ห้องเรียนภาพประกอบสาระธรรม 19 พ.ย. 2563
ในโพสนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห้องเรียนสาระธรรม เช่น ผู้สอน ผู้รับชม ผู้อำนวยความสะดวก ผู้บันทึกการเรียนการสอน ได้แบ่งปันสภาวธรรม ที่เกิดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสร้างผลงานในสัปดาห์นี้จนจบการนำเสนอผลงาน โดยไม่จำกัดทักษะการเขียนหรือการเรียบเรียง สามารถเขียนบรรยายได้ตามอัธยาศัย โดยมีหลักพุทธพจน์ 7 (1.ระลึกถึงกัน 2.รักกัน 3.เคารพกัน 4.เกื้อกูลช่วยเหลือกัน 5.ไม่วิวาทกัน 6.พร้อมเพรียงกัน 7.เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ) เป็นกรอบในการถ่ายทอดความคิดเห็น
ในสัปดาห์นี้จะเป็นการเรียนรู้การทำงานชิ้นสุดท้ายร่วมกัน หลังจากนี้จะเป็นการสรุปผลการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่ม และจบกระบวนการศึกษางานภาพประกอบสาระธรรม หลังจากนั้นจะเป็นการใช้เวลาประชุมนี้ในการตรวจงานสาระธรรมที่แต่ละกลุ่มหรือแต่ละบุคคลได้สร้างสรรค์ขึ้นมา
สภาวะธรรมที่ได้จากการห้องเรียนประกอบภาพสาระธรรมสัปดาห์นี้ก็คือ เช่นเคยรู้สึกยินดีที่ได้พบปะกับพี่น้องอีกครั้ง ได้ฟังพี่น้องแลกเปลี่ยนสภาวะกันด้วยความคิดถึงและคุ้นเคย พอถึงช่วงเวลาคุรุเกินนำเข้าห้องเรียนว่าวันนี้เป็นงานชิ้นสุดท้ายของงานกลุ่ม ตัวเองก็คิดทบทวนเวลาอันมีค่าที่ได้มาคบคุ้นกับพี่น้องหมู่มิตรดี ได้มาฝึกเสนอดีสลายอัตตา ฝึกยอมรับเอาตามมติหมู่แม้ว่าจะไม่ตรงกับความคิดของเรา และงานนั้นบางครั้งก็ไม่สำเร็จดั่งที่ใจเราหมายแต่เมื่อหมู่มีมติแล้วก็ยินดีรับฟังน้อมนำมาแก้ไข ตัวเองไม่มีความรู้สึกกดดันเลยในการทำงานกับหมู่ จะมีก็แต่วิบากเรื่องเวลาแต่ก็บอกตัวเองว่าได้ฝึกความอดทนแต่ก็คอยตรวจสอบอยู่ว่าไม่เบียดเบียนตัวเองจนเกินไป โชคดีเป็นคนนอนง่ายและกำหนดเวลานอนของตัวเองได้ ขอขอบคุณคุรุทุกท่านและพี่น้องที่ให้โอกาสร่วมบำเพ็ญ สาธุค่ะ
แจ้งศีล โยธกา รือเซ็นแบรก์
สภาวะธรรม ห้องเรียนสาระธรรม
21.11.2563
ตลอดอาทิตย์นี้ ใจไม่มีผัสสะเพราะรู้ว่าพี่น้องหาคำ-หาภาพที่จะทำได้แล้ว รอชมผลงานที่พี่น้อง ทำมาหลายเวอร์ชันให้โหวตกันก็มีแต่สวยๆ ถึงวันส่งงานก็ไม่ได้คุยกันและไม่รู้ว่าจะได้เป็นคนพีเซ็นต์แต่ก็ยินดีที่จะทำงานตรงหน้าที่พี่น้องเมตตาให้โอกาส น้อมรับด้วยความเต็มใจใจและพีเซ็นต์งานตามที่เห็นภาพและคำคม. และพี่น้องหมู่ใหญ่เมตตาเอาภาระช่วยตรวจทานชี้แนะก็น้อมรับฟังด้วยใจยินดี .
ถึงแม้งานจะไม่ผ่านต้องกลับมาแก้แล้วแก้อีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร แค่ใจเราเบิกบานได้ก็พอแล้ว .
กราบสาธุค่ะ.
เจริญธรรม สำนึกดี มีใจไร้ทุกข์
คารวะคุรุทุกท่านค่ะ
วันนี้ ข้าน้อยเข้าห้องเรียนช้ากว่าที่คุรุกำหนดเนื่องจากยังบำเพ็ญอัดคลิปรายการแนะนำหนังสือน่าอ่านอยู่ พอเวลาล่วงเลยมาเล็กน้อย เห็นความหวั่นไหวว่า ท่านคุรุส่งลิงก์แล้ว จะมีพี่น้องใจเราเข้าไปกี่ท่านน้อ เพราะพี่น้องส่วนใหญ่ที่ยังอัดคลิป ยังอยู่ห้องนี้ แต่ก็พิจารณาว่า ท่านคุรุคงเข้าใจ จึงวางใจได้ว่า ทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดอยู่กับปัจจุบันใจไร้ทุกข์ไร้กังวลดีกว่า ใจก็เบิกบานได้ และซักพัก าจารย์น้อมพรฟ้าก็บอกให้พี่น้องเราที่จะเข้าห้องสาระธรรมไปได้เพรทะจยการอัดคลิปแล้ว และเราก็ได้เข้ามาในห้องสาระธรรม ก็มีพี่น้องอยู่กันเยอะแล้ว ใจก็เบิกบานและมีพลัง วันนี้เรานำเสนอผลงานก็ ได้ความรู้เพิ่มเรื่องการใช้สี แลรูปทรง ที่สื่อออกมาทางงานศิลปะที่ท่านคุรุเมตตาอธิบาย ส่วนงานในก็ได้ฝึกวางใจ ว่าเราจะได้คอมเม้นก็ได้ไม่ได้คอมเม้นก็ได้ เราจะได้ฟังธรรมที่กระแทกกิเลส จากท่านคุรุก็ได้ ไม่ได้ฟังก็ได้ เอาตามธรรมที่วิบากดีร้ายของเราและของพี่น้องหมู่กลุ่ม วันนี้เราสังเกตเห็นสัญญาณเนตที่บ้านไม่เสถียร จึงรีบเปลี่ยนไปใช้มือถือได้ทันเวลา และได้อยู่ไม่จบ เพราะแบตมือถือหมด ก็ไเตรวจใจดู เห็นว่า เบิกบานและผาสุกได้ แม้จะไม่ได้อยู่จนจบถามข้อมูลใหม่ๆจากพี่น้องที่อยู่จนจบก็ได้ จึงทำงานบ้านเก็บครัว เจริญสติอยู่เงียบๆต่อไป ใจไร้ทุกข์ค่ะ
แก้ไขคำผิด
ใจเรา = เรา
แล = และ
ก็ไเ = ก็ได้
สภาวะธรรมของข้าพเจ้าที่ได้รับ จากการเรียนสาระธรรมประกอบรูปภาพของสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย ใจหาย ทั้ง ๆ ที่พวกเราก็ไม่ได้ไปไหนก็ยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม จับความรู้สึกของตนเองเมื่อได้รับฟังที่คุรุ ท่านพูดว่า ” สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียน การสอนครับ” ว่าเกิดความเสียดาย แต่พอรู้ตัวว่าเป็นกิเลสก็เริ่มมีสติ ดึงจิตกลับมาทันที แล้วบอกตัวเองว่าทุกอย่างเป็นเพียงสมมุติเท่านั้นเอง มีอยู่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรจีรัง ยั่งยืน สักวันหนึ่งพวกเราก็ต้องจากกันไปจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะได้พบเจอกันอีกเมื่อไร ซ้อม ๆ จากกันไว้อย่างนี้ละดีแล้ว จะได้ชิน นี่พวกเราก็ยังอยู่กันครบไม่มีใครหายไปไหนหรอก ความจริงข้าพเจ้าก็ได้ผ่านความรู้สึกที่ได้พลัดพรากจากคนใกล้ตัวมาแล้ว ตั้ง 3 ครั้ง แต่ความรู้สึกแบบเดิมที่เคยรู้สึกมานั้นก็ยังเหลืออยู่ จึงทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าการล้างกิเลส ตัวที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ข้างในใจนั้นสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง มันยากต้องพยายามพากเพียรล้าง และมีสติให้ทัน ไม่ปล่อยให้กิเลสมีอิทธิพล เหนือจิตใจของเรา
กราบขอบพระคุณคุรุทุกท่านที่ได้เสียสละเวลาที่มีค่า มาสอนและชี้แนะ พวกเราทั้งความรู้ทางโลกและทางธรรม ซึ้งเป็นสิ่งที่มีค่า พวกเรานำมาใช้ได้จริงในทางโลกขณะที่มีลมหายใจอยู่นี้ และเมื่อพวกเราได้จากโลกนี้ไป และกราบขอบพระคุณพี่น้องหมู่มิตรดีทุกท่านที่ได้มาร่วมกันสร้างสรรค์ ผลงานในทางโลกและช่วยกันขัดเกลา ล้างกิเลสในทางธรรม ข้าพเจ้ารู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นความเป็นกันเอง ความรัก ความเมตตาที่คุรุมีต่อพวกเรา และความรัก สามัคคีที่พี่น้องมีต่อหมู่กลุ่ม การได้มาพบปะคบคุ้นท่านคุรุและหมู่มิตรดี ในกลุ่มสาระธรรมประกอบรูปภาพในครั้งนี้ ถึอว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก ค่ะ
สาธุ
สภาวธรรมที่ได้จากการห้องเรียนประกอบภาพสาระธรรมสัปดาห์นี้ ดูเหมือนใจจะสบายๆ ถ้าเราไม่คาดหวัง เราก็จะไม่ทุกข์ แต่พอได้ยินคำถามจากพี่น้องๆว่าไหวไหม เลยทำให้ต้องกลับมาถามตัวเอง เอ๊ะ! เราผ่านเปล่าหว่า แต่เราไม่มีอะไรกับผัสสะคำแรงๆจากพี่น้อง ไม่รู้สึกว่าแรง คำนั้นผ่านไป ไม่ใช่ซิ เราไม่รู้เลยว่า มีคำพูดนั้นด้วยซ้ำ อาทิตย์นี้รู้สึกว่าน้อมรับฟังพี่น้องว่าจะให้เอาคำไหนขึ้นก่อนหลัง ผัสสะเขามาเพื่อให้เช็คว่าเราผ่านไหมตัวนี้ สำหรับอาทิตย์นี้ เข้าใจเหตุผล น้อมรับคำวิพากษ์จากพี่น้อง ว่าเราควรคำนึงถึงคนที่รับสาร คำคมคือคนทั่วไป การจะนำคำไหนขึ้นก่อนหลัง ถือเป็นเรื่องสำคัญ พอน้อมรับคำของพี่น้อง เอาประโยชน์จากสิ่งนั้น ใจก็น้อมรับจริงๆ
เลยทำให้รู้ว่า เหตุการณ์บางเหตุการณ์ ถ้าเรายังมีผัสสะ มีกิเลสตัวไหน มันจะโผล่มา แต่เหตุการณ์เดียวกัน ถ้าไม่มี มันก็ไม่มี
กิเลสก็จะมีเหลี่ยมมีมุมของมัน ไม่เหมือนกัน ณ ตอนนี้ พอมีเหตุการณ์หรือผัสสะอะไร เราก็จะอ่านใจเราก่อนว่า่ เรามีอาการไหม เรามีกิเลสตัวไหนในเหตุการณ์นั้นไหม ไม่โทษคนอื่น มองที่ตัวเราอย่างเดียว
เจริญธรรมสำนึกดีค่ะคุรุ เเละพี่น้องทุกท่านค่ะ
ความรู้สึกที่เข้าห้องเรียนสัปดาห์ที่เเล้ว ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คือ มีความสุขที่ได้เข้าเรียนเเละดีใจที่ฟังพี่น้องได้เเลกเปลี่ยนคุยสภาวะธรรมกัน ตัวเองก็ได้ความรู้เเละเเนวคิดไปด้วย มีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าเรียน เรื่องงานกลุ่มหรือผลงานของพี่น้องก็ไม่มีอะไร สวยดีหมดค่ะ มีอาการใจเเป้วเล็กน้อย ที่รู้ว่าอีกไม่นานก็จะจบคอร์ส เเต่ก็บอกกับตัวเองว่า มีเจอก็มีจากเป็นธรรมดา เป็นสัจจะธรรม เเต่ก็ยังไม่คิดว่าพี่น้องจะหายไปเลย เพราะคิดว่า คุรุคงจะมีเเนวคิดนโยบาย วิธีการที่จะให้พี่น้องมาร่วมสานพลังหรือคุยกันอีก สาธุค่ะ
อาทิตย์ที่ผ่านมาวันสุดท้ายที่ส่งงาน ก็เป็นวันก่อนเดินทางกลับไทย ก็จะเป็นวันที่เก็บงานสวน เก็บกระเป๋า เตรียมตัวเดินทาง เลยไม่ได้มีโอกาสอยู่กับหมู่เต็มที่ แต่ฟังไปก็ยิ้มไป เอ็นดูงานกลุ่มเพชรที่พี่น้องร่วมฟังวิพากษ์กันแบบเข้มข้นมากๆ สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากพี่น้องงานออกมาสมบูรณ์ขึ้น และพี่น้องก็ได้ตรวจดูจิตดูใจกันไป มีความรู้สึกอยากจะร่วมพูดร่วมแซวพี่น้องในบางครั้งด้วยใจเบิกบาน ก็ระงับได้บ้างไม่ได้บ้าง แม้จะสรุปว่าหลังจากจบสรุปกายใจแล้ว เราจะพบกันใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่ง กลุ่มเพชรอาจจะไม่ได้ทำงานร่วมกันเหมือนเดิมแต่ก็ยังปรึกษาส่งภาพคำคมมาแลกเปลี่ยนกันได้
หลังจากถึงไทยแล้วเรามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนพูดคุยสรุปสภาวะกันนานพอสมควร เป็นการเปิดใจเล่าความคิดความรู้สึกกันอย่างค่อนข้างละเอียด ต่างก็ได้ประโยชน์ในการมาเจอกัน ผลจากผัสสะที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเราเหมือนมีกระจกส่องให้เห็นกันและกัน เป็นช่วงเวลาดีๆที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองให้เห็นตัวตนของแต่ล่ะคนชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ อนุโมทนาสาธุ
631126
สัปดาห์นี้ มีการนำเสนอผลงานสาระธรรมกลุ่ม เป็นครั้งสุดท้าย ผลงานกลุ่มปฐพี มีงานเดิมค้างนำเสนออยู่หนึ่งชิ้น บรรยากาศจึงสบาย ๆ และเนื่องด้วย พอสามารถจัดสรรเวลาได้จะมาเชิญชวนพี่น้องในกลุ่มพูดคุยกัน เวลาผ่านไป ก็เอาผลงานมาดูกันอีกที นำเสนอผลงานให้พี่น้องช่วยกันตัดสินใจ ช่วยให้คำแนะนำ ช่วยพิจารณา โดยนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมที่พอจะสามารถทำได้ เพื่อเชื่อมต่อพี่น้องและฝึกฝนตนเองทั้งงานนอกงานใน โดยไม่หวังผลใด ๆ และใช้พลังหมู่กลุ่ม ทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ เพื่อช่วยเหลือกันทำกิจกรรมการงานร่วมกัน เพื่อฝึกฝนร่วมกับหมู่มิตรดีต่อไป
การนำเสนอในสัปดาห์ถัดไปจะเป็นรูปแบบใหม่ ๆ เสมอ เราฝึกฝนการทำกิจกรรมไปกับหมู่และทำงานในไปพร้อม ๆ กัน ฝึกการพร้อมรับ พร้อมปรับ พร้อมเปลี่ยน ล้างความยึดติด ชอบชังต่อไป ด้วยใจที่ผาสุก กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์หมู่มิตรดีทั้งที่เกี่ยวข้องและพากเพียรบำเพ็บุญกุศลอยู่ทุกหนแห่งค่ะ
Comments are closed.