630823 การบ้านอริยสัจ (2/2563)
นักศึกษาสถาบันวิชชารามส่งการบ้าน อริยสัจ 4 ประจำวันที่ 17 – 23 สิงหาคม 2563 (อ่านที่มาและรายละเอียดเพิ่มเติมของการบ้าน)
รวมผู้ส่งการบ้านในสัปดาห์นี้ 6 ท่าน
- ม
630823 การบ้านอริยสัจ (2/2563)
นักศึกษาสถาบันวิชชารามส่งการบ้าน อริยสัจ 4 ประจำวันที่ 17 – 23 สิงหาคม 2563 (อ่านที่มาและรายละเอียดเพิ่มเติมของการบ้าน)
รวมผู้ส่งการบ้านในสัปดาห์นี้ 6 ท่าน
ชื่อเรื่อง: พิษปะทุหายสักทีเถิด
หลังจากเสพของหวานมาเป็นเวลาติดต่อกันเป็นเดือน เพราะเครียดเรื่องการวางใจเรื่องงาน คน จึงไปลงเรื่องกิน แต่อยากกินของหวานเยอะๆ เพราะเสพติด แต่ไม่อยากป่วย และพิษปะทุจากทางใจกายเต็มขา นอนแล้วเจ็บแสบมาก นอนหลับไปตื่นๆ
ทุกข์ – มีอาการเจ็บแสบแผลพิษปะทุ
สมุทัย – อยากให้พิษปะทุหายเร็วๆ
นิโรธ – ยินดี พอใจ ไร้กังวล แผลพิษปะทุจะหายหรือไม่หาย ตอนไหนก็ได้ รับเต็มๆหมดเต็มๆ โชคดีอีกแล้ว ร้ายหมดไปอีกแล้ว
มรรค – พิจารณากิเลสที่มีแต่ทำร้ายเรา ไม่เคยรักเราจริงๆ หลอกตัวเองเก่งมาก ว่ากินพิษไป วางใจดีๆ เดี๋ยวก็หาย โง่ซ่อนโง่ ถ้าคิดจะทำชั่ว กินของพิษทำร้ายร่างกาย ก็ต้องกล้าไปแน่ๆรับโทษสิ ว่ามันต้องแสบปวด เสพกิเลสเหนี่ยวนำผู้อื่น ตกเป็นทาสกิเลส ก็ต้องรีบแบบสาสมสิ ถ้าไม่สู้ตั้งศีล ก็โง่ก็ทุกข์ต่อไป
เรื่อง น้อยใจ
เรื่องมีอยู่ว่าคนในครอบครัวจะเอาของของไปทิ้งซึ่งของชิ้นนั้นเป็นของใหม่ไม่เคยใช้งานเลยแต่เจ้าตัวไม่ได้ใช้เราบอกว่าให้เก็บไว้ก่อนเขาบอกว่าถามหลานแล้วไม่มือใครเอาเราก็ว่าเอาไว้ให้คนอื่นก็ได้แต่เขากลับตะคอกใส่เรา เรารู้สึกน้อยใจมาก
ทุกข์ : น้อยใจ
สมุทัย : ยึดดีอยากให้คนในครอบครัวพูดดีกับเรา เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ถูกใจเรา ก็ทำให้เกิดอาการน้อยใจ
นิโรธ: คนในครอบครัวจะพูดดีหรือไม่ดีกับเรา เราก็ไม่ควรน้อยใจและคิดมาก
มรรค : ทำใจยอมรับคำพูดของคนในครอบครัวไม่ว่าจะดีหรือร้าย เพราะไม่มีสิ่งใดที่เราได้รับโดยที่เราไม่เคยทำมา รับแล้ววิบากร้ายก็หมดไปเราก็จะโชคดีขึ้น
เรื่อง ตบะแตก
เรื่องมีอยู่ว่า ได้ตั้งตบะในวันเข้าพรรษาว่า จะไม่กินขนมทุกชนิดตลอดเข้าพรรษา มีอยู่วันหนึ่ง ญาติได้ซื้อลูกตาลมาฝาก โดยที่เราไม่รู้มาก่อนว่า ลูกตาลที่นำมาฝาก เป็นลูกตาลที่ใส่น้ำตาลแล้ว มันจึงกลายเป็นขนมลูกตาล กิเลสมันก็บอกว่า ล้มแล้วก็กินให้หมดแล้วค่อยตั้งใหม่ เราก็ล้มตบะกินขนมลูกตาลจนหมดถ้วย
ทุกข์ ไม่สบายใจ
สมุทัย ยึดดี ไม่ยอมวางดี ตีตัวเอง คร่ำครวญว่าไม่น่าล้มเลย อุตส่าห์ทำมาได้ตั้งเดือนกว่า แต่กินแล้วมันก็รู้สึกมีอาการ หวานเย็นกรอบมันชื่นใจ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สบายใจอยู่ดี
นิโรธ ไม่ชอบไม่ชัง ตบะแตกหรือไม่แตก เราก็ไม่ทุกข์ใจ
มรรค ทำผิดแล้วต้องยอมรับผิด ไม่หวั่นไหวกับความจริงที่เกิดขึ้น แล้วสำนึกผิดหรือยอมรับผิด ขอโทษหรือเต็มใจรับโทษ แล้วเริ่มต้นใหม่ เพราะไม่มีใครไม่เคยทำผิด ทุกคนเคยทำผิดมาทั้งนั้น หยุดชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส ล้มแล้วลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ทุกๆครั้งไป
งานที่คั่งค้าง
ช่วงนี้มีงานตกค้างเยอะไปหมด แต่ละงานก็ทำไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำทิ้งไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทั้งนั้น ด้วยเหตุของฝนก็ตาม ความไม่เหมาะสมของช่วงเวลาก็ตาม ส่วนหนึ่งก็มาจากงานออนไลน์ที่มักจะมาโดยไม่ได้วางแผน ก็ถือเป็นโจทย์ที่กระตุกต่อมยึดมั่นถือมั่นได้ดี บางวันก็วางแผนว่าจะทำนั่นนู่นนี่ พองานที่มันสำคัญกว่าเข้า มันก็ต้องวางงานเดิมที่วางแผนไว้ ก็ต้องจัดลำดับความสำคัญ จิตวิญญาณมันก็มาก่อน ส่วนงานทำสวนก็ปล่อยรกไปก่อนก็ได้
ทุกข์ : ความฟุ้งซ่าน จากความหลากหลายของงานที่ค้างหลายอย่าง
สมุทัย : อยากให้มันเสร็จสมบูรณ์ไปเสียทุกอย่าง ไม่อยู่กับปัจจุบันที่ทำได้ทีละไม่กี่อย่าง แล้วก็อย่างละนิดละหน่อย
นิโรธ : วางความสมบูรณ์ที่จะต้องทำให้เสร็จเป็นชุด ๆ ที่ทำให้ขัดความแววไวต่อการปรับเปลี่ยนงาน
มรรค : หัดทำงานหลายงานพร้อม ๆ กันในหนึ่งวัน แล้วปรับไปมาให้ได้ไว ไม่ยึดติด เพราะเวลาใจมันไปยึดงานใดงานหนึ่ง แล้วองค์ประกอบมันเปลี่ยน จะทำให้เกิดความหนืดในการปรับงาน ส่วนหนึ่งเพราะเสียเวลากับการคิดฟุ้งไปนั่นไปนี่ ตั้งอธิศีลไว้ว่าจะสร้างความ “มุทุ” แววไวในจิตตัวเองให้มากขึ้น เพราะรู้สึกว่ามันมีความหนืด ความช้า ที่ทำให้เสียประโยชน์ในแต่ละวันไป
เรื่อง หงุดหงิด
ภายในสัปดาห์นี้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมญาติในวงสนทนาญาติได้พูดให้ฟังหลายเรื่องเช่นเรื่องการเมือง ผู้นำ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วงศาคณาญาติ ฯลฯ แต่เป็นเรื่องในอดีตที่ไม่อาจย้อนกลับมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้เลยที่สำคัญทุกเรื่องเป็นด้านลบทั้งนั้น ตัวเองรู้และเข้าใจได้ดีแต่ไม่สามารถอธิบายให้ญาติเข้าใจได้จึงได้แต่นิ่งเฉยปล่อยให้ญาติพูดจนจบการสนทนา
ทุกข์:หงุดหงิด
สมุทัย:ไม่ชอบที่ญาติพูดเรื่องต่างๆที่เป็นด้านลบในอดีตที่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้ให้ฟัง
นิโรธ:ญาติจะพูดอย่างไรเป็นสิทธิของเขา เรื่องที่เขาพูดจะดีหรือไม่ดีเราก็ไม่หงุดหงิด
มรรค:ยินดี เต็มใจ รับฟังในเรื่องที่ญาติคพูดด้วยใจที่สงบ ไม่ถือสา ไม่เพ่งโทษ เพราะเข้าใจเรื่องอย่างแจ่มแจ้งว่าเมื่อเกิดสิ่งเลวร้ายกับเรา ไม่มีอะไรบังเอิญ ทุกอย่างยุติธรรมเสมอ เพราะเราเคยทำเช่นนั้นมามากกว่านั้น เมื่อได้รับแล้วก็หมดไปเราก็จะโชคดีขึ้น
Comments are closed.