กลุ่ม รวงข้าว ได้พากเพียร รวมพลังฝึกงานเขียน ทุกสัปดาห์ ที่คุรุได้สอนไป หมู่เห็นว่าควรนำมาส่งคุรุ ขออนุญาต นำผลงานนักศึกษา นำส่งคุรุค่ะ
ผลงานสัปดาห์ที่ 5
630120 สภาวธรรม พี่น้องทีม รวงข้าว
หลังสัปดาห์การเรียนรู้ Content admin ครั้งที่ 5
คุรุตรวจการบ้านส่งมาเมื่อคืนในห้อง admin ค่ะ
*รวงข้าว*
*รูป*
•ขนาดรูปไม่ได้ลดมา ไม่ได้ทำมาพร้อมสำหรับ upload
•ให้ศึกษาการ save for web เพิ่มเติมด้วย
•การ rename ระหว่างชื่อคน ไม่ใช้ spacebar ช่องว่างทั้งหมดจะใช้ –
•มี spacebar ปะปนกับ – ทำให้แก้งานยากขึ้น
•ชื่อไฟล์รูปไม่ต้องใส่ชื่อเล่น/ชื่อทางธรรม ให้ใส่เป็น ชื่อ(title เท่าที่เป็น key หลัก เช่นประโยคแรก ไม่ต้องใส่ประโยคสร้อย ในชื่อภาพ)+(ชื่อ-นามสกุล นักศึกษา)
•ภาพที่มืดไป ให้ใช้โปรแกรมแต่งภาพ ปรับแสงช่วย
*Edit*
•ชื่อใน title ใส่แค่ชื่อ – นามสกุล ชื่ออื่น ๆ ให้ยกไปในส่วนของเนื้อหา
•เคาะเว้น หน้าหลัง :
•ตรวจสอบบรรทัดเปล่าหลังจบเนื้อหา ให้กด back space ให้หดหน้ากลับมาให้พอดีกับเนื้อหา
•Tag ให้แยกตามคำสำคัญ ไม่ต้องพิมพ์ไปทั้งเมนู เช่น น้ำพริกมะเขือม่วง ให้แยกเป็น น้ำพริก, มะเขือม่วง
•หมวดงานรีวิว ให้ศึกษา tag จากตัวอย่างก่อน ๆ จะมี tag สำคัญเช่น รีวิวหนังสือโสดดี… ให้พิมพ์คำว่า รีวิว แล้วจะขึ้นตัวอย่าง tag มา ให้เลือกที่มี ไม่ต้องพิมพ์เพิ่ม
•ควบคุมความยาว slug ดูจะเกินไปบ่อย ๆ
•Title ตั้งให้เป็นภาษาธรรมชาติ ให้พิมพ์แบบทั่วไป แยกคำใช้เฉพาะส่วน slug กับการ rename ไฟล์รูป
สภาวธรรมที่ได้จากการทำงานกลุ่ม แล้วคุรุตรวจงานไปแล้วรู้สึกอย่างไร เป็นการฝึกงานเขียนที่คุรุสอนไปในตัว คนละอย่างน้อย 3-5 บรรทัดขึ้นไปค่ะ
1. อรวิภา กรฟฟิธส์ (อร)อายุ 52 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ-อาศัยอยู่ ประเทศ ออสเตรเลีย
สภาวธรรม : สภาวธรรม
หลังจากที่คุรุได้ตรวจงาน ตัวเองก็เห็นข้อบกพร่องของตนเองเช่นการเว้นวรรค ที่ทำให้ง่ายต่อผู้อ่าน ก็คิดว่าจะนำมาปรับปรุง แก้ไขในงานต่อไป ส่วนเรื่อง ps ตนเองก็ไม่มีความรู้แต่คิดว่าพี่น้องที่ทำในส่วนนี้ท่านก็คงนำมาพิจารณาปรับปรุงให้ได้ดังที่คุรุต้องการ สำหรับตนเองแล้วการได้รับคำติเป็นการชี้ทางพัฒนาตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์และมีคุณค่า ก็ขอขอบคุณคุรุทุกท่านที่เมตตากลุ่มรวงข้าวค่ะ สาธุค่ะ
2. ศิริพร คำวงษ์ศรี (หมู) อายุ ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 9 จ.สุพรรณบุรี อาศัยอยู่ กทม
สภาวธรรม หลังจากที่คุรุตรวจงาน
ถ้าเรื่องการติเตือนให้แก้ไขไม่มีปัญหาเลยค่ะ เข้าใจตามหมู่กลุ่ม แต่จะเป็นเรื่องเดิมๆที่เคยประจานกิเลสให้พี่น้องฟัง คือ เรื่องการทำรายละเอียดเรื่องภาพ ความสวยงาม หรือ อะไรที่เกี่ยวกับเนื้อหา ก็ยังมีคันๆ เพราะมีกิเลสติดสวยงาม ชอบดูอะไรสวยๆ แต่ไม่ชอบทำ พุทธะบอกว่า ถ้ามันไม่สวย จะทำให้คนสนใจได้อย่างไร ให้เน้นเอาประโยชน์ หมู่ก็เห็นดีด้วย อันนี้ คือ มติจากพระพุทธเจ้า ตัวยึดอยากให้เอาแก่นอย่างเดียว ทั้งๆที่ยังชอบดูความสวยงาม มันยังแย้นแย้งในจิตอยู่ มันสะสมมาเยอะ มันยังโง่ แต่ก็จะคอยให้ปัญญาไปเรื่อยๆ ใจเย็นข้ามชาติค่ะ
3. ประคอง เก็บนาค (คอง)อายุ ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 8 ภาคเหนือ อาศัยอยู่จ.เชียงราย
สภาวธรรมในการร่วมบำเพ็ญทำงานแอดมินฝึกหัด ส่งบทความขึ้นเว็บไซต์วิชชาราม กับพี่น้องในกลุ่มรวงข้าว มีความรู้สึกเบิกบาน ยินดี สนุกกับงานรูปแบบใหม่ หลายงานที่เคยคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก ไม่ยินดีทำ เช่น การทำอาหาร เพราะเราก็ทำอาหารแบบมีวัตถุดิบอะไรในสวน ในตู้เย็นก็จับโยน ๆ ใส่กระทะ ใส่หม้อ ปรุงรสด้วยดอกเกลือย่างเดียว จบเป็นเมนู ๆ ไป แต่พอได้ลองทำ ลองส่ง ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น คือ รู้สึกยินดี สนุก และได้พัฒนาตนเองให้มีความเพียรพยายามในการพัฒนาผลงาน อีกทั้งได้ล้างอัตตา กิเลสที่ยังคงเห็นได้ว่าตัวเองยังคงมีอยู่ แม้ตอนที่คุรุให้ความเมตตาติชม และเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงข้อพร่องต่าง ๆ ของงาน ก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจ หรือไม่พอใจใด ๆ หากแต่วางใจน้อมรับทุกคำแนะนำ เพื่อจะได้นำไปพัฒนาผลงานให้เรียบร้อยและดีขึ้นต่อไป ขอบคุณพี่น้องหมู่มิตรดีในกลุ่มรวงข้าวที่ให้โอกาสในการบำเพ็ญร่วมกันค่ะ หากการกระทำใด ๆ ที่ไปกระทบหรือทำให้อึดอัด ไม่สบายใจก็ต้องขออภัย และขอปวารณาตนเองให้พี่น้องช่วยติเตียน ขัดเกลาตรง ๆ ได้โดยไม่ต้องเกรงใจนะคะ อนุโมทนาด้วยกับทุก ๆ ท่านค่ะ สาธุ…
4. ณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) ร้อยรักธรรม อายุ 53 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ กทม
หลังจากเข้าร่วมเรียนรู้เรื่องการทำงาน Content admin มาได้ 3 สัปดาห์ คุรุก็เริ่มให้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม และคุรุก็จะมีวิธีการจัดกลุ่ม จัดกลุ่มได้ 3 ทีม คือ ทีมตะวัน ทุ่งนา และรวงข้าว เราก็พร้อมร่วมทำตามกำลัง ได้มาอยู่ร่วมทำงานกับพี่น้องทีม “รวงข้าว” เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ย้อนระลึกถึงในตอนแรกที่แบ่งกลุ่ม รู้สึกมีอาการตื่นเต้นขึ้นมาในใจ เมื่อได้ยินคุรุบอกให้มาทำหน้าที่นำกลุ่ม รวงข้าว ในการมาทำงานร่วมกัน มาพิจารณาดูว่าตื่นเต้นเพราะอะไร พบว่ามีความกังวลจากความยึดดี ที่ยังหลงเหลืออยู่ในแง่มุมนี้ มีภาพเดิม ๆ เมื่อสมัยที่เคยทำงานถูกกำหนดเป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว แล้วเราก็พยามพาทีมทำงานจนถึงเป้าหมายที่เขากำหนดมาซ้ำๆไม่รู้กี่ครั้ง อาการนี้ผุดขึ้นมา
จึงมาพิจารณาถึงความเป็นจริงในปัจจุบัน การมาเป็นจิตอาสาของพวกเรา คนละโลกเดียวกันกับที่ผ่านมา เรามาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันด้วยความสมัครใจ ด้วยความยินดี และทำตามกำลัง ไม่มีค่าตอบแทนใด ๆ ไม่ใช่เรื่องเดิมอีกต่อไป นี่เรื่องใหม่ที่ผู้มีศีลกำลังมารวมกันเพื่อทำกิจกรรมที่ดี เป็นงานเผยแพร่ธรรมะที่ท่านอาจารย์หมอเขียวได้น้อมนำมาจากพระพุทธเจ้า เราต่างมาเป็นนักปฏิบัติธรรม ฝึกฝนลดกิเลสในตนเองด้วยการพากันทำกิจกรรมการงานที่มีประโยชน์ร่วมกัน การกำหนดเป้าหมายก็เป็นสมมุติสัจจะที่หมู่กำหนดหมายร่วมกัน ด้วยความยินดี เต็มใจรับ และทำกิจกรรมร่วมกัน ตามกำลัง เท่าที่ทำได้
เมื่อฟ้าเปิดและเราก็อยู่ท่ามกลางมิตรดี ทำให้บรรยากาศการทำงานผ่านไปด้วยใจผาสุก สนุกกับการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ แม้ท่ามกลางปัญหาที่พบเจอ เราก็ไม่หวั่นไหวมีแต่น้อมนำมาแก้ไขที่ตน คิดดี พูดดี ทำดี ต่อกัน เมื่อทำเต็มที่แล้ว อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วทุกอย่างก็ผ่านไป
เมื่อร่วมงานกันแล้ว ได้เห็นความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เห็นพลังความตั้งใจของพี่น้องในกลุ่มรวงข้าว พากันสร้างผลงานด้วยตนเอง ช่วยงานกันตามความถนัด พร้อมเพียงมาอปริหานิยธรรมกันตามกำลัง ประทับใจกับสภาพดี ๆ ที่เกิดขึ้น แม้สภาพดีที่เกิดขึ้นมันก็ต้องผ่านไปเช่นกัน ผลงานที่ได้จำนวนทะลุเกินเป้าหมายไปเลย ส่วนคุณภาพยังมีจุดพร่องมีพลาดอยู่บ้าง เราก็ไม่รู้สึกทุกข์อะไร พร้อมน้อมรับ พร้อมนำมาปรับปรุง พร้อมเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฝึกฝนไป เท่าที่ทำได้ วันหน้าไม่รู้ แต่วันนี้สู้ไม่ถอย สู้กิเลสอย่างรู้เพียรรู้พัก เย้!
ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่ได้มาพบเจอกัน เคารพศรัทธากัน ปวารณาตัวให้บอกกล่าวกันและกันได้ พากเพียรเสนอดีสลายอัตตากันไป เจริญธรรม สำนึกดี มีอภัย ไปมีศีล มามีศีล สาธุค่ะ
5. พรพรรณ เอ็ทสเลอร์ (พร) อายุ 48 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ-อาศัยอยู่ ประเทศ เยอรมนี
สภาวะธรรมหลังจากที่คุรุได้ตรวจการบ้านกลุ่มรวงข้าว เห็นใจตัวเองวิ่งไปหาการบ้านที่อยู่ในห้อง admin รวงข้าวทันที บอกตัวเองว่าเดี๋ยวต้องกลับเข้าไปแก้ไข จะเขียนให้กระชับไม่เขียนยาวแล้ว และในช่วงที่ประชุม มองเห็นพี่น้องเราผ่าน zoom ทำให้เห็นภาพขึ้นมาเลยว่าพวกเรากำลังช่วยพายเรือเข้าฝั่งอยู่ ฝั่งก็อยู่ไม่ไกลนะเห็นพอรำไร ๆ ต่างคนต่างออกแรงอย่างแข็งขัน ถึงแม้จะพายเรือกันไม่เป็นก็ตาม ทำให้ตัวเองเกิดความรู้สึกที่จะพากเพียร เรียนการงานและจะเอาภาระหมู่กลุ่ม เพื่อจะมาพัฒนางานให้ดีขึ้น พร้อมกับพัฒนาจิตวิญญาณไปในเวลาเดียวกัน ขอปวารณาตัวต่อพี่น้องให้พี่น้องสามารถตักเตือน และบอกกล่าวได้ ทุกสถานการณ์ หากตัวเองทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ค่ะ สาธุ
5. ขวัญจิตร เฟื่องฟู (สร้างสงบ) อายุ 42 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ-อาศัยอยู่ ประเทศ เยอรมนี
สภาวธรรม
ต้องขอบพระคุณพี่น้องกลุ่มรวงข้าวที่ได้มารวมเป็นหมู่กลุ่มกัน
เห็นใจตัวเองขณะที่คุรุตรวจงานว่าใจมันไปจ้องอยู่ที่งาน มีลุ้นมีตัวจะเอา ว่าผลจะออกมาอย่างไร เเต่ก็ได้บอกกับตัวเองว่า เรามีฉันทะเเละทำดีที่สุดเล้ว เราควรจะวาง ก็ใจที่ลุ้นก็หายไป พอคุรุกล่าวชมกลุ่มรวงข้าว เห็นใจกระเพื่อมดีใจกับคำชม ได้พิจารณาว่าจะเอาอะไรกับคำชมมันไม่เที่ยง มันอยู่ไม่นาน อย่าไปติดยึดกับลาภ ยศ สรรเสริญเลย เอาใจที่มันไม่ติดยึดดีกว่า มันยั่งยืนเเละสุขกว่า มีใจที่เบิกบานไร้กังวลสุขยิ่งกว่า
ก่อนจะเข้ามาในกลุ่มมีความไม่มั่นใจ ว่าเราจะเป็นตัวถ่วงเพื่อนหรือเปล่า ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ตอนนี้เห็นตัวเองพัฒนาขึ้น มีฉันทะในการเอางานกลุ่มมากกว่าเก่า โดยมีกำลังมีพี่น้องเป็นเเรงเหนี่ยวนำเห็นความเมตตาของเเต่ละท่านที่ช่วยกันขัดเกลา ช่วยเเนะนำ เติมเต็มให้กันเเละกัน อนุโมทนาสาธุในกับพี่น้องในการเอาใจใส่ทั้งงานใน เเละ งานนอก อนุโมทนาสาธุกับพี่น้องทุกท่านคะ
6 วันยา เรียนจันทร์ (อี๊ด)อายุ ปี จิตอาสาสังกัด สวนป่านาบุญ 3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ จ.สุรินทร์
สภาวธรรม ในการร่วมบำเพ็ญกับ มิตรดี กลุ่มรวงข้าว
อยากส่งการบ้านช่วยหมู่กลุ่ม แต่ทำไม่เป็น และไม่ได้เข้าเรียนด้วย
เห็นเพื่อนๆทำได้ ก็อยากทำได้บ้าง อยากช่วย ทำเต็มที่แล้ว ได้ ไม่ได้ ก็ยอมรับ วิบาก “เรื่องแค่นี้ ทำไมทำไม่ได้ มันเป็นอยาางนี้นี่เอง”
ขอบพระคุณ ทุก กำลังใจ ความยินดี การเอื้อให้กำลังใจที่ตนไม่เป็นงาน ของมิตรดี ทำให้เกิดปัญญาว่า
ใช่ วิบากดีก็มาช่วยนะ ในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น
1.เงินเดือนเดือนแรกออกพอดี ถึงไม่พอก็พอแบ่งเบาได้
2.ได้เปลื่ยนตำเหน่งจาก”ลูกจ้างเหมาบริการ”เป็น”นักพัฒนาพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบ(นพต.)”
3.ได้ต่อสัญญาจ้างงานจาก “10เดือนเป็น 12เดือน”
4.ตอนรถเสียก็มีช่างมาเจอพอดี
5.ได้เชื่อมกับมิตรดี
พอคิดได้อย่างนี้ ก็เห็นความสมดุลของวิบากว่า ชีวิตมันก็มีดีมีร้าย อยู่ที่มุมมอง จะมองให้”ทุกข์” จะมองให้”สุข” จะมองให้”ไม่ทุกข์ไม่สุข”ทำให้ความหมองในใจจางคลาย สภาวะคือ มันก็ไม่ได้เสียใจอะไร มาก ก็ยอมรับความจริง แต่มันยังไม่โปร่ง ไม่โล่ง ไม่มีแรง ฝ่ามาถึงการเข้าบำเพ็ญ มันรู้สึกไม่อยากได้อะไร แม้จะรู้ว่าการบำเพ็ญคือสิ่งที่ดีสูงสุด แต่ก็ไม่อยากได้ในขณะที่ตนทำไม่ได้พยายามยอมรับ และทำใจว่า มันไม่ใช่เวลาอยากเก็บพลังสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ขอบพระคุณ กำลังใจจากทุกท่าน จนทำให้เกิดปัญญาในตน ทำให้เห็นความจริง เกิดพลัง ลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง “เก่งแค่ไหนก็แพ้วิบากร้าย ร้ายแค่ไหนก็แพ้วิบากดี คบมิตรดีนี้ทำให้มีพลังปัญญา เพิ่มพลังกายจริงๆ สาธุค่ะ