630913 การบ้าน ความจริงและความลวง (3/2563)
นักศึกษาสถาบันวิชชารามส่งการบ้าน ความจริงและความลวง ประจำวันที่ 7 -13 กันยายน 2563 (อ่านที่มาและรายละเอียดเพิ่มเติมของการบ้าน)
สรุปผู้ส่งการบ้านในสัปดาห์นี้รวม 4 ท่าน
630913 การบ้าน ความจริงและความลวง (3/2563)
นักศึกษาสถาบันวิชชารามส่งการบ้าน ความจริงและความลวง ประจำวันที่ 7 -13 กันยายน 2563 (อ่านที่มาและรายละเอียดเพิ่มเติมของการบ้าน)
สรุปผู้ส่งการบ้านในสัปดาห์นี้รวม 4 ท่าน
ชื่อเรื่อง : ขนมตาล
เนื้อเรื่อง : วันหนึ่งขับรถเข้าไปทำธุระในตลาดสด ในใจไม่คิดที่จะซื้ออะไรเลยนะ ตอนเดินผ่านตลาด ตาเจ้ากรรมดันไปมองเห็นขนมตาลในถาดที่แม่ค้าวางขาย มีควันคลุ้งสีเหลืองทองมีมะพร้าวขูดโรยหน้าบ่งบอกว่าเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ สีสันมันน่ากินมากๆเลย น่าอร่อย เท้าเดินเข้าไปใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอมของขนมตาลอีก ปากบอกแม่ค้าทันที ขนมตาล 20 บาท คิดทีจะเอาไปกินที่บ้าน พอขับรถมาได้ครึ่งทาง กลิ่นขนมตาลโชยเข้ามาในจมูก มือก็เอื้อมไปหยิบขนมตาลทันที กำลังจะเข้าปาก มันแว๊บเข้ามาในความคิดว่ามันไม่ใช่เวลา แค่นี้วางขนมตาลเลย โดยไม่ห่วงหาอาลัยอาวรณ์ ขนมตาลอีกเลย สรุปคือ ไม่กินขนมตาลตอนขับรถ
ผัสสะ : ตามองเห็นขนมตาม จมูกได้กลิ่นขนมตาล
ความลวง : คิดว่านมตาลสีเหลืองทองมีมะพร้าวขูดโรยหน้ามีควันคลุ้งเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ มีกลิ่นหอมน่ากินมากน่าอร่อย (ชอบใจอยากกิน)
ความจริง : ขนมตาลก็เป็นเพียงแป้ง+ลูกตาล+นำตาล+กะทิ+เกลือ แล้วเอามาผสมกันแล้วเอาไปนึ่งให้สุกแค่นี้เอง เรียว่าขนมตาล รสชาติก็หวานมันเค็มผสมกันแค่นั่น คือการรับรู้ความจริงตามความเป็นจริง ไม่มีรสอร่อยเลย(สร้างขึ้นมาแล้วยึด=กิเลส)
ชื่อเรื่อง : ขายน้ำสมุนไพร
เนื้อเรื่อง : ทำน้ำสมุนไพรย่านางไปขายที่ตลาดสด เราสามารถเอารถซาเล้งเข้าไปจอดในจุดที่ขายหน้าตลาดได้ ไม่ปัญหาอะไร แต่ในไม่กีเดือนมานี้เจ้าของตลาดปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ ให้เอารถไปจอดไว้หลังตลาด แล้วเราขายของหน้าตลาดซึ่งมันไกลมาก ของเราเยอะและหนักมาก เข้าไปคุยกับเจ้าของตลาดว่่าเราขอทำแบบเดิมได้ไหมยกเว้นเราคนหนึ่งได้ไหม? เจ้าของไม่ยอมและทำท่าทางไม่พอใจเราอีก โอ้โห๋ !! ข้างในใจเรานะมีอาการขึ้นมาเลย ความขุ่นเคืองใจไม่พอใจเห็นเลยว่าใจเราคิดไม่ดีกับเจ้าของตลาด ถ้าไม่ขายก็ไม่มีรายได้ก็ต้องไปขายด้วยความไม่พอใจเจ้าของตลาดพอมาฟัง อ.หมอเขียวบรรยายว่า ความขุ่นเคืองใจ ความไม่ได้ดั่งใจ มันเป็นกิเลส เป็นเหตุแห่งทุกข์ มันไมีมีจริงหรอก มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันไม่มีตัวตน แล้วในบททบทวนธรรม ไม่มีสิ่งใดที่เราได้รับโดยที่เราไม่เคยทำมา เราต้องทำมาก่อนแน่ๆเลย พอคิดได้ดังนี้นะ ใจเราก็ผ่อนคลายความขุ่นเคืองใจ เจ้าของตลาดและมีใจให้อภัยเขา ใจเรานี้โล่งเลยเบาสบายมาก ผ่องใสไร้กังวลเลย
ผัสสะ : การที่ไปคุยกับเจ้าของตลาดแล้วเขาไม่ยอมให้ตามที่ขอแล้วมีท่าทางไม่พอใจ
ความลวง : อาการขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ ใจที่คิดไม่ดีต่อเจ้าของตลาดไม่ชอบใจเขา
ความจริง : เจ้าของตลาดจะไม่ยอม ไม่พอใจมันเป็นเรื่องของเจ้าของตลาดไม่ใช่เรื่องของเรา แล้วใจเราที่ไปขุ่นเคืองใจไม่พอใจ คิดไม่ดีต่อเขา ซึ่งไม่ได้ดั่งใจเรามันเป็นกิเลส ที่เราต้องกำจัดมันให้ได้ เราต้องขอบคุณเจ้าของตลาดที่เป็ผัสสะทำให้เรารู้ว่าเรายังมีกิเลสตัวนนี้อยู่ เพื่อที่จะกำจัดกิเลสตัวนี้ออกไปจากจิตวิญญานเราให้ได้ด้วยไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา )
ความจริงและความลวง
เรื่องมีอยู่ว่า หลายปีก่อนเดินทางไป อยุธยา วัดใหญ่ฯ (หลายคนคงรู้จัก) วันนั้นบังเอิญตรงกับวัดฉลอง 400 ปี รบชนะพม่า พอไหว้พระประธานในโบสถ์เรียบร้อย มายืนหน้าโบสถ์ อยู่ก็ร้องไห้ ออกมาและเห็นภาพคนกลุ่มใหญ่..กำลังสวดมนต์กันอยู่บริเวณโดยรอบหน้าโบสถ์ แต่ภาพที่ เกิดขึ้นตอนนั้นในห้วงคิดเป็น ลานดินโล่งแจ้ง และอารมณ์ตอนนั้น คือ รู้สึก คิดถึงและผูกพันธ์กับคนกลุ่มใหญ่ ที่กำลังสวดมนต์ มาก เหมือนคนเรานั้นเป็นเพื่อนที่รักกันมาก
ผัสสะ : อายตนะภายใน กระทบต่อ ภาพภายนอกทำให้เกิดความรู้สึกสัญญาเดิมๆ ที่เคยมีเหตุปัจจัยร่วมกันมา..เกิดธรรมมารมณ์ความรู้สึกเศร้า นิวรณ์5 (รักและผูกพัน..)
ความลวง : ภาพเกิดขึ้นจากผัสสะ อายตนะภายในกระทบ ทำให้ เกิดการปรุงแต่งของมโนวิญญาณ ใหเกิดกิเลส อารมณ์เศร้าเสียใจในรักผูกพัน กับเรื่องราวใน อดีต
ความจริง : ความไม่เที่ยง คือ เรื่องจริง ให้เราอยู่กับ ปัจจุบัน ดึงสติ กลับมา และไม่ไปยึดติดกับภาพลวงตาใดๆ ปัจจุบัน เราคือ ผู้หญิงคนนึง ที่ได้มาวัดนี้ เพื่อไหว้พระเป็นสิริมงคล เพื่อสะสมบุญบารมีต่อไป) มิใช่มายึดติดกับความรักผูกพันธ์ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งนั้น..เพราะอุปสรรคนี้ คือ กิเลสที่จะขวางทางแห่งปัญญาทางธรรม
และหากหลงไปยึดมั่นถือมั่น กับสิ่งปรุงแต่งนี้..และกลงคิดว่า เป็นความวิเศษ คิดว่าเป็น อภิญญา ก็จะยิ่งทำให้หาทางหลุดพ้นมิได้..นั่นมิใช่ธรรมะ
สรุป : ความลวง : การปรุงแต่งที่สัญญาเดิมเกิดขึ้นในมโนวิญญาณ เจอผัสสะ จึงเกิดอารมณ์ความรู้สึก เศร้าคิดถึง
ความจริง : สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นวิบากและเหตุปัจจัย ที่เคยเกิดขึ้น จะจริงหรือไม่จริงก็ได้ ฉะนั้น ให้เรามีสติอยู่กับปัจจุบัน เรา คือ ผู้หญิงที่กำลังไปไหว้พระ สร้างบุญบารมี และจะไม่ยึดมั่นในสิ่งที่เป็น สิ่งที่อยู่ภายนอก กระทบเข้ามาจนเกิดผัสสะเศร้ารักคิดถึง..(ให้เราอยู่กับ ปัจจุบัน อย่างมีสติ..จิตสงบ)
Comments are closed.