบางสถานการณ์เราเป็นลูกหนี้ เราก็ต้องใช้หนี้ การทำงานในวันนั้นของเราก็เป็นการทำงานใช้หนี้ แต่พอเราไปทุกข์ใจไม่ชอบใจก็จะเป็นการก่อเวรไม่สิ้นสุด เลิกซะ บอกกับตัวเอง
สรุป วันนั้นกิเลสมันก็ยังไม่ยอม กลับมาถึงบ้านรับดอกเบี้ยต่อมาระบายความกับพ่อบ้านหาพรรคพวก สร้างโง่สร้างทุกข์อีก เห็นพ่อบ้านท่านนิ่งไม่พูดอะไรรับดอกเบี้ยเพิ่มงอนหนีเข้าห้องนอนดีกว่า พ่อบ้านเห็นเราผิดสังเกตุมาเคาะประตูหยิบหนังสืออริยศีลรักษาโรคขึ้นมาว่าจะอ่าน พ่อบ้านว่าเธอจะอ่านหนังสือรู้เรื่องเหรอ จริงของท่านอุปกิเลสเต็มตัวเลยทั้งโกรธทั้งมายา อ่านไม่รู้เรื่องหรอก ได้คิดรู้สึกสำนึกผิด ยอมรับโทษ ตั้งใจหยุดสิ่งที่ไม่ดีคือความโลภ โกรธ หลงของเรา พ่อบ้านว่าเวลาเกิดอะไรขึ้นให้รวบรวมสติว่าจะไม่ให้ใครขโมยรอยยิ้มไปจากใบหน้าของเรา คิดถึงคำอาจารย์ที่ว่าเราจะยินดีให้ได้ในทุกสถานการณ์ ใจรู้สึกโล่งเบิกบานขึ้น มาเปิดอ่านไลน์วันนี้มีเรียนด้วย ฟ้าเปิดวิบากหมดเลยได้เข้าเรียนกับหมู่มิตรดี สาธุ
กานดา ศักดิ์ศรชัย
เรื่อง ไม่ได้ดั่งใจอีกแล้ว(ตอนที่ 1)
เนื้อเรื่อง เห็นพี่น้องในห้องสาระธรรมมือใหม่ เริ่มฝึกหัดการประกอบภาพนำงานมาเสนอ ก็รู้สึกอยากจะทำตามบ้าง จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือแนะนำไปในห้องสาระธรรมย่อย ขอเวลาแนะนำสัก 2-3 ครั้ง คำตอบที่ได้รับคือ ให้ดูคลิปการเรียนการสอน photoshop ไปก่อนแล้วค่อยหาเวลานัดพบกันทีหลัง
ทุกข์อริยสัจ รู้สึกไม่ชอบที่ไม่ได้ตามที่อยากได้ มีอาการเว้าใจแหว่งใจขึ้นเล็กน้อย
สมุทัย ชอบที่ได้รับความช่วยเหลือตามที่ขอ ไม่ชอบที่ไม่ได้รับอย่างที่ขอ
นิโรธ เมื่อออกปากขอความช่วยเหลือแล้วจะได้รับความช่วยเหลือตามที่ขอ(ตามที่ชอบ)ก็เป็นสุขใจ ไม่ได้ตามที่ขอ(ไม่ได้อยากได้อย่างที่ให้)ก็ไม่ทุกข์ใจ
มรรค ในการเดินมรรค ได้พิจารณากิเลสความชอบอยากได้ดังใจ ในแง่มุมการขอความช่วยเหลือซึ่งเป็น
อัตตาตัวตนที่ฝังรากลึกมีให้ต้องล้างอีกมากมาย เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยยังไม่เคยคิดจะล้างอย่างจริงจัง แต่ก็ได้พากเพียรล้างไปเป็นลำดับๆเมื่อมารู้จักกับธรรมะหมอเขียว ผัสสะครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดว่าจะยังมีอารมณ์แบบนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำการกวาดล้างด้วยการพิจารณาทุกข์อริยสัจ รู้ว่านี่กิเลส เหตุให้ทุกข์ ก็เพราะอัตตา ความไม่ชอบ จึงทำความเห็นให้ถูกตรงเป็นพุทธะด้วยการใช้บททบทวนธรรม บทที่ 41 และบทที่ 13 มาพิจารณา อาการก็สงบกลับมาเป็นปกติได้โดยไม่ยากนัก ยอมรับได้ว่าการที่เราจะได้สิ่งใดนั้นขึ้นกับวิบากดีร้ายของเราออกผล ยอมเชื่อในเรื่องกรรม เชื่อพุทธะ ตั้งศีลไม่รับกิเลสมาเป็นอาจารย์
ขอขอบคุณผัสสะในครั้งนี้เนื่องจากจะมีความไม่ได้ดั่งใจมาอีกมากมาย หลากหลายรูปแบบและลีลา ที่ยังสะสมสร้างทุกข์ให้ได้ฝึกล้างอีกเรื่อยๆ หมดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นหมดทุกข์
กราบขอบพระคุณอาจารย์หมอเขียว ที่ชี้ทางทุกข์อริยสัจแบบปฏิบัติง่าย ให้เป็นเครื่องมือวิเศษสำหรับแก้ทุกข์ ขอบคุณหมู่มิตรดีที่เป็นผัสสะให้ การต่อสู้กับกิเลสตัวนี้ให้ได้ผลครั้งต่อไปจะต้องทำสติให้เต็ม ตั้งศีลมาเมื่อจะร้องขอสิ่งใดจากใครๆว่าเขาจะให้ก็ได้เขาจะให้ก็ได้ คาดว่าจะสามารถลดละล้างกิเลสตัวนี้ลงไปได้อีกเป็นลำดับๆ สาธุค่ะ
บททบทวนธรรมที่ 13 การได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจเรา ไม่ได้ดั่งใจเรา เป็นสุดยอดแห่งมืออันล้ำค่า ที่ทำให้ได้ฝึกล้างกิเลส คือความหลงชิงชังรังเกียจ จงยึดมั่นถือมั่นในใจเรา และทำให้ได้ล้างบาปร้ายของเรา
(อัพเดท 19 กย.63)
บททบทวนธรรมที่ 41 เย่ๆๆ ดีใจจังไม่ได้ดั่งใจ (วิบากหมด กิเลสตาย ได้กุศล) แย่ๆๆ ซวยแน่เราเอาแต่ใจ
(วิบากเพิ่ม กิเลสพอก งอกอกุศล) (อัพเดท 19 กย 63)