At bagon.is you can Buy webshells, phpmailer, Combo list
สรุปสาระธรรม ค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30 | สถาบันวิชชาราม
Skip to content

สรุปสาระธรรม ค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30

สรุปสาระธรรม ค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30 (รวมพลจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม)

รุ่น “ความสำเร็จของงาน ไม่ใช่ความสำเร็จของงาน ความสำเร็จของใจ คือความสำเร็จของงาน,  วันหน้าไม่รู้ วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กิเลสอย่างรู้เพียรรู้พัก”
วันที่ 3 – 10 ตุลาคม 2563

นักศึกษาสถาบันวิชชาราม เข้าร่วมรับชมบรรยากาศในค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30 สามารถสรุปสาระธรรมที่ตนเองได้เรียนรู้ได้ในช่องความคิดเห็นใต้โพสนี้


สถาบันวิชชาราม จัดทำรายการเปิดใจผู้เข้าค่ายพระไตรปิฎกออนไลน์ ครั้งที่ 30 เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลต่าง ๆ ที่ได้จากการจัดค่ายพระไตรปิฎกในครั้งนี้ [ดูรายการเปิดใจผู้เข้าค่ายพระไตรปิฎกออนไลน์ ครั้งที่ 30]

 


 

14 thoughts on “สรุปสาระธรรม ค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30”

  1. นงลักษณ์ สมศรี(ลายใบไม้)

    กราบคาราวะอาจารย์ เจริญธรรมสำนึกดีค่ะ
    วันนี้ได้มีโอกาสฟังวาระการประชุมเครือข่ายแพทย์วิถีธรรมในค่ายพรไตรปิฎกครั้งที่30 ทำให้นึกถึงบรรยากาศค่ายแฟนพันธ์ุแท้ที่สวนป่านาบุญ 1และ4หลายปีที่ผ่านมา
    พี่น้องเครือข่ายต่างๆเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ กางเต๊นท์นอนกันรอบๆต้นไม้ มีเสียงพูดคุยหยอกเย้าอย่างเป็นกันเอง ได้ล้างผัสสะล้างใจท่ามกลางความพร่องแต่ได้พลังในเวลานั้น
    พอได้มีโอกาสเห็นพี่น้องบางท่านที่นานๆจะเข้าประชุมผ่านซูม แต่ก็ยังสัมผัสถึงความอบอุ่นเอื้อเอ็นดู กับผู้รับใช้แต่ล่ะเครือข่าย
    การที่ค่อยๆมีโอกาสก้าวเดินเข้ามาในวิถีของแพทย์วิถีธรรม ตลอดเวลา10ปีที่ผ่านมาจึงเป็นเรื่องที่มีค่ามาก จากการเดินทางไปคบคุ้นร่วมบำเพ็ญกับพี่น้องตามศูนย์ต่างๆในเมืองไทย พอได้เข้ามานั่งประชุมแม้จะผ่านซุมก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่เหมือนเดิม
    การเข้าค่ายพระไตรปิฎกครั้งนี้ แม้จะเข้าฐานแลกเปลี่ยนสภาวธรรมกันผ่านzoomในบางหัวข้อ และเน้นไปที่เรื่องการทำกสิกรรมไร้สารพิษ การทำการบ้านอริยสัจสี่ ก็ทำให้จิตวิญญาณของพี่น้องในต่างประเทศมาเชื่อมร้อยกันเหนียวแน่นขึ้น ผ่านการทำคลิปร่วมกัน และการได้ติดตามรับฟังแลกเปลี่ยนทางออนไลน์ ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา และทุกๆช่วงเวลาที่ได้เข้าฟังการสอบนักศึกษาวิชชาราม ได้ฟังการวิพากษ์ด้วยความเมตตาจากพระโพธิสัตว์แล้ว ช่างเคี่ยวข้น บด(กิเลส)ละเอียด ชี้ขุมทรัพท์ทางปัญญาอย่างประมาณที่ไม่ได้จริงๆ
    ความผาสุกที่ได้ก่อเกิดจากฉันทะที่ได้บำเพ็ญร่วมกัน ทั้งแรงกายแรงใจจากพี่น้องพวธ จะอยู่ใกล้หรือไกลก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำความดี รักษาศีล ล้างใจจากผัสสะที่เกิดจากกิเลสได้ไวขึ้น ไม่ถือสากัน สามัคคีกันทำ สามัคคีกันวางหน้าที่ส่วนตนเพื่อทำประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่างต่อเนื่อง
    คอยให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือแบ่งปันกัน ทั้งทางวัตถุข้อมูลข่าวสาร มอบเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ความจริงใจต่อกันเป็นลำดับเรื่อยมา
    แม้จะมีเรื่องพร่องบ้าง พลาดบ้างเราก็พร้อมปรับพร้อมเปลี่ยน เห็นเรื่องทุกข์เรื่องยึดดี อััตตา เป็นเรื่องโง่งมที่จะไปมัวเสียเวลาข้องแวะด้วย วางได้ก็รีบวาง ถ้าเรามีความนับถือศรัทธากันมากพอ ยามเจอปัญหาอุปสรรคในการทำงานร่วมกันเราจะให้อภัยกันหรือสำนึกผิดขออโหสิกรรมต่อกันไป
    เรียนรู้ที่จะประมาณ และประเมินผลดีผลเสียในการสื่อสารยามต้องประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ซึ่งก็ทำได้ดีในบางเรื่อง บางครั้งก็ยังทำให้พี่น้องบางท่านก็มีเข้าใจผิดบ้าง
    เราใช้สโลแกนอาจารย์ที่ว่า”ทำดีแล้ว ต้องถูกโดนด่าให้ได้”
    การใช้งานเป็นผัสสะเป็นตัวล่อกิเลสให้ออกมาเพื่อเห็นมันดิ้น ยามอยู่ใกล้หมู่ก็มีแรงสนิทานที่ดีมากพอจะมีคนชี้เป้าแล้วค่อยๆฆ่าให้มันตายไปทีล่ะตัว ยิ่งได้มีโอกาสฟังธรรม ได้อ่านได้ฟังสภาวะจากเพื่อนเรื่องความจริงความลวง อริยสัจ4 กสิกรรมไร้สารพิษชีวิตผาสุก ก็จะเห็นเหตุแห่งทุกข์ วางทุกข์เข้าสู่การดับทุกข์ได้ไวขึ้น มีความรู้สึกละอายต่อบาป ต่อการคิด ทำ และพูดไม่ดีต่อคนอื่น หรือเบียดเบียนให้ตัวเองเป็นทุกข์
    ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดการดูแลวางแผน วางผังรายการตลอดเดือนชนเดือน ทั้งหน้าที่ของทีมสื่อในค่ายครั้งนี้ทำได้ดีเยี่ยมค่ะ ทั้งใส่ใจ เสียสละเวลาประสานงานกับทุกฝ่าย เห็นความขันติมานะอดทน อดกลั้น มีความอุสาหะ พากเพียรเรียนรู้ ทำให้ดูและสอนผู้อื่นเป็นวิทยาทาน ใช้ธรรมมะและหมู่มิตรดีเป็นธรรมโอสถขนานเอก สร้างพลังทำให้ “ความสำเร็จของใจคือความสำเร็จของงาน วันหน้าไม่รู้ วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กิเลสอย่างรู้เพียรรู้พัก”อนุโมทนา สาธุ

  2. พรพรรณ เอ็ทสเลอร์

    สาระธรรมที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากค่ายพระไตรปิฎกคระ้งที่ 30 นี้คือ

    1. การล้างกิเลสไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ควรจะประมาท เพราะแม้นขนาดอยู่ในหมู่กลุ่มและอยู่ใกล้ชิดอาจารย์แท้ๆ หากไม่ยอม ยอม และยอม หรือลดอัตตาของตนเอง ก็จะไม่มีทางที่จะล้างกิเลสได้สำเร็จ

    2. การอยู่ในหมู่กลุ่มสิ่งที่ควรจะระมัดระวังให้มากคือ คำพูด และการกระทำ เพราะแต่ละท่านต่างที่มา และฐานจิตแต่ละท่านก็ต่างกัน ไม่ควรจะเอาแต่ใจตนเอง ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเปิดใจให้กว้างยอมรับฟังคำชี้แนะของหมู่กลุ่มแล้วนำไปปฏิบัติ เพื่อตนเองจะได้เจริญในธรรมยิ่งขึ้น

    3. เชื่อและปฏิบัติตามมติหมู่กลุ่ม ไม่ผิดมีแต่เจริญอย่างเดียว ท่านใดไม่เชื่อหมู่ เอาแต่ใจตนเอง กิเลสก็จะโตอย่างไม่รู้ตัว

    4. เห็นกิเลสและข้อควรแก้ไขในตนเองมากขึ้น
    สาธุ

  3. นาง โยธกา รือเซ็นแบรก์

    สาระธรรม9/10/63 ที่ได้จากค่ายพระไตรปิฎก รุ่น
    ความสำเร็จของใจ คือ ความสำเร็จของงาน
    วันหน้าไม่รู้ วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กับกิเลส อย่างรู้เพียร รู้พัก
    กราบคาราวะท่านอาจารย์หมอเขียวที่เคารพยิ่งค่ะ.

    ท่านอาจารย์หมอเขียว เทศน์ เน้นหลักๆ คือ ใจ
    ถ้าใจยังยึดมั่นถือมั่น ไม่ปล่อยไม่วางใจก็ยังขุ่นมัว ใจสกปรกคือ ยังทุกข์ ยังชั่ว ยิ่งโง่
    สกปรกตัวอยากได้ดั่งใจหมาย
    สะอาดจะสุขใจ ไม่สะอาดจะทุกข์ใจ
    ถ้าเป็นดั่งใจเราหมายจะสุขใจ
    ถ้าไม่เป็นดั่งใจเราหมายจะทุกข์ใจ
    และไม่ว่าจะทำอะไรๆใส่ธรรมะ ไปด้วย
    ทำงานจะทำให้ เห็นความสกปรกในใจ โลภ โกรธ หลง ทุกข์ ชั่ว
    -กิเลสทำให้ บ้า อยากหายบ้า ต้องล้างกิเลส
    -ฟันต้นไม้ อย่าลืมฟันกิเลสทิ้งด้วย
    – หั่นหอมอย่าลืม หั่นกิเลสออกไปด้วย
    นาบุญ ข้าวทิพย์ ใจไร้ทุกข์ ใจไร้สารพิษ แปลงนาของใจ ไร้สารพิษ
    -กินสมุนไพร กินเข้าไปให้ถึงจิต สมุนไพรในจิต คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
    -กัวซาพิษให้ถึงจิต ถอนพิษขุดพิษขูดด้วยธรรมะใช้ ศีล สมาธิ ปัญญา ขูดกิเลสออกไปด้วย
    ดีท๊อกระบายให้ถึงจิต เอาธรรมะ ไปดีท๊อกให้มันถึงจิต
    -แช่มือ แช่เท้า อย่าลืมแช่ ธรรมะให้ถึงจิตจะได้ตัวบำรุงที่ดีที่สุด
    พอก ทา ประคบ อบ อาบ เช็ด ด้วยสมุนไพร ด้วยธรรมะ รับรองเลย เช็ดทุกข์ออกไปหมดเลย
    พอกยาดี หายทุกข์เลย
    กายบริหารก็อย่าลืมกายบริหารจิตด้วยธรรมะ
    กินอาหารอย่าลืมกินอาหาร4 กินธรรมะไปด้วย
    ,กพฬิการาหาร 2,ผัสสาหาร3,มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณหาร
    ไม่ว่าเราจะทำอะไร ในชีวิตประจำวันทำให้ถึงจิต
    หมั่นตรวจดูว่าเราขี้เกียจหรือเปล่า อย่าขี้โลภมากกว่าที่ทำได้นะ ต้องยินดี ต้องพอใจ สุขที่สุด
    ทุกข์เท่าที่โง่ โง่เท่าที่ทุกข์
    โลภเท่าที่โง่ โง่เท่าที่โลภ
    ชั่วเท่าที่โง่ โง่เท่าที่ชั่ว
    จงทำดีเต็มที่ สุขเต็มที่ เหนื่อยเต็มที่ ไม่มีอะไรคาใจ สุดยอดแห่งความอิ่มเอิบ เบิกบาน แจ่มใสดีกว่า
    ***ไม่ค่อยได้ทบทวบธรรม
    ส่วนใหญ่ทบทวนทุกข์***
    -พลังหมู่กลุ่มสุดยอดจริงๆ อบอุ่นดีที่สุดในโลก
    -สาระธรรมที่ข้าพเจ้าโดนใจ มากๆ ไม่ว่าจะทำ อะไรๆ ทำให้ถึงจิต ใส่ธรรมะ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
    การตั้งศีล ทำให้เห็นกิเลส ที่เราติดตรงใหน ต้องพยายามพากเพียรปฎิบัติ ตัด หั่น ขัด ขูด ถอน ล้างความ สกปรกออกจากใจของเรา.
    บททบทวนธรรมก็สำคัญ ต้องทำถึงให้จิต ไม่ใช่แค่ท่องๆๆ เท่านั้น.
    กราบสาธุค่ะ .

  4. นวลนภา ยุคันตพรพงษ์

    สาระธรรมที่ได้จากการฟังจากค่ายพระไตรปิฎกครั้งที่ 30

    แม้ไม่มีโอกาสขึ้นไปฟังธรรมหรือเรียนกับหมู่กลุ่มที่ภูผาฟ้าน้ำ ก็ยังสามารถติดตามได้เท่าที่โอกาสเลือกอำนวยโดยเฉพาะช่วง 4:00 น ที่ได้ฟังธรรมะอย่างเต็มอิ่มแล้วเป็นการตอบโจทย์ความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน

    ได้เรียนรู้พระสูตรเขิงลึกในพระไตรปิฎกที่สามารถโยงเข้ากับบทเรียนที่เราจะนำไปใช้กับการเขียนบทความหรือวิทยานิพนธ์หรือดุษฎีนิพนธ์ที่ตอนนี้เรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

    สภาวะธรรมที่ได้จากการที่เห็นหมู่กลุ่มที่เรียนปริญญาโทคณะพุทธศาสตร์สาขาพระไตรปิฎกที่เชียงใหม่ได้มีโอกาสช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และได้ถามอาจารย์อย่างสะดวกสบายแล้วมีหัวข้อกันหมดทุกคนแล้ว ทำให้มีความคิดอยากย้ายขึ้นไปเรียนด้วยที่เชียงใหม่ แต่ก็หยุดความคิดได้ เพราะอยู่ไกลก็เหมือนอยู่ใกล้ เนื่องจากทุกครั้งที่มีปัญหาหรือข้อสงสัยในใจอาจารย์ก็ตอบมาทางการบรรยายทุกเช้าในรายการธรรมะผ่านพ้นทุกข์ทำให้มีกำลังใจเรียนต่อไป และยืนหยัดพิงเชือกเป็นจิตอาสาประจำอยู่สวนป่านาบุญ3ได้ในทุกวัน เพราะที่จริงแล้วตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เพียงแค่ได้สัมมาทิฏฐิที่ถูกตรงจากสัตบุรุษที่ถูกตรงดังเช่นอาจารย์หมอเขียวหรือพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ก็ได้สัจธรรมที่บริบูรณ์จึงเกิดปัญญาที่บริบูรณ์ไม่รู้ไปทำให้สุขได้กับทุกสถานการณ์

    โดยเฉพาะสาระธรรมที่ได้เมื่อเช้าวันที่ 11 ตค.
    ยาที่ดีที่สุดในโลกคือความยินดีได้กับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะร้ายหรือดีการเพิ่มศีลจะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยเรื่องร้ายโรคร้ายจากพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 ข้อที่ 168 สีลสูตรได้ด้วยการปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญาอย่างต่อเนื่องเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายก็จะพบสุขแท้ เริ่มต้นจากสัมมาสมาธิของบุคคลผู้มีศีลสมบูรณ์ที่ถูกตรงก็จะมียถาภูตญาณทัสสนะที่สมบูรณ์จะถึงสภาพนิพพิทาและวิราคะที่สมบูรณ์ก็จะมีวิมุตติญาณทัสสนะที่สมบูรณ์เปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีกิ่งและใบที่สมบูรณ์ สะเก็ด เปลือก กระพี้ แม้แก่นของต้นไม้นั้น ย่อมถึงความบริบูรณ์ ดังนั้นผู้ที่มีศีลสมาธิ ปัญญาตั้งแต่เบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายที่ถูกตรงโดยมีสัมมาทิฐิกำกับก็จะถึงสภาพความหลุดพ้นจากกิเลส พ้นทุกข์ได้อย่างยั่งยืนคงทนถาวรสู่สภาพนิพพานได้โดยไม่ยากลำบากจะมีใจที่ไร้ทุกข์สุขได้กับทุกสถานการณ์

    จะพากเพียรหมั่นเติมปัญญาในทุกวันด้วยธรรมะพาพ้นทุกข์จากท่านอาจารย์หมอเขียวใจเพชรกล้าจน
    เจริญธรรมสำนึกดีมีใจไร้ทุกข์

    เย็นน้อมพุทธ
    631011

  5. อรวิภา กริฟฟิธส์

    สภาวะธรรมที่ได้จากการเข้าค่ายพระไตรปิฎก ครั้งที่ 30 ออนไลน์ในครั้งนี้ ตัวเองรู้สึกว่าได้ประโยชน์มากทั้งจากธรรมะที่อาจารย์บรรยาย และจากการแชร์สภาวะธรรมจากพี่น้องที่สอบอริยสัจสี่ ทำให้เห็นทุกข์และวิธีดับทุกข์ของพี่น้องและตัวเองได้นำมาใช้ดับทุกข์ในตน การได้ร่วมเข้าค่ายครั้งนี้ทำให้ตัวเองได้รู้จักคบคุ้นกับพี่น้องมากขึ้นทำให้ตัวเองกล้านำกิเลสออกมาเปิดเผยและได้ล้างกิเลส รู้สึกอบอุ่นและมีแรงบันดาลใจในการพากเพียร ลด ละ เลิก กิเลสในตัวเอง สาธุ

  6. จิตรา พรหมโคตร

    สาระธรรมที่ได้จากการเข้าค่ายพระไตรปิฏกครั่งที่30 ออนไลด์ ได้ประโยชน์มากจากธรรมะที่อาจารย์บรรยายว่า”ยาที่ดีที่สุดในโลกคือ ความยินดีได้กับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะดีหรือร้ายในด้านเหตุการณ์ สุขภาพ และการสอบสภาวะธรรมอริยสัจสี่ของจิตอาสาที่เข้มข้นกว่าทุกครั้ง การชี้ขุมทรัพย์ที่มีการวิเคราะห์ วิจารณ์ทั้งผู้สอบ ผู้ฟัง มีท่านอาจารย์เมตตาให้คำชี้แนะ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องกินไม่หยุด โดยให้ตั้งศีลให้เหมาะกับฐานจิตของตนเอง ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกโล่งใจทันที แล้วกลับไปตั้งศีลใหม่จากการยึดมั่นถือมั่นในการกินข้าวมื้อเดียวให้ได้ ตั้งใหม่มากิน3มื้อ ผลปรากฏว่าสบายใจขึ้นกินได้2มื้ออย่างไม่ทุกข์

  7. นางบัณฑิตา โฟกท์ แบม มุกแสงธรรม

    สาระธรรมที่ได้จากค่ายพรไตรปิฎกในครั้งนี้
    เป็นการเข้าค่ายออนไลน์ครั้งแรก ทำให้รู้สึกมั่นใจในการเรียนรู้ผ่านออนไลน์และการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารยิ่งๆขึ้นไป และเหมือนได้อยู่กับครูบาอาจารย์และพี่น้องหมู่กลุ่มได้พลังแห่งความอบอุ่นและได้บรรยากาศร่วมไปด้วย โดยเฉพาะช่วงที่มีการสอบสภาวะธรรมของพี่น้อง แล้วท่านอาจารย์อนุญาตให้พี่น้องวิพากษ์ตามภูมิ ซึ่งพี่น้องที่สอบก็เต็มใจและยินให้วิพากษ์ และมีพี่น้องที่ร่วมฟังก็เมตตา กรุณา วิพากษ์และท่านอาจารย์ก็ได้เมตตาให้ธรรมะแก่พี่น้องท่านนั้นๆตามสภาวะธรรม ข้าพเจ้าก็ได้ปัญญาเพิ่มขึ้น เช่น การพิจารณาว่าสภาวะธรรมอะไรเป็นโลกธรรม หรือเป็นอัตตา และการเข้าใจวิบากกรรมคนคู่เป็นต้น ท่านอาจารย์เมตตาอธิบายได้ละเอียดจากพี่น้องที่มาสอบสภาวะธรรม ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ข้าพเจ้าประทับใจอย่างยิ่ง
    บรรยากาศเช่นนี้ข้าพเจ้ากับพี่น้องหมู่กลุ่มพลังศีล(ทีมพี่น้องผู้บำเพ็ญอาสาเยอรมัน -ฝรั่งเศส)ได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนสภาวะธรรมเกือบทุกวันและบางวันก็ทั้งเช้าและเย็น ได้ฝึกเรียนรู้การรับฟังคำวิพากษ์และการวิพากษ์ตามภูมิมาเกือบสองปี พอมาเห็นบรรยากาศที่ท่านอาจารย์หมอเขียวและพี่น้องกมู่กลุ่มทำในค่ายนี้ ทำให้รู้สึกมีพลังและมีกำลังใจเป็นอย่างมาก ที่เราได้ฝึกทำมาก่อนและตรงตามที่ครูบาอาจารย์นำพา และจะร่วมกับพี่น้องหมู่กลุ่มทำต่อไป ทำให้มีความรู้สึกความเคารพและบูชาครูบาอาจารย์และพี่น้องหมู่กลุ่มแน้นแฟ้นกลมเกลียวยิ่งๆขึ้นไป เพราะการที่จะ วิพากษ์หรือรับฟังคำวิพากษ์สภาวะธรรมของพี่น้องได้นั้น ต้องมีความเคารพ ศรัทธาและเมตตาต่อกันมากพอสมควร ซึ่งข้าพเจ้ามีความรู้สึกซาบซึ้งใจในพี่น้องหมู่กลุ่มพลังศีลที่ได้ร่วมฝึกฝนกันและได้มาเห็นบรรยกาศนี้ในค่ายพระไตรปิฎกครั้งนี้ยิ่งมีความมั่นใจและตั้งมั่นที่จะทำต่อไป สาธุค่ะ

  8. นางสาวฐิติมาใหม่สมเด็จ

    เข้าใจเรื่องกรรม อย่างแจ่มแจ้ง ตั้งศีล เพื่อไม่ตามใจ ตนเอง ขัดเกลา เข้าใจเส้นทางที่จะพ้นทุกข์ พากเพียรปฏิบัติ กับหมู่กลุ่ม อยู่กับหมู่ เคารพในส่วนดีเมตตาในส่วนด้อย ไม่เอาแต่ใจตนเอง

  9. ณ้ฐพร คงประเสริฐ

    สาระธรรมที่ได้จากค่ายพระไตรปิฎกครั้งนี้ 30
    ประทับใจตั้งแต่ชื่อรุ่น : “ ความสำเร็จของงาน ไม่ใช่ ความสำเร็จของงาน
    ความสำเร็จของใจ คือ ความสำเร็จของงาน
    วันหน้าไม่รู้ วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กิเลสอย่างรู้เพียร รู้พัก”

    สาระธรรมที่ได้ มีหลายพระสูตรในพระไตรปิฎกที่อาจารย์เมตตานำมาสอนสั่ง ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ได้สัมมาทิฐิ ใจเป็นประธานของสิ่งทั้งปวง ได้ติดตามฟังสาระธรรมจากทางบ้าน แม้ในคราวนี้จะไม่ได้เข้าร่วมค่ายพระไตรปิฎกที่ภูผาฟ้าน้ำ ก็มีการใช้การสื่อสารออนไลน์ที่ทำให้ได้เข้าถึงและมีส่วนร่วมรับฟังเหมือนอยู่ในค่ายไปด้วย ส่วนการทำกิจกรรมร่วมกับหมู่มิตรดีก็ทำกิจกรรมที่สามารถทำได้ผ่านออนไลน์เช่นกัน ศึกษาจากสาระธรรมที่ได้รับ มาพัฒนาจิตวิญญานตน นำมาฝึกฝนสั่งสมซ้ำไปเรื่อย ๆ ประทับใจหลายเรื่อง เช่น อาจารย์ได้กล่าวว่า ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เราก็พากเพียรเพิ่มศีลเข้าไป เพื่อตั้งรับกับปัญหาต่าง ๆที่เข้ามา เรามีหน้าที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเตรียมฝึกฝนปัญญาวุฒิไว้รับมือ ตั้งการด์ไว้ การ์ดอย่าตกก็แล้วกัน มันมาแน่!

    การสอบสภาวธรรม ติดตามการเข้าร่วมกิจกรรมได้ประโยชน์หลายประการ ปีนี้การสอบอริยสัจ 4 ที่แตกต่างและเข้มข้นกว่าทุก ๆ ปี มีการแลกเปลี่ยน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม มีการวิพากษ์ และในตอนท้าย อาจารย์ก็ ให้สัมมาทิฐิ ดึงประเด็นความติดยึดได้คมกริบ ให้วิชชาดับทุกข์เป็นแบบรายบุคคลกันเลยทีเดียว เป็นรางวัลของนักบำเพ็ญจริง ๆ ทำให้ได้ประโยช์ ร่วมสังเคราะห์ไปด้วย ในหลากหลายประเด็น ฝึกการประมาณ เข้าใจในฐานจิตของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ลงไปถึงแต่ละเรื่อง ๆ ที่ติดยึด หนา หนัก เบาบาง จางคลาย แตกต่างกัน ทำให้เราเข้าใจผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น เมตตาเขาได้มากขึ้น

    กลับมามองที่ตนเองในส่วนที่เรายังมีกิเลสเหลืออยู่ ทำให้ชัดเจนในแนวทางเดินมรรคมากขึ้น เชื่อมั่นในเรื่องกรรมชัดขึ้น ทุกชีวิตมีกรรมเป็นของ ๆ ตน และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พากเพียรที่เรา เข้าใจผู้อื่น ปฏิบัติกิจกรรมคิด พูด ทำ อย่างสำรวมและหมั่นทบทวนธรรมเรื่อยไปค่ะ

    ต้อม-ร้อยรักธรรม

  10. นางจิราภรณ์ ทองคู่

    ค่ายพระไตรปิฎกครั้งพี่ 30 พระไตรปิฎกพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 ข้อที่ 161 อาฆาตวิริยะ สูตรที่หนึ่ง ธรรมเป็นที่ระงับความอาฆาตธรรม 5 ประการมีดังนี้
    1. ความชิงชังรังเกียจเกิดในบุคคลใด ควรเมตตาในบุคคลนั้นจะเป็นกุศลต่อชีวิตเราและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นให้ปรารถนาดีต่อเขา ให้เขาคิดดี คิดถูกได้เร็วๆ ขอให้เขาเข้าใจความจริงได้เร็วๆ
    2. กรุณาลงมือกระทำให้เกิดประโยชน์ต่อเขา ให้เขาเข้าใจธรรมะ บอกหรือทำตัวอย่างที่ดีให้เขาดู
    3. อุเบกขา เจริญอุเบกขาปล่อยวางเขาจะเอาไปใช้ตอนไหนก็แล้วแต่เขาเราไม่ได้มุ่งร้าย มุ่งร้ายเป็นการเบียดเบียนเมื่อทุกข์เกินทนเขาจะเลิกทำสิ่งนั้น
    4. เมื่อได้ทำเต็มที่ก็ปล่อยวางไม่ต้องไปเสียพลังอีกอย่าไปยึดมั่นถือมั่นในเหลี่ยมไหนอีก วางให้เกลี้ยงเมื่อได้พยายามช่วยเหลือให้เต็มที่แล้ว
    5. ต้องเข้าใจเรื่องกรรมอย่างแจ่มแจ้ง ความอาฆาตแมีมีในบุคคลใดหรือสิ่งใดๆ มันไม่ยินดี มันไม่แช่มชื่น ตรวจในจิตของตนเองได้ เพียงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน ส่วนคนอื่นเค้าก็มีกรรมของเขาเป็นกรรมของเขาทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากกรรม

  11. นางสาวสุพัชชญา ทองเปรม รหัสศึกษา6314009002

    สาระธรรม จากค่ายพระไตรปิฎก รุ่น 30
    โศลก อจ.หมอ คือ ความสำเร็จของงาน ไม่ใช่ความสำเร็จของงาน
    *** ความสำเร็จของใจ คือ ความสำเร็จของงาน
    สาระธรรม ที่ได้ คือ
    1. วิริยะบารมี เพิ่มมากขึ้นได้..จากความเมตตาของ อจ.หมอและพี่น้องจิตอาสา (พลังชีวิตเกิดได้จากกำลังใจและน้ำใจ จากพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้อง
    2. ปัญญา เปิดทุกวัน 04.00 น. กับวิทยาธรรมเป็นทาน จากความตั้งใจ ของครูใหญ่ ค่ะ

    +++ วันหน้าไม่รู้ วันนี้สู้ไม่ถอย +++
    +++ ล้างกิเลสให้เป็น..เพื่อร่วมเข็นกงล้อธรรมจักร ร่วมกับทุกคนค่ะ +++

  12. สมพงษ์ โขงรัมย์

    ได้เข้าใจเรื่องตัวยึดงานจนลืมธรรมะำม่เอาหมู่แล้วก็ได้ล้างกิ้ลสตัวอัตตาไม่อยากฟังธรรมะซ้ำๆ(มารแซรก)ก็คือตัวใจร้อนอยากรู้มากๆแม้ทางนี้พยามารยังลวงให้กลงรีบๆใจร้อนไม่อยากฟังธรรมะวนเรื่องเก่าๆ

  13. พรพิทย์ สามสี

    ในค่ายพระไตรปีฏกหลายๆค่ายเราได้พูดถึงเรื่องชีวิตคนคู่
    มาค่ายรุ่น ความสำเร็จของงานไม่ใช่ความสำเร็จความสำเร็จของงาน ความสำเร็จของใจคือความสำเร็จของงาน วันหน้าไม่รู้วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กับกิเลสอย่างรู้เพียรรู้พัก
    มาค่ายนี้เราก็ได้ออกไปพูดสภาวธรรมอริสัจสี่เรื่องคนคู่อีกว่าสารพัดทุกข์สารพัดเรื่องทุกข์จริงๆเรื่องครัวครอบ(คนคู่)
    แต่พอจบค่ายพระไตรปีฏกได้เดินทางกลับมาบ้าน และได้ป๋วยเป็นไข้อาการใช้ได้ป๋วยอยู่หลายวัน หลังจากอาการป๋วยทุเลาลงก็เพิ่มศืลยิ่งขึ้น ทำให้จิตวิณญาณผาสุข เรื่องที่เคยทุกข์กับคนคู่ก็มีเหลือแค่หน่อยเดียว มหัศจรรย์จริงไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนธรรมมะของพุทธะนี้สุดยอดจริง กราบคารวะท่านอาจารย์หมอเขียวที่ให้แสงธรรมให้ชีวิตใหม่แก่เรา

    1. พรพิทย์ สามสี

      เมื่อก่อนสมัยแม่สามียังมีชีวิตอยู่(ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว)แม่สามีก็ไม่ค่อยชอบเราท่านเกลียดเรามากที่สุดแต่ก่อนท่านจะสิ้นใจท่านยอมรับเรา สามีกับเราก็ไม่กินเส้นกัน เรียกว่าเป็นคู่เวรคู่กรรมอย่างหนัก และมีอีกคนที่เกลียดเรามากเหมือนกันคือไม่ชอบเราตั้งแต่เราเราเป็นแฟนกับสามี มาวันนี้น้องสามีมาบ้านมาหาพี่ชายเขาปรกติถ้าเขามาบ้านถ้าเราไม่อยู่บ้านเขาก็จะมานั่งคุยในบริเวณบ้าน แต่วันนี้น้องสามีเห็นเราอยู่บ้านเขาไม่เข้ามาในบริเวณบ้านจอดมอเตอร์ไซด์ไว้ริมรั้วแล้วพี่ชายก็ออกไปคุยกันข้างนอกคุยกันเหมือนมีความลับ
      ทุกข์ # เขาเอานิสัยเดิมๆมาใช้
      สมุทัย # ชอบที่จะน้องสามีไม่ทำตัวแบบเดิมๆเหมือนที่ผ่านๆมาชังที่ไม่ยอมเปลี่ยนนิสัย
      นิโรธ # เขาจะทำตัวยังไงก็ได้จะคุยเรื่องอะไรก็ได้ใจเราไร้ทุกข์ไร้กังวล
      มรรค # ที่เขา 3 คน แม่ยาย สามี น้องสามี ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนั่นคือเงาของเรา เราทำมา โชคดีอีกแล้วร้ายหมดอีกแล้ว เราต้องรู้ว่า แต่ละคนมีฐานจิตแตกต่างกัน
      เราจึงควรประมาณการกระทำ ให้เหมาะสมกับฐานจิตของเรา
      และฐานจิตของผู้อื่น คิดดี พูดดี ทำดีไว้ก่อน ดีที่สุด
      ทำดีเรื่อยไป ไม่ถือสา อดทนรอคอยให้อภัยใจเย็นข้ามชาติ
      เบิกบานแจ่มใสไร้ทุกข์ไร้กังวลอย่างเป็นอมตะธรรม

Comments are closed.